ผู้จัดการรายวัน360-ผู้ว่าฯ สตง. ยันพบ อปท. ใช้งบขนคนเชียร์ "ปู" จริง หลังมีข้าราชการน้ำดีแจ้งข้อมูล เตรียมสอบก่อนเอาผิดและเรียกเงินคืนแผ่นดิน พร้อมยันไม่พบการระบายข้าวผิดปกติ ด้าน คสช. สั่งคุมเข้มสกัดขนคนเข้ากรุง เหตุพบสัญญาณนำไปขยายผลทางการเมือง "มาร์ค"ชี้เป็นหน้าที่ต้องรับทราบความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ส่วนจะเป็นการปล่อยปละละเลยหรือไม่ อยู่ที่ดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณา
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สตง. ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีการใช้งบประมาณในการจัดกิจกรรมในลักษณะที่หลอกลวงประชาชนว่าจะไปดูงาน แต่กลับถูกพาไปที่หน้าศาลเพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ขึ้นศาลในคดีจำนำข้าว โดยยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นจังหวัดใด ขอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน แต่ยืนยันได้ว่ามีความคืบหน้า โดยมีข้าราชการบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าวได้ให้ข้อมูลมาแล้ว
"กำลังตรวจสอบอยู่ หากยังไม่มีการเบิกงบประมาณ ก็ไม่สามารถเอาผิดได้ แต่ถ้ามีการเบิกงบประมาณไปแล้ว ก็จะถือว่ามีความผิด จะมีการดำเนินการเอาผิดและเรียกเงินคืนแผ่นดินต่อไป"
นอกจากนี้ สตง. กำลังอยู่ระหว่างการเสนอรายชื่อข้าราชการที่เข้าข่ายทุจริต เพื่อให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พิจารณาก่อนที่จะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
นายพิศิษฐ์กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ทางพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ สตง. เข้าไปตรวจสอบการระบายข้าวของรัฐบาล เห็นว่า การระบายข้าวได้ดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ส่วนการตรวจสอบโกดังเก็บข้าว ผลการตรวจสอบก่อนหน้านี้ ถือว่ามีความน่าเชื่อถือ หากเห็นว่าไม่น่าเชื่อถือ ทำไมไม่ร้องเรียนตั้งแต่แรก
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำนปช. ระบุว่า แกนนำนปช.ต่างจังหวัด ถูกเจ้าหน้าที่สกัดทุกช่องทางเพื่อไม่ให้ไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันพิพากษาคดีรับจำนำข้าว วันที่ 25 ส.ค. ว่า ขอชี้แจงว่าเป็นเรื่องของการขอความร่วมมือ เพราะในกิจกรรมบางลักษณะ อาจทำให้สังคมมองออกไปได้ในหลายแง่มุม ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศโดยทั่วไป ให้มีความเรียบร้อยมากที่สุด การจะดำเนินกิจกรรมอะไร ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงไปเกี่ยวโยงทางการเมือง
ส่วนการที่อ้างว่าเจ้าหน้าที่ไปสกัดมวลชน ก็จำเป็นต้องเข้มงวดต่อการเดินทางในบางลักษณะ บางกลุ่มและบางกรณี เพื่อไม่ต้องการให้บางบุคคลอาศัยสถานการณ์ หยิบไปใช้ให้มีผลในมุมทางการเมือง โดยเฉพาะข้อกังวลเกี่ยวกับกรณีการขน การเกณฑ์คนไปทำกิจกรรมใดๆ ดังนั้น ขอให้เชื่อเจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจอย่างมีเหตุมีผล พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ห้ามการให้กำลังใจแต่อย่างใด แต่ไม่อยากให้มีการขยับ หรือเคลื่อนไหวอะไรผิดไปจากความเป็นธรรมชาติที่ควรจะเป็นมากกว่า
