xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ถังไม่แตก เศรษฐกิจชิลล์ๆ แต่เอาแน่ VAT 8%

สับขาหลอกจนงงไปหมด เรื่องปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 8% หลังจากที่เมื่อช่วงเดือน มี.ค. "นายกฯลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคย

โพล่งออกมาว่า "ให้ประชาชนเสียสละ" จนกลายเป็น "ข่าวหน้าหนึ่ง" ยกแผง ก่อนจะมา "ดริป" อ้างว่าแค่เปรยเปรียบเทียบ แถมโวยสื่ออีกต่างหากที่หยิบคำพูดแค่ไม่กี่

ประโยคมาเป็นข่าวใหญ่โต ลามไปถึงคิว "ท่านไก่อู" พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ต้องมาแก้ข่าว่า รัฐไม่ได้ถังแตก จนโดนล้วงไปถึง "เงินคงคลัง" ที่เข้าขั้น

เกือบเกลี้ยงคลัง เรื่องมันก็เลยเงียบไป

โผล่มาอีกเป็นมติที่ประชุม สนช.ที่เห็นชอบรายงานปฏิรูปภาษี มีรายละเอียดอยู่ 3-4 ข้อ ที่คนสนใจหนีไม่พ้นข้อเสนอให้ขึ้น VAT เป็น 8% ที่จะได้เงินเข้ารัฐอีกราวปีละ

8 หมื่นล้าน ไปพัฒนาการศึกษา-สาธารณสุข มันก็เหมือนสารภาพว่า "รัฐบาลทหาร" คิดจริงเรื่อง "คืนความสุข" ด้วยVAT 8% ไม่ได้เปรียบเปรยอย่างที่เคยออกมา

ตะแบง แต่คราวนี้ให้ สนช. หนึ่งอาคาพยพของตัวเองออกหน้า ส่วนตัวเองเบี่ยงหลบก้อนหิน และถ้าไล่เรียงที่มาที่ไป "รายงานปฏิรูปภาษี" ก็จะพบว่าเป็น "วาระ คสช."

ชัดๆ เพราะมาจากที่ประชุม สปท.เขี่ยมาให้ สนช.เห็นชอบและจะส่งต่อมาที่ ครม.

เชื่อสิไม่มีใครว่าหรอก ถ้ารัฐคิดจะขึ้น VAT เพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศ ก็รู้กันอยู่ปีๆนึงงบประมาณรัฐที่วันนี้พุ่งไปเกือบ 3 ล้านๆบาทแล้ว มีส่วนของ "งบพัฒนา" แค่

กระพี้ ที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายประจำ ประเภทเงินเดือน-เงินตำแหน่งข้าราชการ ปาไป 50-60% ยิ่ง 3 ปีมานี้ "ซานต้า คสช." ก็ขยันประเคนขึ้นเงินเดือนให้เหล่าข้าราชการ

หลายหน พร้อมหาเรื่องตบโบนัสให้ "พี่น้องทหาร" จนอู้ฟู่ถ้วนทั่วกองทัพ มีแต่ประชาชนที่บักโกรก นับวันยิ่งจนยิ่งเครียด ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่มีข่อมูลชัดว่าตอนนี้ "รัฐ

ตูดขาด-ถังแตก" ยังมีหน้าไปเล่นของสูง เทงบ 3.6 หมื่นล้าน ไปชอปเรือดำน้ำ เพื่อเสริมแสนยานุภาพเสียอีก ถ้าเผื่อได้งบเพิ่มมาอีก 7-8 หมื่นล้านจากขึ้น VAT จะ

อะไรมาการันตีว่า งบก้อนนี้จะตกไปถึงการพัฒนาประเทศ

หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็น่าจะดันพรวด เดินหน้าจัดเก็บ 10% ที่จริงๆต้องมีผลบังคับมาหลายปีแล้ว แต่ค้างๆคาๆ ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าจริง ต้องคอยมาออกมติขยายเวลาจัด

