ผู้จัดการรายวัน 360 - “บิ๊กตู่” บอกอย่าไปให้ความสนใจวันที่ 25 ส.ค.60 ที่ศาลจะตัดสินคดีจำนำข้าว เพราะเป็นเรื่องของบุคคลและศาล ลั่นคืนวันที่ 24 ส.ค.คงมีไม่กี่คนที่จะนอนไม่หลับ ย้อนถามคนไทยทั้งประเทศจะยอมให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นอีกหรือ ด้าน เลขาฯ สมช. เชื่อไม่วุ่นวายหลังศาลตัดสินจำนำข้าว ยันฝ่ายมั่นคงดูแลความเรียบร้อยเต็มที่ กำชับ กทม. ตรวจสอบกล้อง CCTV 40 ตัวรอบศาลฯ พร้อมงัดแผนกรกฎ 52 คุมม็อบ ด้านทนาย “ปู” เผยพร้อมรับฟังคำพิพากษา
วานนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ถึงการเตรียมรับมือการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 25 ส.ค.60 โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคืนวันที่ 24 ส.ค.จะนอนหลับหรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า “มีอะไรหรือ เป็นวันอะไร วันศุกร์หรือ วันศุกร์ก็ดีใจสิ วันศุกร์แล้วผมจะได้พักผ่อน จะไปสนใจว่าเป็นวันอะไร ก็เป็นเรื่องของคดี หรือเป็นเรื่องของใครก็เป็นเรื่องของคนคนนั้น เรื่องของศาล คนที่จะนอนไม่หลับคงมีไม่กี่คนละมั้ง สำหรับผมหลับสบายทุกวันนั่นแหละ งานผมเยอะอยู่แล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่เขาก็เตรียมของเขาตามหน้าที่ ไม่ได้ไปกดดันใคร อีกฝ่ายก็อย่าไปยุแยงตะแคงรั่วว่าจะโน่นจะนี่ อีกฝ่ายก็ต้องเตรียม ไม่รู้จะไปขู่กันทำไม เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องเตรียมการของเขาไว้ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เสียเวลาเปล่า เสียงบประมาณ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแง่การรักษาความปลอดภัยจะมีมาตรการอะไรออกมาหรือไม่ หากเกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้นมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “แล้วจะมีได้หรือไม่ ประเทศไทย คนไทยจะยอมให้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ สมมติว่าศาลตัดสินออกมาแล้ว ไม่ว่าคดีจะออกมาอย่างไร ซึ่งผมไม่รู้เพราะผมไม่เคยรู้ล่วงหน้า และไม่อยากจะรู้ด้วย แต่ถามว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมา แล้วคนไทยทั้งประเทศยอมรับได้หรือไม่ ถ้าคนไทยทั้งประเทศยอมรับได้ ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีกผมก็ยอมพวกท่านแล้ว คนไทยเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ คนไทยทุกคนรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ เป็นตัวกลางที่จะทำให้ประเทศสงบเดินหน้าประเทศไปข้างหน้าให้ได้”
*** เลขาฯ สมช.มั่นใจวันพิพากษาราบรื่น
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ในวันที่ 25 ส.ค.60 ว่า ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่เคยทำ ฝ่ายความมั่นคงติดตามดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆ โดยไม่ประมาท เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้น ซึ่งจากข้อมูลที่มีอยู่คิดว่าสถานการณ์ในวันดังกล่าวน่าจะดี และเชื่อว่าจะไม่มีควันหลงการเคลื่อนไหวหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาเสร็จสิ้น ทั้งนี้ ขอย้ำว่าฝ่ายความมั่นคงจะดูแลความเรียบร้อยในทุกเรื่อง โดยกำลังพลที่จะดูแลความเรียบร้อยจะประเมินจากสถานการณ์เป็นหลักขณะนี้คิดว่าน่าจะเพียงพอ
*** ติดตั้ง CCTV เพิ่มรอบศาลฯ
ด้าน พล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ตำรวจประสานกับกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) บริเวณหน้าศาลฎีกานักการเมือง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ และพื้นที่ใกล้เคียงให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับมีการติดตั้งเพิ่มเติมประมาณ 40 ตัว แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อใช้ดูแลสถานการณ์และใช้เป็นหลักฐานต่อผู้ฝ่าฝืนและทำผิดกฎหมายในวันตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 ส.ค.60
