xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว


** ไฟท์บังคับ ป.ป.ช. ยุค“บิ๊กกุ้ย”ต้องอุทธรณ์คดี“7 ตุลาทมิฬ”ผิดจากนี้ ก็ประจานตัวเองว่าเป็น“เด็กบ้านไหน”จนชกไม่สมศักดิ์ศรีในชั้นศาล

ต้องบอกว่า ผิดไปจากที่คาดหวังไม่น้อย กับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 .. ที่องค์คณะผู้พิพากษาตัดสิน“ยกฟ้อง”จำเลยทั้ง 4 "แก๊งออฟโฟร์" สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. .. ในชั้นนี้คำพิพากษาถือเป็นที่สุด คงไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงแก้ขอะไรได้ แต่ก็น่าสนใจว่าการพิพากษายกฟ้องครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นเอกฉันท์ไปซะทีเดียว ข่าวว่า ผลการลงมติขององค์คณะฯเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ก็ต้องรอดูคำพิพากษาฉบับเต็ม และคำวินิจฉัยส่วนตัวของผู้พิพากษาแต่ละคน กันอีกครั้ง .. และก็เป็นไปตามที่ดักคอไว้แต่ต้นว่า หากศาลฯ สั่งยกไม่ว่าจะทั้ง 4 จำเลย หรือเพียงบางคน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะเป็นโจทก์ที่ยื่นฟ้องคดีนี้ จะมีท่าทีอย่างไร .. โดยเฉพาะ ประเด็นการยื่นอุทธรณ์ ที่รัฐธรรมนูญ 2560 เปิดทางให้กระทำได้ในทันที ไม่เกิน 30 วัน หลังคำพิพากษาออกมา
แต่ก็ต้องบอกว่า คดีนี้ตั้งแต่หมดยุค คณะกรรมการป.ป.ช. ที่มี ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ เป็นประธาน ผลัดใบเปลี่ยนมือมาเป็น“บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. คนปัจจุบัน ก็มีความพยายาม“ล้มคดี”นี้หลายครั้ง .. หลังจากที่มีการผลักดัน“บิ๊กกุ้ย”คนสนิทของ“บ้านวงษ์สุวรรณ”เข้ามายึดหัวหาด ป.ป.ช. .. จากนั้นไม่นาน“บิ๊กป๊อด”น้องรักของ“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้พิจารณาถอนฟ้องคดีออกจากศาลฎีกาฯ .. แรกเริ่มเดิมที มีทีท่าว่า คณะกรรมการป.ป.ช.ชุดนี้จะรับลูก แต่เมื่อสังคมคัดค้านอย่างกว้างขวาง ที่สุดจึงถอยหลังกลับ แล้วพับใส่ลิ้นชักไว้ .. แต่การที่ไม่ถอนฟ้องตามคำร้องของ“บิ๊กป๊อด”ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้ทุกคนไว้วางใจได้ เพราะหลังจากนั้นเป็นต้นมา การต่อสู้ของป.ป.ช.ในฐานะโจทก์ ในชั้นศาลฎีกาฯ ถูกครหาอย่างหนักหน่วงว่าเป็น “มวยชกไม่สมศักดิ์ศรี”ถ้าเป็นมวยจริง ที่ราชดำเนิน-ลุมพินี คงโดนไล่ลงแบบไม่ครบยกไปแล้ว ..
เหมือนกับที่ "วีระ สมความคิด" หนึ่งในผู้ที่ได้เข้าไปให้การในชั้นศาล ออกมาชำแหละหลังคำพิพากษานั่นแหละว่า ตอนเข้าไปร่วมรับฟัง“โจทก์ประหนึ่งไม่เต็มใจขึ้นชก” ข้อครหาเหล่านี้ ยังมีเหตุผลให้เพิ่มน้ำหนักอีก โดยในวันนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ หลังแพ้คดีว่า จะอุทธรณ์หรือไม่ .. อย่างที่บอก รัฐธรรมนูญ 2560 เปิดช่องเอาไว้ ให้ทำได้ภายใน 30 วัน หลังมีคำพิพากษา .. ปกติทุกการต่อสู้ ย่อมอยากชนะเป็นธรรมดาของมนุษย์ เช่นเดียวกัน ป.ป.ช.เอง ถ้าคิดว่าตัวเองเป็น“โจกท์”คงไม่แฮปปี้ กับการที่ตัวเองมีมติชี้มูลความผิดแล้ว ไปฟ้องแล้วแพ้คดี .. เพราะมันเท่ากับว่า มติชี้มูลความผิดในครั้งกระนู้น ไม่ถูกต้องนั่นเอง ..รอดูเลยว่า ที่สุดจะดำเนินการอย่างไร หากตัดสินใจว่า ไม่อุทธรณ์โดยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น “บิ๊กกุ้ย”ก็คงต้องรับข้อครหาที่หนักหน่วงต่อไป

