ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กป้อม" สั่งเหล่าทัพทำบัญชีอาวุธสหรัฐฯ ที่มีอยู่ และที่ต้องการเพิ่ม เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้ทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน ขีดเส้นแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้ ก่อนชงให้ "บิ๊กตู่" คุย "ทรัมป์" ช่วงเดินทางเยือนสหรัฐฯ บอกปัดตั้งพรรคการเมือง ยันเดินหน้าตามโรดแมป มีเลือกตั้ง ยันไม่รู้ "บิ๊กเจี๊ยบ" จะได้นั่ง ผบ.ทบ.ต่อหรือไม่ แต่ชมทำงานดี พร้อมระบุรถไฟไทย-จีน ไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบ
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงผลการประชุมสภากลาโหม ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย ผบ.เหล่าทัพ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ว่า ได้มีการหารือถึงเรื่องการปฏิรูปกองทัพให้มีความทันสมัย โดยพล.อ.ประวิตรได้ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ เร่งทำการสรุปจำนวนชนิดยุทโธปกรณ์ของกองทัพที่มีอยู่ รวมทั้งความต้องการตามที่จำเป็นในการเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพ โดยพิจารณาถึงขีดความสามารถของกองทัพประเทศเพื่อนบ้าน และภัยคุกคามในห้วงระยะเวลาต่างๆ ประกอบการพิจารณา และดำเนินการให้แล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.นี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรระบุว่า การปรับโครงสร้างกองทัพ เป็นนโยบายของกระทรวงกลาโหม ที่ต้องการให้กองทัพปฏิรูปทั้งโครงสร้าง รวมถึงการจัดหน่วยการบริหารจัดการ และพัฒนากำลังพล ยุทโธปกรณ์ ให้มีความคล่องตัว เหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจที่หลากหลาย โดยมีความคืบหน้า คือ ได้มีการทบทวน สภาพแวดล้อมของความมั่นคง และจัดทำยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหมเสร็จสิ้นแล้ว มีการกำหนดวิสัยทัศน์ การเป็นกองทัพชั้นนำ มีบทบาทด้านความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งส่งเสริมความมั่นคงของภูมิภาค
สำหรับข้อมูลต่างๆ ที่ให้ตรวจสอบนั้น จะส่งไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ ตามคำเชิญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเหล่าทัพจะสำรวจข้อมูลยุทโธปกรณ์ว่า ทางสหรัฐฯ สนับสนุนช่วยเหลืออะไรเรามาในอดีต และเราต้องการอะไร ที่จะเพิ่มเติมเข้าไป จะได้ดำเนินการไปในคราวเดียวกัน ทั้งยุทโธปกรณ์ที่เป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงประสิทธิภาพของอาวุธสหรัฐฯ ดีมาก แต่บางอย่างก็ไม่ขาย บางอย่างให้เปล่า เช่น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็จะให้มาในโครงการความร่วมมือ ความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ก็อยู่ในแผนพัฒนาขีดความสามารถกองทัพอยู่แล้ว แต่ที่นายกฯ จะเดินทางไปสหรัฐฯ เราก็จะแยกว่า ส่วนที่มีอยู่ คือ อะไร และส่วนที่จะได้ คือ อะไร อย่างกองทัพบก มีทั้งเฮลิคอปเตอร์ ชีนุก ฮ.โจมตีคอบร้า และ ฮ.แบล็กฮอล์ก ก็ต้องคุยทั้งในเรื่องส่งกำลังบำรุงและอะไหล่ เพราะยุทโธปกรณ์บางประเภทไม่มีอะไหล่ ก็ไม่สามารถใช้ได้ ทั้งที่ราคาแพง ทำให้ความมั่นคงไม่ค่อยมี เพราะสหรัฐฯ ก็มีเงื่อนไขค่อนข้างมาก
"ตอนนี้เราเลยต้องถ่วงดุลไปซื้ออาวุธจากจีน เราก็นำปัญหาที่คุยกับสหรัฐฯ มาคุยกับจีนว่าต่อไปการซ่อมบำรุง จะมีอะไหล่ให้เรามากน้อยแค่ไหน จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เราหรือไม่ เราคุยผ่านทูตสหรัฐฯ ไปแล้วว่า เราอยากได้อาวุธของเขา เราก็จะดูความร่วมมือในการจัดหาร่วมกัน เพราะสหรัฐฯ กับไทย เป็นพันธมิตรร่วมกันมาช้านาน โครงสร้างการจัดหน่วยของไทย หลักนิยม ก็เป็นของสหรัฐฯ" พล.ต.คงชีพกล่าว
ด้านพล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่นิด้าโพลระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ตั้งพรรคการเมือง ว่า ไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้เป็นคนตั้ง ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จะตั้งหรือไม่ ต้องไปถามตัวนายกฯ เอง แต่ในส่วนของตน ไม่มีการตั้งพรรคการเมืองแน่