เก็บที่ 7% อยู่นั่นแหละ ขยายเวลารอบนี้สิ้นสุด 30 ก.ย.ปีหน้า ไม่ต้องเอา สนช.-สปท.มาบังหน้าให้เสียเวลา อำนาจอยู่ที่ "รัฐบาล คสช." แต่เพียงผู้เดียว

** 3ปี คสช."บ้านเมืองสงบ แต่คนไทยสลบ"
ขนาด “สวนดุสิตโพล” ที่ "อยู่เป็น" มาตลอด ยังปล่อยผลโพลที่ "บิ๊ก คสช." ที่อุตส่าห์ทำงาน 200% ดูแล้วคงควันออกหู กับหัวข้อ “3 ปีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อะไร

ดีขึ้น อะไรแย่ลง” ที่ปล่อยออกมาล่าสุด หัวข้ออะไรดีขึ้นบ้าง หนักไปทางรักษาความสงบ บังคับใช้กฎหมาย แต่แต้มก็ปริ่มๆ 70 คะแนน แค่ "เกรดบี" แต่มีเรื่อง "ปฏิรูป"

ธงนำ คสช.ที่คาบเส้นแค่พ้น 50 แต้มมานิดหน่อย ส่วนอะไรแย่ลงนี่ค่อนข้างสอดคล้องกับความเป็นที่ให้เรื่อง "สภาพเศรษฐกิจ" มาอันดับต้น ตามมาด้วยเรื่อง "จำกัดสิทธิ

เสรีภาพ" ซึ่งก็เป็นคำตอบที่ถึงอันดับ 1 ของหัวข้อแรก ส่วนเรื่องอื่นๆที่พอใจก็มีราคาผลผลิตทางการเกษตร-การบริหารบ้านเมือง แต่ก็อยู่ระดับ "เกรดซี" เช่นเดียวกับ

การแก้ปัญหาชายแดนใต้อยู่ "เกรดดี" ด้วยซ้ำ เลยขอตั้งชื่อโพลดีให้ว่า "บ้านเมืองสงบ แต่คนไทยสลบ"

ที่เชิดหน้าชูตาหน่อย คงเป็นแรงขับเคลื่อนเรื่อง "ส่งออก" ที่แนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เม.ย.วันหยุดเยอะๆ ยังยอดส่งออกพุ่งขึ้น 8.49% มาทรงนี้ปิดงบสิ้นปี อัตราส่งออก

โตขึ้นแน่นอน แค่ต้องลุ้นว่าจะโตได้ถึง 5% อย่างที่ "เฮียกวง" สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯเศรษฐกิจ วางเป้าหมายไว้หรือเปล่าเท่านั้น ... พอตัวเลขส่งออกขยับขึ้น

เป็นสัญญาณบวกกับฝ่ายรัฐ ฝั่งตรงข้าม "นักการเมือง-นักเลือกตั้ง" ก็ดาหน้าออกมาปั้นตัวเลขเถียง เพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่น "รัฐบาลทหาร" ทันที คงห่วงว่าถ้าเรตติ้ง

รัฐบาล คสช.ขึ้น เรตติ้งตัวเองจะตก ยิ่งต้องตระเตรียมเลือกตั้งกันด้วย ช่วงนี้ก็เลย "ตาขวาง" เห็นใครทำดีเกินหน้าไม่ได้

ปฏิบัติการกอบกู้ตัวเลขส่งออกของรัฐบาลเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่มิติเดียวประชาชนส่วนใหญ่ ก็คงยังไม่รู้สึกอะไร ถ้าจะให้ดีก็ฝากให้โฟกัสกลุ่มชนชั้นล่าง ปากท้องสำคัญ

เหนือสิ่งใด โดยเฉพาะราคาน้ำมัน-พลังงาน ขอให้เป็นธรรม ไม่ใช่ปล่อยคนไทยอกตรม แต่ ปตท.กำไรตรึม บนความทุกข์ชาวบ้านทั่วประเทศอย่างทุกวันนี้