** “เจ๊แดง”ดี๊ด๊า “สามีสุดเลิฟ”ถอนชนัก เตรียมอุ้มคุมพรรคเพื่อไทย ลุ้นเก้าอี้นายกฯ สมัย 2 ทำเอาลิ่วล้อเสนอหน้าหลายคน ต้องอกหักดังเปาะ

ผลจากการรอดครั้งนี้ “แก๊งออฟโฟร์”คงเหมือนยกภูเขาออกจากอก อย่างรายของ“บิ๊กเบื๊อก”พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ดูเหมือนจะทำใจก่อนเข้าฟังคำพิพากษาแล้วด้วยซ้ำ มีการขอโทษขอโพยผู้ที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์ 7 ตุลาทมิฬ ที่เจอกันหน้าศาลเสียด้วย .. อีกหนึ่งคือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่พ้นมลทิน ทำให้ “พรรคสีแดง”มีตัวเลือกในแง่ของผู้นำมากขึ้น หลังก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวออกมาว่า หมดตัวเล่น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ปิดเทอมยาวไปแล้ว แถมส่อจะลงเอยแบบเดียวกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องระเหเร่ร่อน .. ถึงขั้นต้องไปขุดน้องสาวในไส้อีกคนอย่าง “เจ๊แป๋ว”มณฑาทิพย์ ชินวัตร มาเป็นคนถือธงกันเลยทีเดียว .. รวมถึงคิวของลิ่วล้อหลายคนที่ออกหน้า ออกตา เสนอตัวขอเป็นเบอร์หนึ่งของพรรค แทนคนในตระกูลชินวัตร แต่พอตอนนี้ “ชายจืด”เป็นไท แบบนี้ หลายคนคงอกหักดังเป๊าะ .. แม้ตัว “สมชาย”ที่มีดีกรีอดีตนายกฯ 1 สมัย อาจไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่อย่างน้อยก็เป็น“เขยตระกูลชิน”ที่สั่งซ้ายหัน ขวาหันได้ .. แถมภรรยาตัวเองอย่าง“เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็มากบารมีในพรรค น่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการขันอาสาลงชิงชัยเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกสักครั้ง .. หลังคราวก่อนได้เป็น แต่อาภัพ เพราะไม่มีบุญวาสนาได้นั่งทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าแม้วินาทีเดียว ..
เชื่อว่าปี่กลองเลือกตั้งบรรเลงเมื่อไร“เจ๊แดง”คง ใช้ ส.ส.ก๊กภาคเหนือ ออกมาเชียร์กันสุดลิ่มทิ่มประตู ให้สามีสุดเลิฟได้เป็นใหญ่อีกครั้ง .. แต่ถามว่า เสี่ยงมั้ย ? คงต้องบอกเลยว่า“มาก”เพราะอีกขั้วอำนาจคงไม่ปล่อยให้เกิด“นายกฯสายชิน”อีกแน่ เพราะจะทำให้ปัญหาวนเวียนกลับมาเหมือนเดิมอีก “สมชาย”เองก็คงต้องชั่งใจหนักเหมือนกัน เพราะมันอาจไม่โชคดีเหมือนรอบนี้ .. อย่าลืมว่า ที่รอดไม่ใช่เพราะตัวเองไม่ผิด เรื่องนี้รู้อยู่แก่ใจตัวเองว่า เพราะคดีนี้ มีจำเลยชื่อ “พัชรวาท”น้องรักของ“บิ๊กป้อม”คนที่ประกาศก้องมาแล้วว่า ตระกูลวงษ์สุวรรณ จะไม่ยอมให้ใครรังแก จึงได้อานิสงส์ มายังตัวเองด้วย .. แต่ถ้ากล้าเสี่ยงอีกรอบ กับยาแรง-กติกาใหม่ๆ ที่ออกมา บอกได้คำเดียว ไม่ซังเต ก็ต้องหนีออกนอกประเทศตามๆกันไป

