xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

กม.อาญานักการเมือง ฉบับใหม่พุ่งเป้า"ปราบโกง"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ณ เวลานี้ ถ้าไม่มีคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห้ามนักเลือกตั้งประชุมสุมหัว หรือเคลื่อนไหว ป่านนี้เราคงได้เห็นกระดานการเมืองไทยพลิกไปอีกด้าน คงมะรุมมะตุ้มอย่างแน่นอน

จากมรสุมในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คสช.ลุงตู่ อย่างที่เห็น ในรัฐบาลเลือกตั้งปกติ ถ้าเจอเผชิญปัญหาพัลวัน ทั้งปัจจัยจากเศรษฐกิจภายนอกประเทศ รวมถึงภายใน และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ราคายางดิ่งรูดมหาราช เรื่องปากท้องรวยกระจุก จนกระจาย คนยากไร้ไม่เห็นทางจะลืมตาอ้าปากแบบนี้ ถูกนักการเมืองอีกขั้วฉะเละเทะแน่นอน

แต่ที่ยังไม่ถูกรุมขย้ำ เพราะอำนาจพิเศษยังค้ำคอ ตัวห้าวอย่างเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ จึงทำได้เพียงเกาะกระแส ต่อเติมหัวเชื้อไปวันๆ

ทว่าไม่มีใครรับประกันว่า ชนวนความเดือดร้อนของประชาชนจะไม่ลุกลามจนจุดติดเป็นม็อบข้างถนนเข้าวังวนแบบในอดีต ยิ่งวันนี้ชาวสวนยาง เริ่มอดรนทนไม่ไหว ถ้าถึงวันยื่นคำขาดเมื่อไหร่ รัฐบาลคสช. มีหนาว

เอาเป็นว่าคสช.รู้ซึ้งถึงความอันตรายหากเพิกเฉย จึงเร่งเอาใจ อัดเม็ดเงินช่วยเหลือประวิงเวลา

ขณะเดียวกันอีกทางหนึ่งสั่งลิ่วล้อในแม่น้ำห้าสาย เร่งมือรีดกติกายาแรง เพื่อเป็นไม้กันหมาไล่กัดยามนั่งบนหลังเสือ หากได้อยู่ยาวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในฐานะรัฐบาลเลือกตั้งนายกฯ คนนอกแต่ละฉบับล่อเป้าเร้าอารมณ์สังคมทั้งนักการเมืองและประชาชน

ทั้งนี้ ตรายาง สนช. ยกมือประทับผ่านฉลุยไปแล้วหลายฉบับ อาทิ พ.ร.บ.กดหัวสื่อมวลชน เพื่อปิดปากนักข่าวเบ็ดเสร็จ กำหนดกติกาแทรกซึมคนของรัฐ 2 คน เข้าไปอยู่ในบอร์ดฯ หวังคุมพฤติกรรม และจริยธรรม อันเพ้อฝัน

รวมทั้งกฎหมายลูก ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เขียนให้ เซตซีโร จน "สมชัย ศรีสุทธิยากร" กกต.ด้านบริหารกลาง ดิ้นพล่าน จะร้องศาลรัฐธรรมนูญตีความ

ส่วนอีกด้านสังคมตั้งคำถาม ความฉุกละหุก ในการสรรหากกต.ชุดใหม่ และไม่เชื่อน้ำยาจะได้คนที่เป็นกลางจริงๆ จนอาจมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า

ขณะเดียวกัน กฎหมายลูกพรรคการเมือง นักเลือกตั้งก็ส่งเสียงยี้ใส่ระบบ "ไพรมารีโหวต" กันเซ็งแซ่ ในทำนองของใหม่ไม่เหมาะสังคมไทย รายละเอียดซับซ้อนซ่อนเงื่อน อีกทั้งผู้ร่างฯ ตั้งธงเขียนตามผู้มีอำนาจที่หวังสลายขั้วใหญ่ให้ตั้งพรรคเล็กพรรคน้อย สถาปนาพรรคนอมินี ลับลวงพราง
 
ทุกสิ่งอย่างถ้าสำเร็จลุล่วง คสช.จะมีอำนาจใหญ่ยักษ์ในอนาคตอย่างชอบธรรม ชนิดใครยากจะขวางทางสืบอำนาจ

ถ้าวันนี้ใครตราหน้าว่า รัฐบาลทหารไม่เรียนรู้ความผิดพลาดในอดีต คงคิดผิด และต้องคิดเสียใหม่

สิ่งที่คสช.กำลังเร่งทำคือ จัดวางโครงสร้างกลไก ผ่านตัวบทกฎหมาย เพื่อเป็นเครื่องมือค้ำยันรัฐบาลทหารในอนาคตหลังเลือกตั้งครั้งหน้า ทุกเรื่องเพื่ออุดช่องโหว่ความผิดพลาดที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ "บิ๊กบัง" พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้น้ำการรัฐประหารครั้งก่อนใน ปี 2549 เหนียมอาย ไม่ยอมทำ

ทั้งเขียนกำกับสื่อฯ รวมถึงนักการเมืองไปในตัว ไม่มีทางปล่อยให้เลือกตั้ง หรือปลดล็อกเคลื่อนไหว หากการเขียนกฎหมายไม้กันหมา ยังไม่ลุล่วง ซึ่งงานเด็ดหัวขั้วตรงข้าม ถ้ายังไม่ตายเรียบ ดับสนิท อำนาจพิเศษไม่มีทางปล่อยให้มาแว้งกัดภายหลังแน่นอน