** "ขาใหญ่" มีเสียวหางเลข "เอเย่นต์ใหญ่" ทัวร์ศูนย์เหรียญ

7 มิ.ย.นี้ พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายเรียกให้ อนันต์ อัศวโภคิน เจ้าพ่อแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เข้าพบเพื่อรับทราบข้อหา "ร่วมกันฟอกเงิน"

จากกรณีที่ได้รับการผ่องถ่ายเงิน-ที่ดิน ที่เกี่ยวพันกับ ศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยยคลองจั่น ก็ต้องรอดูว่า "เสี่ยอนันต์" จะโผล่หน้ามา

เข้ากระบวนการยุติธรรม หรือจะเลือก "ดำดิน" ตามรอย "เจ้าลัทธิ" อย่าง "ธัมมชโย"

นอกจากคดีธรรมกาย ที่อยู่ในมือดีเอสไอ แต่ทำท่าจะไม่คืบหน้าไปไหน จนกองเชียร์เซ็งละ ก็แว่วว่า ดีเอสไอ กำลังจะขมักเขม้นกับคดีใหญ่ไม่แพ้กัน โดยกำลังแจ้งข้อหา

คดีฟอกเงิน ที่เกี่ยวเนื่องจาก "ขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ" งวดนี้มีตัวละครสำคัญอย่าง "เสี่ยเหมา" อนุชิต เหมารุ่งโรจน์ หรือ "ซ้ง แซ่ม้า" ที่ระดับ "ไม่ธรรมดา" เป็นเอเย่น

ใหญ่ของขบวนการ นำลูกค้าจากจีนเข้ามาไทย โดยมีข้อมูลธุรกรรมทางการเงินกับ "เครือโอเอ" ที่มีคดีความอยู่หยุบหยับก่อนหน้านี้ ปาเข้าไปปีละเกือบๆ "พันล้าน" เลยที

เดียว

ย้อนข่าวเก่าๆ พบชื่อ "เสี่ยเหมา" อนุชิต เหมารุ่งโรจน์ เพิ่งโรงแรมใหม่ที่พัทยา เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มี "เสี่ยจ้อน" อลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสปท. ไปเป็นประธานเปิด

ให้เสียด้วย ถัดมาไม่นานก็ถูกตำรวจนำโดย "เดอะโจ๊ก" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการ พิเศษ (ผบก.สปพ.) หรือ "ผู้การ 191" เข้าไปค้น

ออฟฟิตย่านนวลจันทร์ เมื่อช่วงเดือน มี.ค.60 ก่อนถูกแจ้งข้อหาเบาๆแค่ ลอบสวมบัตรประชาชนคนไทยประกอบธุรกิจนำเที่ยว จนผลการสอบสวนเรียบร้อย สรุป "เสี่ย

เหมา" หรือ "นายซ้ง แซ่ม้า" เป็นคนต่างด้าว แต่ได้ไปยื่นทำบัตรประชาชนที่ว่าการ อ.พบพระ จ.ตาก โดยมี "เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง" รู้เห็นช่วยสวมบัตร

ประชาชน-ปลอมแปลงเอกสารจนได้สัญชาติไทย ข้อเท็จจริงปรากฎแบบนี้ปั๊บ "เสี่ยเหมา" ก็เลยถูกทาง จ.ตาก มีคำสั่งเพิกถอนบัตรประชาชนไปเมื่อต้นเดือน พ.ค.นี้เอง

แต่ก่อนหน้าที่จะมีการเพิกถอนบัตรประชาชน "เสี่ยเหมา" ก็มีการนำเรื่องเข้า กมธ.ป้องกันปราบปรามการทุจริตฯของ สปท. ที่ส่งต่อมาจาก "ท่านรอง" ร้องเรียนการทำ