**“กฎหมาย 7 ชั่วโคตร”ปราบโกงสะใจสายฮาร์ดคอร์ น่าจะพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ มีผลย้อนหลังเล่นงานพวกชอบ“เซ็นตั้งลูกรับราชการ-ตั้งออฟฟิส รับเหมาในค่ายทหาร”ด้วย

ฮือฮาไม่น้อย หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. … หรือ“กฎหมาย 7 ชั่วโคตร”ที่เราๆ รู้จักกัน เพียงแต่ว่า รอบนี้ในยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หั่นเหลือแค่“โคตรเดียว” ครอบคลุมเจ้าตัว คู่สมรส บุพการี เขย และสะใภ้ เท่านั้น .. เปิดเนื้อหาต้องบอกว่า ข้อห้ามหยุมหยิม-เยอะแยะไปหมด .. ขนาด วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กฎหมาย บอกว่า แค่เอาโทรศัพท์ไปชาร์จไฟหลวงก็มีความผิด ต่อไปใครจะนอกลู่นอกทาง คงต้องมีกฎหมายฉบับนี้พกติดตัวเอาไว้เป็น“คู่มือ”ไม่งั้นซวย อาจติดคุก .. โดยข้อห้ามก็มี 1. ห้ามกระทำการขัดระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม 2. ห้ามรับของขวัญ ของที่ระลึก เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ แต่ถ้าให้ตามประเพณีนิยม สามารถรับได้ โดยจะมีการออกกฎหมายลูกตามมาต่อไป 3. ผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และมีอำนาจกำกับดูแลโดยตรงในหน่วยใด หลังจากพ้นตำแหน่ง จะไม่สามารถยุ่งเกี่ยว เป็นกรรมการ หรือที่ปรึกษาใดๆ ในหน่วยงานนั้นไม่ได้ ภายในเวลา 2 ปี และ 4. การกระทำใดๆ ที่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับของทางราชการ ที่ตนรับรู้ระหว่างดำรงตำแหน่ง และให้ข้อมูลลับนั้นเป็นไปในทางที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง
เห็นอย่างนี้ นักการเมือง ข้าราชการ เอกชน คงอกสั่นกันแน่ๆ เพราะขยับตัวยาก ความจริงกฎหมายตัวนี้ น่าจะออกเร็วกว่านี้สักหน่อย คงได้ใช้ประเดิมกับน้องชาย “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่าง “บิ๊กติ๊ก”พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีต ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่มีกรณีอนุมัติบรรจุ ปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา บุตรชายตัวเอง เข้ารับราชการ ในตำแหน่ง รรก.นายทหารปฏิบัติการกิจการพลเรือน ทภ.3 (อัตรา พ.ต.) รับเงินเดือน ระดับ น.1 ชั้น 18 (15,000 บาท) และแต่งตั้งยศเป็น ว่าที่ร้อยตรี ... ชัดเอามากๆ ขัดผลประโยชน์กันเต็มๆ แต่กลายเป็นเรื่อง “ใครๆ ก็ทำกัน”ซะนี่ .. ไม่เท่านั้น ยังให้ลูกชายอีกคนเอาบ้านพักในค่ายทหาร ตั้งเป็นสำนักงานบริษัทรับเหมา ที่รับงานของกองทัพภาค 3 อีกด้วย .. ถ้างานนี้มีผลย้อนหลังได้ คงจะสนุกน่าดู จะได้เห็นว่า กฎหมายที่ยกยอปอปั้นกันว่า เจ๋งจริงๆ จะสามารถบังคับใช้กับ “บิ๊กติ๊ก”ได้หรือไม่ .. นี่ยังไม่นับกรณีที่ “มาดามอู๊ด”ผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภรรยาสุดที่รักของ“บิ๊กติ๊ก”ที่ใช้ทั้งเครื่องบินของทางราชการ บินไปเปิดฝายแม้วที่ จ.เชียงใหม่ แถมตั้งชื่อฝายเป็นชื่อตัวเองอีก .. นั่นก็สุ่มเสี่ยงที่จะเอื้อประโยชน์ส่วนตนเหมือนกันนะจ๊ะ .
** "ดีเอสไอ" เพิ่งตื่น ปล่อยข่าว “ธัมมี่” หนีไปยุโรป ทำขึงขังขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งที่ยังไม่รู้ซุกหัวอยู่ไหน
จู่ๆก็มีข่าวออกมาจาก พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าได้เบาะพบข้อมูล "ลูกศิษย์ ธรรมกาย" ว่า “ธัมมชโย” ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร คดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ใช้ "ช่องทางธรรมชาติ" หลบหนีออกจากประเทศไทยไปอยู่ใน "ประเทศแถบยุโรป" แล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าไปกบดานอยู่ในพื้นที่ใด .. ทั้งๆ ที่ไม่รู้พิกัดชัดเจน แต่ "อธิบดีไพสิฐ" ก็คุยเขื่องว่าจะประสาน "อัยการสูงสุด" ขอตัวเป็น "ผู้ร้ายข้ามแดน" ต่อไป .. กลายเป็นความคืบหน้าในความไม่คืบหน้า .. ใช่ว่ารู้ข้อมูลว่าหนีไป หรืออยู่ที่ไหนแล้ว จะได้ตัวมาง่ายๆ ระดับ "ธัมมชโย" แล้วคงโง่ไปอยู่ในประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งตัวปู้ร้ายข้ามแดนหรอก .. เทียบง่ายๆ กับกรณี บอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาขับรถชนตำรวจตาย ที่รู้พิกัดแน่ชัด ยังมะงุ้มมะหงาหราทำอะไรไม่ถูก
เอะอะๆ ก็มีปัญหา "อ่อนภาษา" แปลเอกสารไม่ได้ซะอีก .. หรืออย่างเคส "ไอ้คำ" กว่าจะได้ตัวมาก็ผ่านไปตั้งหลายปีถึงจะได้ตัว ที่สำคัญยังมีข้อสงสัยอีกว่า ที่ยอมกลับมาโดยดี เพราะ "ไอ้คำ" พร้อมใจที่จะกลับมาเอง ไม่งั้นคงรอกันอีกยาว .. จนน่าสังเกตว่าจู่ๆ "อธิบดีดีเอสไอ" ออกมาให้ข่าวในช่วงนี้ มีงานมา "เบี่ยงกระแส" อะไรรึป่าว .. เหมือนตอนไปขึงพืดอยู่เป็นเดือน แต่คว้าน้ำเหลวนั่นแหละ.
ช.ชฎา