เมื่อถามถึงข้อดี ข้อเสีย ที่รัฐบาลชุดนี้จะลงไปเล่นการเมือง เนื่องจากมีผลงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มีความเห็น
เมื่อถามย้ำว่า คสช. จะเป็นทางเลือกที่สามหรือไม่ เพราะตอนนี้เรามีพรรคการเมืองใหญ่อยู่ 2 พรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครเป็นคนคิด ก็บอกเขาไป ตอนนี้ คสช.ทำทุกอย่างให้เป็นไปตามโรดแมป เมื่อถึงเวลาก็มีการเลือกตั้ง
เมื่อถามอีกว่าจะแนะนำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ไม่คิด และไม่เคยคิด อีกอย่างพล.อ.ประยุทธ์ เป็นถึงนายกฯ สามารถคิดเองได้ และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับที่เคยอยู่ด้วยกันมาสมัยรับราชการทหาร
วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี ว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน และมองว่าเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องเข้าสภากลาโหม ส่วน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. จะยังคงดำรงตำแหน่งต่ออีก 1 ปี หรือไม่นั้น ยังไม่รู้
เมื่อถามว่า ผลงานของผบ.ทบ.ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า แล้วดีหรือไม่ ผู้สื่อข่าวตอบว่า ดี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า งั้นก็ดี
"เรื่องการปรับย้ายนายทหารประจำปี ต้องรอให้ทางเหล่าทัพส่งบัญชีโยกย้ายมา ก่อนจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับชั้นนายพล ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนการประกาศบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี คงจะออกตามเวลา"
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่ให้สิทธิประโยชน์กับทางประเทศจีน มากเกินไปว่า ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะทางกระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โดยพิจารณาว่าสิ่งใดเหมาะสม และไม่เหมาะสม ดังนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราจะเสียเปรียบ ยืนยันว่า โครงการนี้ไม่มีการได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ อย่างแน่นอน
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงผลการประชุมสภากลาโหม ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย ผบ.เหล่าทัพ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ว่า ได้มีการหารือถึงเรื่องการปฏิรูปกองทัพให้มีความทันสมัย โดยพล.อ.ประวิตรได้ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ เร่งทำการสรุปจำนวนชนิดยุทโธปกรณ์ของกองทัพที่มีอยู่ รวมทั้งความต้องการตามที่จำเป็นในการเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพ โดยพิจารณาถึงขีดความสามารถของกองทัพประเทศเพื่อนบ้าน และภัยคุกคามในห้วงระยะเวลาต่างๆ ประกอบการพิจารณา และดำเนินการให้แล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.นี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรระบุว่า การปรับโครงสร้างกองทัพ เป็นนโยบายของกระทรวงกลาโหม ที่ต้องการให้กองทัพปฏิรูปทั้งโครงสร้าง รวมถึงการจัดหน่วยการบริหารจัดการ และพัฒนากำลังพล ยุทโธปกรณ์ ให้มีความคล่องตัว เหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจที่หลากหลาย โดยมีความคืบหน้า คือ ได้มีการทบทวน สภาพแวดล้อมของความมั่นคง และจัดทำยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหมเสร็จสิ้นแล้ว มีการกำหนดวิสัยทัศน์ การเป็นกองทัพชั้นนำ มีบทบาทด้านความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งส่งเสริมความมั่นคงของภูมิภาค