งานของ "ผู้การโจ๊ก" ว่ากลั่นแกล้ง "เสี่ยเหมา" เรื่องสวมบัตรประชาชน แต่คดีก็พลิกทันทีเมื่อมีคำสั่งจาก จ.ตาก ออกมา ... ระดับ "เดอะโจ๊ก" ลุยเอง คงไม่ใช่คดีหน่อ

มแน้มแค่สวมบัตรประชาชน เพราะสืบสวนขยายผลไปๆมาๆ มีข้อมูลว่า "เสี่ยเหมา" เนี่ยระดับเบอร์ต้นๆของ "แก๊งศูนย์เหรียญ" เลยทีเดียว

วงใน "ดีเอสไอ" กระซิบมาว่า ถึงจะมีกระแสข่าว่ามี "ผู้ใหญ่บางคน" เป็นแบ็คอัพหาทาง "เป่าคดี" ให้อยู่ แต่ก็ได้แค่ถ่วงเวลา "เสี่ยเหมา" คงไม่รอดโดนอายัดทรัพย์ พร้อม

คดีฟอกเงินอีกเป็นกระบุง หัวโจกว่ากันไปตามสภาพ เงินสะพัดเป็นพันๆล้าน มีผู้เกี่ยวข้องมากมายตั้งแต่ระดับล่าง จนถึงระดับสูงมีตำแหน่งใหญ่โต จะเจอ "หางเลข" หรือ

เปล่า อันนี้น่าเสียวอยู่เหมือนกัน คล้ายกับคดีดัง "เครือข่ายไซซะนะ" ที่สามีภรรยา "เบนซ์ เรซซิ่ง - แพท ณปภา" โดนอยู่ในตอนนี้ เคสหลังขนาดเงินแค่ 1.9 ล้านยังทำท่า

จะไม่รอด.

** จับตา ครม.หาทางลง ดับชนวนปลด "ผู้ว่าการ กทพ."
ข่าวหนาหูขึ้นทุกขณะกับคิวปลด "บังเหนียง" ณรงค์ เขียดเดช ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่ถูก "บอร์ด กทพ." ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในข้อหาที่

แสนพิลึก ที่เผอิญ "ผู้ว่าฯณรงค์" ดันคล่อมเก้าอี้ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์การทางพิเศษฯ ในช่วงที่เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. ที่มีผู้ร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติ ตาม พ

.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 ที่ระบุว่าผู้บริหารรัฐวิสาหกิจติ้ง "ไม่เป็นผู้บริหารหรือพนักงานของรัฐวิสาหกิจอื่น หรือ

กิจการอื่นที่แสวงหากำไร" ส่งผลให้ "สหกรณ์ออมทรัพย์" ของหน่วยงาน ถูกตีความเป็นกิจการแสวงหากำไรไปเสี่ยนี่ แต่ในทางกลับกันด้านผลงานของ "ผู้ว่าฯณรงค์" ที่

บอร์ดเป็นผู้ประเมินก็ออกมาผ่านฉลุยมาตลอด รายได้รอบปีก็ส่งคลังก็เพิ่มเป็นเท่าตัวจากเมื่อปีก่อนสมัย "ผู้ว่าฯคนเก่า" แต่พอมีกระแสข่าวว่า "บอร์ด" จะเชือด "ผู้ว่าการ"

ก็ส่งผลกระทบกับบรรยากาศการทำงานพอสมควร จนแว่วว่าเรื่องมาถึง "บิ๊กรัฐบาล" ที่กำลังหาทางจบเรื่องแบบไม่มีคนเจ็บ คาดว่าหลังประชุม ครม.อังคารนี้ น่าจะมี

ข่าวดีให้ "คนการทางฯ" ชื่นใจ.

--------
รูป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล
อลงกรณ์ พลบุตร
ณรงค์ เขียดเดช
กำลังโหลดความคิดเห็น