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้ท้วงติงมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มทำโครงการจำนำข้าว มีการอภิปรายในภา ตั้งกระทู้ถาม เสนอเป็นญัตติ ถือว่ารัฐบาลต้องรับรู้ รับทราบ และเมื่อดำเนินโครงการมาระยะหนึ่ง ก็มีการเก็บข้าวในสต๊อก ก็มีการเสนอข้อมูลอีกว่ามีการทุจริตในเรื่องการเวียนเทียนข้าว และพอถึงขั้นระบายข้าว ก็พบอีกว่า ที่อ้างว่าขายกันรัฐต่อรัฐ ของจริงหรือเปล่า ซึ่งก็เป็นคดีอยู่ คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ พร้อมพวก 28 คน ส่วนคดีจำนำข้าว เมื่อรู้แล้วว่าเสียหาย แต่ไม่ยับยั้ง จึงเป็นเรื่องที่เป็นดุลพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยว่าพฤติกรรมแบบนี้ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สตง. ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีการใช้งบประมาณในการจัดกิจกรรมในลักษณะที่หลอกลวงประชาชนว่าจะไปดูงาน แต่กลับถูกพาไปที่หน้าศาลเพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ขึ้นศาลในคดีจำนำข้าว โดยยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นจังหวัดใด ขอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน แต่ยืนยันได้ว่ามีความคืบหน้า โดยมีข้าราชการบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าวได้ให้ข้อมูลมาแล้ว
"กำลังตรวจสอบอยู่ หากยังไม่มีการเบิกงบประมาณ ก็ไม่สามารถเอาผิดได้ แต่ถ้ามีการเบิกงบประมาณไปแล้ว ก็จะถือว่ามีความผิด จะมีการดำเนินการเอาผิดและเรียกเงินคืนแผ่นดินต่อไป"
นอกจากนี้ สตง. กำลังอยู่ระหว่างการเสนอรายชื่อข้าราชการที่เข้าข่ายทุจริต เพื่อให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พิจารณาก่อนที่จะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
นายพิศิษฐ์กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ทางพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ สตง. เข้าไปตรวจสอบการระบายข้าวของรัฐบาล เห็นว่า การระบายข้าวได้ดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ส่วนการตรวจสอบโกดังเก็บข้าว ผลการตรวจสอบก่อนหน้านี้ ถือว่ามีความน่าเชื่อถือ หากเห็นว่าไม่น่าเชื่อถือ ทำไมไม่ร้องเรียนตั้งแต่แรก
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำนปช. ระบุว่า แกนนำนปช.ต่างจังหวัด ถูกเจ้าหน้าที่สกัดทุกช่องทางเพื่อไม่ให้ไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันพิพากษาคดีรับจำนำข้าว วันที่ 25 ส.ค. ว่า ขอชี้แจงว่าเป็นเรื่องของการขอความร่วมมือ เพราะในกิจกรรมบางลักษณะ อาจทำให้สังคมมองออกไปได้ในหลายแง่มุม ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศโดยทั่วไป ให้มีความเรียบร้อยมากที่สุด การจะดำเนินกิจกรรมอะไร ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงไปเกี่ยวโยงทางการเมือง
ส่วนการที่อ้างว่าเจ้าหน้าที่ไปสกัดมวลชน ก็จำเป็นต้องเข้มงวดต่อการเดินทางในบางลักษณะ บางกลุ่มและบางกรณี เพื่อไม่ต้องการให้บางบุคคลอาศัยสถานการณ์ หยิบไปใช้ให้มีผลในมุมทางการเมือง โดยเฉพาะข้อกังวลเกี่ยวกับกรณีการขน การเกณฑ์คนไปทำกิจกรรมใดๆ ดังนั้น ขอให้เชื่อเจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจอย่างมีเหตุมีผล พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ห้ามการให้กำลังใจแต่อย่างใด แต่ไม่อยากให้มีการขยับ หรือเคลื่อนไหวอะไรผิดไปจากความเป็นธรรมชาติที่ควรจะเป็นมากกว่า
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้ท้วงติงมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มทำโครงการจำนำข้าว มีการอภิปรายในภา ตั้งกระทู้ถาม เสนอเป็นญัตติ ถือว่ารัฐบาลต้องรับรู้ รับทราบ และเมื่อดำเนินโครงการมาระยะหนึ่ง ก็มีการเก็บข้าวในสต๊อก ก็มีการเสนอข้อมูลอีกว่ามีการทุจริตในเรื่องการเวียนเทียนข้าว และพอถึงขั้นระบายข้าว ก็พบอีกว่า ที่อ้างว่าขายกันรัฐต่อรัฐ ของจริงหรือเปล่า ซึ่งก็เป็นคดีอยู่ คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ พร้อมพวก 28 คน ส่วนคดีจำนำข้าว เมื่อรู้แล้วว่าเสียหาย แต่ไม่ยับยั้ง จึงเป็นเรื่องที่เป็นดุลพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยว่าพฤติกรรมแบบนี้ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่