xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กป้อมป้อง"ป๊อด"ร่ำรวยผิดปกติแค่เรื่องเก่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360 - "ประวิตร" อ้างคดีน้องชาย "พัชรวาท" ร่ำรวยผิดปกติ เป็นเรื่องเก่า โวยสื่อทั้งนั้นที่หยิบยกขึ้นมาสร้างประเด็น ขณะที่ป.ป.ช.อยู่ระหว่างสอบพยานเพิ่มเติม ด้าน "วัชระ" ชง ป.ป.ช.สอบ "ฉัตรชัย-ดวงพร" มีเอี่ยวโครงการระบายข้าวสต๊อกรัฐ ส่อทุจริต ชี้ทำเป็นขบวนการฮั้วประมูล อ้างคำสั่งนายกฯ กีดกันเอกชนรายอื่น แฉปล่อยให้ บริษัทที่มีคดีกับราชการ-โดนฟ้องร่วมจีทูเก๊ ร่วมประมูลข้าวได้เฉย แนะเช็กเส้นทางการเงิน-เส้นทางเดินของข้าว รู้เบื้องหลังขบวนการนี้แน่ "สุวพันธุ์"เผยกรมบังคับคดีส่งคำชี้แจงปมยึดทรัพย์"ยิ่งลักษณ์" ให้ศาลปกครองแล้ว "บิ๊กป้อม"เบรกมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจ"ปู" บอกจะมาทำไม ไม่ต้องมา

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ยังมีคดีร่ำรวยผิดปกติอยู่ในชั้นสำนวนป.ป.ช. ว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด คงเป็นเรื่องเก่า นานมาแล้ว และที่ถูกจับตามองเรื่องน้องชายนั้น ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตน เพราะน้องชายตอนนี้ก็อายุ 60 กว่าปีแล้ว ขณะที่ตนก็ 70 ปี จะไปห่วงอะไรอีก

เมื่อถามว่ามองว่าเป็นการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อหวังโจมตี พล.อ.ประวิตร หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นสื่อทั้งนั้นที่เป็นคนยกประเด็นขึ้นมา

สำหรับคดี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สวรรณ อดีต ผบ.ตร. มีผู้ยื่นร้องเรียนตั้งแต่ปี 2553 โดยป.ป.ช.ได้รับเรื่องไว้ เมื่อวันที่ 26 มี.ค.53 มีข้อกล่าวหา 2 ข้อหา 1. มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ โดยร่วมกันเป็นเจ้าของคอกม้า“รุ่งโรจน์ รุ่งพัชร”ตั้งอยู่ที่หุบเขาแก่งคอย มูลค่าร้อยล้านบาท และ 2. พฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ โดยทำนิติกรรมอำพราง ด้วยการจดทะเบียนจัดตั้ง หจก.สมถวิลรีสอร์ท ซึ่งมี นางสมถวิล วงษ์สุวรรณ ภรรยา และ นางสาวนวพร วงษ์สุวรรณ ลูกสาวของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เป็นหุ้นส่วน เพื่อเป็นเจ้าของสมถวิลรีสอร์ท มูลค่ากว่าร้อยล้านบาท ตั้งอยู่ หมู่ที่ 9 ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

สำหรับสถานะของคดีดังกล่าว ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เมื่อปี 57 และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้คัดค้าน ต่อมา ป.ป.ช.ได้แจ้งผลการคัดค้านดังกล่าวแก่ผู้ถูกกล่าวหา และคณะอนุกรรมการได้ไต่สวนครั้งแรก เมื่อวันที่ 26 ก.ย.57 ต่อมา ในปี 58 ได้สอบปากคำพยานบุคคล และรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งต้นปี 60 จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ล่าสุด ในเดือน พ.ค.60 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้สรุปข้อเท็จจริง เสนอคณะอนุกรรมการไต่สวนพิจารณาแล้ว ซึ่งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการสอบปากคำพยานบุคคลต่อ ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่า ผลสอบกรณีส่อว่าร่ำรวยผิดปกติของ พล.ต.อ.พัชรวาท ในยุคที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธาน ป.ป.ช. จะมีบทสรุปอย่างไร

***ชงป.ป.ช.สอบ"ฉัตรชัย"โกงระบายข้าว

ขณะที่วานนี้ (8 ส.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. นางสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. รวมทั้งสำเนาถึง กรรมการ ป.ป.ช.ทั้งหมด เพื่อให้ตรวจสอบกรณี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกับเอกชน ทำการทุจริตโครงการระบายข้าวหรือไม่ โดยมีนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักการข่าวและกิจการพิเศษ สำนักงานป.ป.ช. เป็นผู้รับมอบหนังสือ