โดยเฉพาะสิ่งที่ สนช.กำลังเร่งปั่นล่าสุดนั้น นักการเมืองขั้วตรงข้ามมีหนาวๆ ร้อนๆ

เพราะการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวาระที่ 2 และ 3 ในที่ประชุมใหญ่สนช. นั้น มีการปรับแก้เปลี่ยนจากร่างเดิมของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อยู่หลายประเด็น

แต่ละดอกเป็นตัวอักษรอาบยาพิษสำหรับ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกฯหญิง มันเป็นปมเสี่ยงร้อนๆ ที่เผชิญมรสุมรุมเร้า ในคดีความมหากาพย์โกงจำนำข้าวในขณะนี้แทบทั้งสิ้น
 
เช่น ในหมวด 2 ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญา สนช.ได้เพิ่มบทบัญญัติมาตราใหม่ คือ มาตรา 24/1 โดยกำหนดให้การดำเนินคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ เมื่อมีใครได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ให้อายุความสะดุดหยุดลง ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยหลบหนีไปในระหว่างการถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาคดีของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ

อย่างไรก็ตาม ในกรณีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้ลงโทษจำเลย ถ้าจำเลยหลบหนีไป ในระหว่างต้องคำพิพากษาถึงที่สุด โดยมิให้นำบทบัญญัติ มาตรา 98 แห่งประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยอายุความมาใช้บังคับ
 
ส่วนมาตรา 26 แก้ไขโดยบัญญัติให้ในกรณีที่มีการยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากผู้ถูกกล่าวหาไม่มาศาล โดยเกิดจากการประวิงคดี หรือไม่มาศาลตามนัด โดยไม่มีเหตุแก้ตัวอันควร ให้ศาลประทับรับฟ้องไว้พิจารณาได้ แม้จะไม่ปรากฏผู้ถูกกล่าวหาต่อหน้าศาล

นอกจากนี้ มาตรา 27 ยังบัญญัติว่าในกรณีที่ได้ออกหมายจับจำเลยแต่ไม่สามารถจับจำเลยได้ภายใน 3 เดือน นับแต่ออกหมายจับ ให้ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีโดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะตั้งทนายความดำเนินการแทนได้"

อธิบายเป็นภาษาชาวบ้านได้ใจความคือ ต่อไปนี้ จำเลยยื้อเวลาอ้อยอิ่งไม่มาศาลด้วยเหตุผลตื้นๆ จะกระทำได้ยากแล้ว เพราะศาลสามารถประทับรับฟ้องได้เลย แถมจากนี้ ศาลพิจารณาคดีลับหลังจำเลยถึงที่สุด และสั่งลงโทษได้ทันที หากออกหมายจับไปแล้ว 3 เดือน จำเลยยังไม่มาศาล

ประเด็นสำคัญคือ หากใครหน้าด้าน หนีคดีหัวซุกหัวซุนออกนอกประเทศ ระหว่างศาลฎีกาฯไปแบบ "นายทักษิณ ชินวัตร" ศาลจะไม่นับอายุความนับแต่วันที่หนีไป
 
ที่บอกว่ายิ่งลักษณ์ จะซวยจากกฎหมายลูกใหม่นี้ เพราะอะไร

1. หลักการในร่างเดิมที่ กรธ.เขียนส่งให้สนช. บอกไว้ว่า ทั้งนี้ที่บอกว่า "คดีเก่าที่อยู่ในศาลฎีกาฯ ให้ใช้หลักการตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว

2. แต่การปรับแก้ในชั้น กมธ.สนช. ดันไปกำหนดในบทเฉพาะกาล ว่า ไม่ว่าทั้งคดีเก่า และคดีใหม่ ก็ต้องใช้หลักเกณฑ์ตามกฎหมายใหม่ แม้ในตัวกฎหมายลูกตัวใหม่ ที่สนช.ทำมา จะให้"ยิ่งลักษณ์" มีสิทธิอุทธรณ์ ก็จริง แต่หากอดีตนายกฯ หลบหนี ไม่เข้าสู่กระบวนการยุตธรรม คดีจะไม่ถูกนับอายุความ

3. เท่ากับว่า หญิงปู หมดสิทธิเดินตามรอยพี่ชายแน่ๆ

4. ตามหลักของกฎหมายอาญา ที่นักกฎหมายรู้กันดีคือ ถ้ามีการแก้ไข หรือออกกฎหมายใหม่ จะไม่มีการนับโทษย้อนหลัง แต่จะย้อนหลังก็ต่อเมื่อ ข้อกฎหมายนั้น มีคุณแก่จำเลย

อย่างนี้ไม่เรียกกฎหมายเหล็กแหลม ทิ่มนักการเมืองขี้โกง จะเรียกว่าอะไร ?

**ที่แปลกประหลาดที่สุดคือ พฤติกรรมแปลกๆ เหตุ "ซือแป๋มีชัย" ยอมให้ลิ่วล้ออย่างสนช. แก้ไขหลักการ ที่ตัวเองร่างมาอย่างง่ายดายโดยไม่ท้วงติง
น่าสงสัย มีการยืมมือสนช. ทำอะไรบางอย่าง ตามการส่งซิกของผู้มีอำนาจ สังเกตดูแผนเดียวกับการเซตซีโร ในกฎหมายลูก กกต. ในทำนอง กรธ.ร่างอีกแบบ สนช.แก้อีกแบบ แต่สุดท้าย กรธ.ขยิบตาเห็นด้วย ไม่หือไม่อือ แถมยกมือผ่านฉลุย
 
มันจะดูเข้าใจยากหน่อย ตามแบบฉบับมือกฎหมายสายเผด็จการ !!!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น