สำหรับข้อมูลต่างๆ ที่ให้ตรวจสอบนั้น จะส่งไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ ตามคำเชิญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเหล่าทัพจะสำรวจข้อมูลยุทโธปกรณ์ว่า ทางสหรัฐฯ สนับสนุนช่วยเหลืออะไรเรามาในอดีต และเราต้องการอะไร ที่จะเพิ่มเติมเข้าไป จะได้ดำเนินการไปในคราวเดียวกัน ทั้งยุทโธปกรณ์ที่เป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงประสิทธิภาพของอาวุธสหรัฐฯ ดีมาก แต่บางอย่างก็ไม่ขาย บางอย่างให้เปล่า เช่น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็จะให้มาในโครงการความร่วมมือ ความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ก็อยู่ในแผนพัฒนาขีดความสามารถกองทัพอยู่แล้ว แต่ที่นายกฯ จะเดินทางไปสหรัฐฯ เราก็จะแยกว่า ส่วนที่มีอยู่ คือ อะไร และส่วนที่จะได้ คือ อะไร อย่างกองทัพบก มีทั้งเฮลิคอปเตอร์ ชีนุก ฮ.โจมตีคอบร้า และ ฮ.แบล็กฮอล์ก ก็ต้องคุยทั้งในเรื่องส่งกำลังบำรุงและอะไหล่ เพราะยุทโธปกรณ์บางประเภทไม่มีอะไหล่ ก็ไม่สามารถใช้ได้ ทั้งที่ราคาแพง ทำให้ความมั่นคงไม่ค่อยมี เพราะสหรัฐฯ ก็มีเงื่อนไขค่อนข้างมาก
"ตอนนี้เราเลยต้องถ่วงดุลไปซื้ออาวุธจากจีน เราก็นำปัญหาที่คุยกับสหรัฐฯ มาคุยกับจีนว่าต่อไปการซ่อมบำรุง จะมีอะไหล่ให้เรามากน้อยแค่ไหน จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เราหรือไม่ เราคุยผ่านทูตสหรัฐฯ ไปแล้วว่า เราอยากได้อาวุธของเขา เราก็จะดูความร่วมมือในการจัดหาร่วมกัน เพราะสหรัฐฯ กับไทย เป็นพันธมิตรร่วมกันมาช้านาน โครงสร้างการจัดหน่วยของไทย หลักนิยม ก็เป็นของสหรัฐฯ" พล.ต.คงชีพกล่าว
ด้านพล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่นิด้าโพลระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ตั้งพรรคการเมือง ว่า ไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้เป็นคนตั้ง ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จะตั้งหรือไม่ ต้องไปถามตัวนายกฯ เอง แต่ในส่วนของตน ไม่มีการตั้งพรรคการเมืองแน่
เมื่อถามถึงข้อดี ข้อเสีย ที่รัฐบาลชุดนี้จะลงไปเล่นการเมือง เนื่องจากมีผลงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มีความเห็น
เมื่อถามย้ำว่า คสช. จะเป็นทางเลือกที่สามหรือไม่ เพราะตอนนี้เรามีพรรคการเมืองใหญ่อยู่ 2 พรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครเป็นคนคิด ก็บอกเขาไป ตอนนี้ คสช.ทำทุกอย่างให้เป็นไปตามโรดแมป เมื่อถึงเวลาก็มีการเลือกตั้ง
เมื่อถามอีกว่าจะแนะนำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ไม่คิด และไม่เคยคิด อีกอย่างพล.อ.ประยุทธ์ เป็นถึงนายกฯ สามารถคิดเองได้ และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับที่เคยอยู่ด้วยกันมาสมัยรับราชการทหาร
วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี ว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน และมองว่าเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องเข้าสภากลาโหม ส่วน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. จะยังคงดำรงตำแหน่งต่ออีก 1 ปี หรือไม่นั้น ยังไม่รู้
เมื่อถามว่า ผลงานของผบ.ทบ.ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า แล้วดีหรือไม่ ผู้สื่อข่าวตอบว่า ดี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า งั้นก็ดี
"เรื่องการปรับย้ายนายทหารประจำปี ต้องรอให้ทางเหล่าทัพส่งบัญชีโยกย้ายมา ก่อนจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับชั้นนายพล ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนการประกาศบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี คงจะออกตามเวลา"
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่ให้สิทธิประโยชน์กับทางประเทศจีน มากเกินไปว่า ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะทางกระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โดยพิจารณาว่าสิ่งใดเหมาะสม และไม่เหมาะสม ดังนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราจะเสียเปรียบ ยืนยันว่า โครงการนี้ไม่มีการได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ อย่างแน่นอน