*** งัดแผนกรกฎ 52 คุมมวลชนแดง
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ.10) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย คสช. และประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเร๊นซ์ ร่วมกับ ผบช.ภ.1-9 เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายประเมินมวลชนจากต่างจังหวัดจะเดินทางเข้ามาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ มากขึ้น ซึ่งตำรวจจะใช้มาตรการตาม พ.ร.บ.ชุมนุมปี 2558 และแผนกรกฎ 52 ในการควบคุมสถานการณ์ จึงอยากฝากถึงประชาชนหากไม่จำเป็นก็ให้ฟังคำพิพากษาอยู่ที่บ้าน เพราะอาจเข้าข่ายละเมิดอานาจศาลได้ เช่น ไม่รักษาความสงบเรียบร้อย ปิดป้าย ใช้เสียงโห่ฮา เรียกร้องคัดค้าน สนับสนุน อย่างใดอย่างหนึ่งในขณะที่มีการอ่านคำพิพากษา
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สำหรับกำลังกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้ามาดูแลความปลอดภัยได้รับการสนับสนุนจากตำรวจภูธรภาค 8 และ ภาค 9 จำนวน 21 กองร้อย และจาก บช.น. อีก 3 กองร้อย มีการตั้งจุดตรวจค้นจำนวน 3 จุด บริเวณทางเข้าและที่คาดว่าจะมีมวลชนเดินทางเข้า-ออก ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างจะแคบ และไม่อนุญาตให้เข้าไปบริเวณศาล จะกั้นพื้นที่ตั้งแต่แนวถนนด้านนอก จะมีแผงกั้นและมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ หากเดินทางมาก็ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกั้นพื้นที่อำนาจศาลไว้ หากมาก็จะหมิ่นเหม่เกิดการละเมิดต่อกฎหมายขึ้นมา ซึ่งมี พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะปี 58 และประกาศ คสช.ฉบับที่ 3 รวมทั้งอาจจะละเมิดเขตอำนาจศาลด้วย
*** ทนาย “ปู” พร้อมฟังคำพิพากษา
นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในวันที่ 25 ส.ค.60 ว่า ไม่ว่าคำพิพากษาว่าจะออกมารูปแบบใด ทีมทนายความเตรียมความพร้อมไว้ทุกทาง โดยคาดศาลจะอ่านคำพิพากษาคดีจีทูจีที่มีนายบุญทรงกับพวกเป็นจำเลยก่อน เนื่องจากคดีนี้นัดฟังคำพิพากษาก่อนคดีจำนำข้าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กำลังใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นอย่างไรบ้าง นายนรวิชญ์กล่าวว่า คงไม่สามารถพูดแทนท่านได้ แต่คนเราฟังคำพิพากษาคงไม่มีใครรู้สึกดี ถ้าพูดถึงกำลังใจก็ย่อมดีในส่วนหนึ่งที่มีพี่น้องประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมาก โดยอดีตนายกรัฐมนตรียังพร้อมเดินทางไปฟังคำพิพากษา
วานนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ถึงการเตรียมรับมือการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 25 ส.ค.60 โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคืนวันที่ 24 ส.ค.จะนอนหลับหรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า “มีอะไรหรือ เป็นวันอะไร วันศุกร์หรือ วันศุกร์ก็ดีใจสิ วันศุกร์แล้วผมจะได้พักผ่อน จะไปสนใจว่าเป็นวันอะไร ก็เป็นเรื่องของคดี หรือเป็นเรื่องของใครก็เป็นเรื่องของคนคนนั้น เรื่องของศาล คนที่จะนอนไม่หลับคงมีไม่กี่คนละมั้ง สำหรับผมหลับสบายทุกวันนั่นแหละ งานผมเยอะอยู่แล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่เขาก็เตรียมของเขาตามหน้าที่ ไม่ได้ไปกดดันใคร อีกฝ่ายก็อย่าไปยุแยงตะแคงรั่วว่าจะโน่นจะนี่ อีกฝ่ายก็ต้องเตรียม ไม่รู้จะไปขู่กันทำไม เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องเตรียมการของเขาไว้ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เสียเวลาเปล่า เสียงบประมาณ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแง่การรักษาความปลอดภัยจะมีมาตรการอะไรออกมาหรือไม่ หากเกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้นมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “แล้วจะมีได้หรือไม่ ประเทศไทย คนไทยจะยอมให้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ สมมติว่าศาลตัดสินออกมาแล้ว ไม่ว่าคดีจะออกมาอย่างไร ซึ่งผมไม่รู้เพราะผมไม่เคยรู้ล่วงหน้า และไม่อยากจะรู้ด้วย แต่ถามว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมา แล้วคนไทยทั้งประเทศยอมรับได้หรือไม่ ถ้าคนไทยทั้งประเทศยอมรับได้ ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีกผมก็ยอมพวกท่านแล้ว คนไทยเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ คนไทยทุกคนรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ เป็นตัวกลางที่จะทำให้ประเทศสงบเดินหน้าประเทศไปข้างหน้าให้ได้”