นายวัชระ กล่าวว่า ตนได้ติดตามความไม่โปร่งใส ความผิดปกติ ของการประมูลระบายข้าวมาอย่างต่อเนื่อง และมีข้อสงสัยถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ให้บางกลุ่มบางพวกในลักษณะการฮั้วประมูล รวมทั้งมีการตัดสิทธิเอกชนบางราย ที่เข้าข่ายการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากมีข้อมูลว่า บริษัทที่ถูกตัดสิทธิ์จากการเข้าทำสัญญาและร่วมประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐ ในส่วนของข้าวอุตสาหกรรม ที่ไม่ใช่คน และสัตว์กิน บริษัทแห่งนั้นมีวัตถุประสงค์ และดำเนินธุรกิจตามที่ได้แจ้งต่อกรมการค้าต่างประเทศจริง แต่ถูกนำเรื่องที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในอดีตกว่า 20 ปีที่แล้ว มาเป็นเหตุผลในการตัดสิทธิ์ ยิ่งไปกว่านั้นยังปล่อยให้บริษัทใหม่ ที่ไม่เคยมีประวัติการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับข้าวอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นขนาดโรงงาน กำลังการผลิต และพื้นที่จัดเก็บสต็อกข้าวเลย เข้ามาประกวดราคา จึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ กรณีของกลุ่ม บริษัท ข้าวไชยพร จำกัด และกลุ่มบริษัท พี.เอส.ซี. สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งทราบว่า เคยมีปัญหากับทางราชการ และถูกคณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิด รวมทั้งกำลังถูกฟ้องในคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แต่ยังได้เข้ามาซื้อข้าวใน งวด 1/2560 และ งวดที่ 2/2560 ด้วย ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท กรุงไทยพืชผล จำกัด ที่เข้าประมูลข้าว และได้รับอนุมัติให้ซื้อข้าวได้ แต่มีประวัติการกระทำผิดกับทางราชการมาก่อนเช่นกัน

จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จึงนำมาซึ่งข้อสงสัยว่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ หรือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มีความประพฤติมิชอบ และรู้เห็นเป็นใจ ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ที่กล่าวไปแล้ว หรือไม่ ซึ่งตนก็เคยร้องเรียนให้ทำการตรวจสอบ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ทั้งยังมีข่าวปรากฏว่า มีการอ้างอิงถึงคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) ให้เอกชนรายหนึ่ง เป็นผู้ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้เสนอซื้อข้าวสาร ถึงขนาดจะริบหลักประกันซองด้วย จึงสงสัยว่าเป็นคำสั่งของนายกฯ จริงหรือไม่ และคณะอนุกรรมการพิจาณาระบายข้าว และกรรมการ นบข. คนอื่นๆ รู้เรื่องหรือไม่

"ต้องตรวจสอบจากกลุ่มพ่อค้าที่เข้าทำสัญญาซื้อขายข้าวกับรัฐ เพราะมีกลุ่มพ่อค้าข้าว ที่ได้ชนะการประมูลแล้ว แต่กลับนำเอาข้าวอุตสาหกรรมออกขายไปให้คนบริโภค ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากหลักฐานการจำหน่ายข้าว หรือเส้นทางเดินของข้าว และการทำธุรกรรมทางการเงิน แหล่งที่มาของจำนวนเงิน ตลอดจนถึงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินกับทุกฝ่าย และกระบวนการผลิตของกลุ่มพ่อค้าข้าว ที่ได้ทำสัญญาไว้กับรัฐ และผลิตผลจากการผลิตข้าวอุตสาหกรรมที่ประมูลได้ ว่าผลิตผลนั้นได้ผลิตมาจากข้าวอุตสาหกรรมของรัฐหรือไม่" นายวัชระ กล่าว

ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึง กรณีศาลปกครองให้กรมบังคับคดีส่งความเห็นประกอบการพิจารณาคำร้องขอทุเลาคำสั่งปกครองให้ยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า กรมบังคับคดีไม่ได้รายงานเรื่องนี้มาที่ตน แต่คงมีการชี้แจงศาลปกครองไป เพราะคิดว่าศาลปกครองคงต้องการข้อมูลว่า กรมบังคับคดี มีหลักการทำงานอย่างไร ซึ่งการดำเนินการกรณีนี้ของกรมบังคับคดี ได้ทำตามหลักเกณฑ์เหมือนกับคดีอื่น นโยบายของกระทรวงยุติธรรม เรายึดหลักกฎหมาย ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึง มาตรการในการรับมือมวลชน ที่จะเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ภายหลังจากมีการตรวจสอบเรื่องรถตู้ที่ขนคนมาว่า ไม่มีมาตรการอื่นเพิ่มเติม ซึ่งตนได้บอกไปแล้วว่า ไม่ต้องมา จะมาทำไม

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขา คสช. กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงการประเมินสถานการณ์ ว่าจะมีมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 25 ส.ค. ที่ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำตัดสินในคดีจำนำข้าว ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์หน้า ตนจะเชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้องที่ดูแลด้านความปลอดภัยเข้าประชุม เพื่อกำหนดแนวทาง คิดว่าจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเป็นหลักเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ตนมองว่าไม่น่าห่วงอะไรมากนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น