-------------

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ -- พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ -- สมชาย วงศ์สวัสดิ์ --พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา- ธัมมชโย
มั่นใจพลังอำนาจ “นิรโทษสุดซอย” ซูเปอร์บิ๊กจำเลย 7 ตุลาฯ!?
มั่นใจพลังอำนาจ “นิรโทษสุดซอย” ซูเปอร์บิ๊กจำเลย 7 ตุลาฯ!?
นาทีนี้ทุกอย่างก็เป็นไปได้ หากพิจารณารายชื่อของบุคคลที่เป็นจำเลยในคดี เพราะนี่คือ “เครือข่ายอำนาจใหม่” ที่ถือว่าทรงพลังมากที่สุดในเวลานี้ และการเคลื่อนไหวแบบนี้มองอีกมุมหนึ่งก็อาจจับทางได้ว่าพวกเขาคงมั่นใจสูงมาก ว่าทุกอย่างอยู่ในมืออย่างเบ็ดเสร็จแล้ว อีกทั้งอาจเป็นการฉวยโอกาสช่วงชุลมุนที่แทบทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่เรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็อาจมองแบบนั้นได้ แต่ขณะเดียวกันหากพิจารณากันในแง่ความรู้สึกของชาวบ้าน โดยเฉพาะบรรดาญาติผู้สูญเสียในเหตุการณ์และประชาชนทั่วไปจะรู้สึกอย่างไร รวมทั้งการบั่นทอนทำลายศรัทธาอย่างรุนแรง เป็นความเคลื่อนไหวที่มองเห็นไม่ต่างจากการ “ซ่อนรูปนิรโทษสุดซอย” ในอดีตอันอัปยศ
กำลังโหลดความคิดเห็น