*** เลขาฯ สมช.มั่นใจวันพิพากษาราบรื่น
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ในวันที่ 25 ส.ค.60 ว่า ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่เคยทำ ฝ่ายความมั่นคงติดตามดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆ โดยไม่ประมาท เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้น ซึ่งจากข้อมูลที่มีอยู่คิดว่าสถานการณ์ในวันดังกล่าวน่าจะดี และเชื่อว่าจะไม่มีควันหลงการเคลื่อนไหวหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาเสร็จสิ้น ทั้งนี้ ขอย้ำว่าฝ่ายความมั่นคงจะดูแลความเรียบร้อยในทุกเรื่อง โดยกำลังพลที่จะดูแลความเรียบร้อยจะประเมินจากสถานการณ์เป็นหลักขณะนี้คิดว่าน่าจะเพียงพอ
*** ติดตั้ง CCTV เพิ่มรอบศาลฯ
ด้าน พล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ตำรวจประสานกับกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) บริเวณหน้าศาลฎีกานักการเมือง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ และพื้นที่ใกล้เคียงให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับมีการติดตั้งเพิ่มเติมประมาณ 40 ตัว แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อใช้ดูแลสถานการณ์และใช้เป็นหลักฐานต่อผู้ฝ่าฝืนและทำผิดกฎหมายในวันตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 ส.ค.60
*** งัดแผนกรกฎ 52 คุมมวลชนแดง
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ.10) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย คสช. และประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเร๊นซ์ ร่วมกับ ผบช.ภ.1-9 เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายประเมินมวลชนจากต่างจังหวัดจะเดินทางเข้ามาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ มากขึ้น ซึ่งตำรวจจะใช้มาตรการตาม พ.ร.บ.ชุมนุมปี 2558 และแผนกรกฎ 52 ในการควบคุมสถานการณ์ จึงอยากฝากถึงประชาชนหากไม่จำเป็นก็ให้ฟังคำพิพากษาอยู่ที่บ้าน เพราะอาจเข้าข่ายละเมิดอานาจศาลได้ เช่น ไม่รักษาความสงบเรียบร้อย ปิดป้าย ใช้เสียงโห่ฮา เรียกร้องคัดค้าน สนับสนุน อย่างใดอย่างหนึ่งในขณะที่มีการอ่านคำพิพากษา
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สำหรับกำลังกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้ามาดูแลความปลอดภัยได้รับการสนับสนุนจากตำรวจภูธรภาค 8 และ ภาค 9 จำนวน 21 กองร้อย และจาก บช.น. อีก 3 กองร้อย มีการตั้งจุดตรวจค้นจำนวน 3 จุด บริเวณทางเข้าและที่คาดว่าจะมีมวลชนเดินทางเข้า-ออก ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างจะแคบ และไม่อนุญาตให้เข้าไปบริเวณศาล จะกั้นพื้นที่ตั้งแต่แนวถนนด้านนอก จะมีแผงกั้นและมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ หากเดินทางมาก็ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกั้นพื้นที่อำนาจศาลไว้ หากมาก็จะหมิ่นเหม่เกิดการละเมิดต่อกฎหมายขึ้นมา ซึ่งมี พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะปี 58 และประกาศ คสช.ฉบับที่ 3 รวมทั้งอาจจะละเมิดเขตอำนาจศาลด้วย
*** ทนาย “ปู” พร้อมฟังคำพิพากษา
นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในวันที่ 25 ส.ค.60 ว่า ไม่ว่าคำพิพากษาว่าจะออกมารูปแบบใด ทีมทนายความเตรียมความพร้อมไว้ทุกทาง โดยคาดศาลจะอ่านคำพิพากษาคดีจีทูจีที่มีนายบุญทรงกับพวกเป็นจำเลยก่อน เนื่องจากคดีนี้นัดฟังคำพิพากษาก่อนคดีจำนำข้าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กำลังใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นอย่างไรบ้าง นายนรวิชญ์กล่าวว่า คงไม่สามารถพูดแทนท่านได้ แต่คนเราฟังคำพิพากษาคงไม่มีใครรู้สึกดี ถ้าพูดถึงกำลังใจก็ย่อมดีในส่วนหนึ่งที่มีพี่น้องประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมาก โดยอดีตนายกรัฐมนตรียังพร้อมเดินทางไปฟังคำพิพากษา