xs
xsm
sm
md
lg

ออกหมายจับ4บีอาร์เอ็น ผบ.ทบ.ยันไม่ปลด มทภ.4

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

"บิ๊กเจี๊ยบ" เผย จับ 4 ผู้ต้องสงสัยได้แล้ว เสียใจที่มีประชาชนตาย ชม มทภ.4- จนท. เร่งคลี่คลายสถานการณ์ได้รวดเร็ว ยันไม่เปลี่ยนตัว มทภ.4

จากกรณีคนร้ายเข้าบุกปล้นรถยนต์มือสองที่ร้านในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา 6 คัน และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบและวิสามัญคนร้ายได้ 1 ราย ที่จุดด่านตรวจเกาะหม้อแกง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ส่วนอีกคันคนร้ายนำไปประกอบวางระเบิดริมถนนสาย 410 ยะลา-ปัตตานี ช่วง อ.หนองจิก และเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. คนร้ายได้นำไปจอดวางระเบิดคาร์บอมบ์ที่หน้าบ้านพักตำรวจ สภ.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการปะทะสำหรับคนร้ายที่น่าจะออกหมายจับได้ 4 คน จากการนำรูปแนวร่วมต้องสงสัยไปให้ดู ปรากฏว่าพยานสามารถชี้ตัวยืนยันได้ทั้งหมด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังทราบถึงแผนการของคนร้ายที่สั่งการบุกวางแผนบุกเข้าปล้น โดยรถทั้งหมดจะนำไปก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้พร้อมๆ กัน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สามารถติดตามคันสุดท้ายได้แล้ว เป็นรถมาสด้าทันเดอร์ สีเทา ทะเบียน บง 8378 นราธิวาสคนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้ในบริเวณสวนยาง ม.3 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ตรวจสอบมีแกลลอนน้ำมันในกระบะหลัง รอเจ้าหน้าที่ EOD เข้าตรวจสอบ พบว่ามีถังน้ำมันเบนซิน 3 แกลลอน อยู่ท้ายรถ และไม่พบมีวัตถุระเบิด แต่กันพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานภายในรถเพื่อใช้แกะรอยมัดตัวกลุ่มคนร้าย คาดว่าคนร้ายขับรถเพื่อเป็นเส้นทางหลบหนีจาก อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มุ่งหน้าเข้าไปในพื้นที่ อ.กาบัง จ.ยะลา ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน แต่เกรงว่าจะพบด่านสกัดของเจ้าหน้าที่ จึงได้จอดรถทิ้งไว้แล้วหลบหนี

โดย พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภาค 9 ได้เดินทางลงพื้นที่พร้อมด้วยกับชุดอีโอดีด้วย และมีรายงานว่า ชุดสืบสวนได้สอบสวนพยาน จนรู้ตัวเครือข่ายผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว โดยมีคนร้ายลงมือทั้งหมด 7 คน ปิดบังใบหน้า 2 คน อีก 5 คน ไม่ปิดบังใบหน้า ซึ่งพยานชี้ตัวบุคคลจากแฟ้มประวัติอาชญากรในคดีความมั่นคงได้แล้วหลายคน เป็นแนวร่วมกลุ่มบีอาร์เอ็นระดับปฏิบัติการ เคลื่อนไหวใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีหมายจับคดีความมั่นคงหลายหมายจับ และเตรียมออกหมายจับได้ 4 คน ภายใน 1-2 วันนี้ เนื่องจากในจำนวน 5 คนนี้ถูกวิสามัญไปแล้ว 1 ราย

อีกด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า อย่าไปมองว่ามีช่องโหว่ เพราะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) กว้าง ซึ่งพื้นที่ก่อเหตุใครจะไปคิดว่าจะลงมือที่ จ.สงขลา แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ประมาท เพราะหลังเกิดเหตุ เราได้สกัดจับ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ กลุ่มเก่า โดยชี้ตัวผู้ต้องหาได้ 4 คน ขณะที่มาตรการการป้องกันความรุนแรง เราเตรียมการได้ดีอยู่แล้วในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จนทำให้ผู้ก่อเหตุ เปลี่ยนมาก่อเหตุ ที่ อ.เทพา จ.สงขลา แทน

"เจ้าหน้าที่ทำทุกอย่างไม่ให้มีการก่อเหตุ ทำให้พื้นที่จชต.ไม่สามารถก่อเหตุได้ หากเจ้าหน้าที่จับกุมไม่ได้ เขาจะไปก่อเหตุรุนแรงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน ผมอยากให้ผู้สื่อข่าว ชมเชยเจ้าหน้าที่บ้าง ที่ตั้งใจทำงาน ส่วนผู้ร่วมกระบวนการก่อเหตุทั้งหมด เราจะสอบสวน เพื่อจับกุมตัวให้ได้ต่อไป" พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามพลิกแพลงสถานการณ์ไปตามรูปแบบ โดยใช้วิธีการที่เราไม่คาดคิด ตนยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่พยายามวางมาตรการป้องกันอยู่แล้ว แต่พื้นที่กว้างอาจดูแลได้ไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ได้โทรศัพท์มาถึงตน เพื่อสั่งการให้เร่งรัดคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้โดยไว โดยมีการปฏิบัติมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันสามารถยึดรถที่ถูกปล้นไปคืนทั้งหมด

เมื่อถามว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้วควรเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่4 หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า คงไม่ใช่สถานการณ์แบบนี้ว่าจะต้องเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน เพราะมีปัจจัยอื่นๆอีกมาก แต่การทำงานที่ผ่านมาตนขอชื่นชมแม่ทัพภาคที่4 ทำงานดี เพราะตนติดตามการทำงานมาตลอดโดยเฉพาะงานด้านการข่าว

ทั้งนี้ กลไกการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่แม่ทัพภาคที่ 4 เพียงคนเดียว และเรื่องนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของแม่ทัพภาคที่ 4 ว่าถ้าเกิดเหตุแล้วต้องเปลี่ยนตัว คงไม่ใช่ประเด็น.
กำลังโหลดความคิดเห็น