xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว



** คนไทยต้องเข้าใจ“ทหาร–พยาบาล”คนละวรรณะกัน

จริงๆไม่ใช่เรื่องใหม่ สำหรับการลุกฮือของ“พยาบาลวิชาชีพ”นับหมื่นชีวิต กับแคมเปญ "ไม่บรรจุ ลาออกยกกระทรวง 30 ก.ย.60" พร้อมแฮชแท็ก

#SaveNurse บรรจุพยาบาลเพื่อบริบาลประชาชน ที่แชร์กันว่อนโซเชี่ยลฯ อันเป็นผลพวงมาจากความไม่พอใจ“รัฐบาลทหาร”โทษฐานไม่ใยดี ไร้ท่าทีจะหา

ทางอนุมัติบรรจุให้เป็น“ข้าราชการ” ถึงขั้นขู่นัดลาออกยกกระทรวง ดีเดย์สิ้นปีงบประมาณ 30 ก.ย.นี้ … หากยังจำกันได้ สมัย“รัฐบาลเลือกตั้ง”ก็ประสบปัญหา

เดียวกันมาตลอด ตอนปี 2555 “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”ก็เคยโดน “ม็อบนางฟ้าชุดขาว”ล้อมกรอบถึงทำเนียบฯ จนรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าจะบรรจุลูกจ้างชั่วคราวทั้ง

21 สาขาวิชาชีพ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งรวมทั้งพยาบาลด้วย 2 หมื่นกว่าอัตราให้เป็นข้าราชการแบบขั้นบันได เฟสแรกที่ 7 พันกว่าคน ครบ 3 ปี ได้เป็นข้า

ราชการหมดแน่ ท้ายที่สุดก็เป็นแค่“ลมปาก”ถึงวันที่ถูกโค่นอำนาจ ก็ไม่มีใครได้บรรจุแม้แต่รายเดียว
จริงอยู่การบรรจุข้าราชการเพิ่มเป็นหมื่นอัตรา แม้จะทยอย 3 ปี รอบละ 3 พันกว่าคน ย่อมกระทบงบประมาณแผ่นดินอย่างแน่นอน ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ

ที่ทำให้การบรรจุพยาบาลวิชาชีพทำไม่ได้เสียที ทั้งที่“เจ้ากระทรวงหมอ”ทุกคนต่างก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เช่นเดียวกับ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สธ.ใน “

รัฐบาลทหาร”ของ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ... แล้วอย่างที่ทราบกัน การที่กระทรวงใดจะเสนอวาระเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ย่อมต้องมีการหารือกันตกผลึกพอ

สมควรแล้ว แต่การไปมีมติคว่ำกันกลางที่ประชุมแบบนี้ มันชักยังไงๆ อยู่
หากใช้เหตุผลเรื่อง“งบประมาณแผ่นดิน”เป็นตัวตั้ง ก็ย่อมมีคำถามย้อนกลับว่า การ“ตบโบนัส”เลื่อนขั้นเงินเดือนพิเศษ 2 ขั้นให้กับ 721 ข้า

ราชการที่ปฏิบัติงานในคสช. หรือการขึ้นเงินเดือนให้“นายพล” ที่มีผลผูกพันในทางงบประมาณทั้งสิ้น ซึ่งผู้รับประโยชน์ล้วนแล้วแต่เป็น“ทหาร” แบบไหนเป็น

ประโยชน์ หรือสร้างความเสียหายต่อภาครัฐมากกว่ากัน ... เปรียบเทียบไปถึงโรงพยาบาลรัฐขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ต้องการใช้งบฯไม่กี่ร้อยล้าน ก็ต้องพึ่งให้

“นักร้องดัง”วิ่งขอบริจาคให้ ผิดกับอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่มาใช้เบ่งกล้ามให้เพื่อนบ้านเกรงใจ กลับอนุมัติแล้วปรี่ไปวางมัดจำอย่างง่ายดาย ... สมแล้วที่ ยุคทหารเป็นใหญ่!!

** ปฏิบัติการ“ไอโอเทอดศักดิ์”ดิสเครดิต“วีระ”ดับปมฉาวขายชาติ

วันนี้ 16 พ.ค. ต้องจับตาคิวที่“ผู้ว่าฯอุดรมีชัย”ฝั่งกัมพูชา ออกหมายเชิญ “ผู้ว่าฯบุรีรัมย์”ไปพบปะประชุมกันที่“จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู”แน่ยิ่ง

กว่าแช่แป้ง ว่าต้องพูดคุยเรื่องข้อเสนอให้รัฐบาล 2 ฝ่ายเปิดจุดผ่อนปรนฯ เปิดทางให้ “คนไทย-กัมพูชา”ไปมาหาสู่กันให้สะดวกขึ้น เรื่องของเรื่อง ก็ตั้งแต่ Soft

Openingบ่อนสายตะกูมา ยอดนักพนันมือเติบจากฝั่งไทยยังไม่เข้าเป้า จากการที่โดนเปิดประเด็นและถูกจับจ้องเป็นพิเศษ เจตนาก็ชัดเจน จากตำแหน่งที่ตั้งบ่อนนี้

ว่าจ้องดูดเงิน“ผีพนันฝั่งไทย” ถ้า“คนในรัฐบาล”ทำไม่รู้ไม่ชี้ คำที่เขานินทาว่า“บิ๊กฝั่งไทย”มีส่วนได้ส่วนเสีย ก็คงสลัดไม่หลุด
คงจะเหลืออดเต็มที เมื่อ วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ขออุทิศหนึ่งโพสต์ ในเฟซบุ๊ก ประกาศเตือนด้วยความ

หวังดีเป็นครั้งสุดท้ายไปถึง “เนตไอดอลคนดัง” เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แห่งวิหคนิวส์ ว่าหมิ่นเหม่ทำผิดตาม“พ.ร.บ.คอมพ์”ให้ร้ายตัวนายวีระ ไม่หยุดหย่อน

พร้อมตอกหน้าไปด้วยว่า ชอบพูดเรื่องที่รู้ไม่จริง” มาทรงนี้ถ้าแหลมออกมาอีก คงมีหมายร่อนไปถึงบ้านแน่นอน ... สังเกตว่าตั้งแต่ “วิหคนิวส์”ถูกทหารบุกเมื่อ

ปลายปีก่อน บทบาทของ“พี่เทอดศักดิ์”ก็ยิ่งปราวณาตัวเป็น “ไอโอ Information Operations” ปกป้อง“รัฐบาลทหาร”สุดลิ่มทิ่มประตู ด้วย

วิทยายุทธ์งานมโนขั้นเทพ กลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ จุดขายที่เคยใช้ "“เปิดลึก-เบื้องลับ"”อะไรไม่มีให้ได้ยินอีกเลย อาศัยการด้นสด จับแพะชนแกะไปเรื่อย จาก

คนที่ไม่แม่นข้อมูล กลายเป็นมั่วซั่วไปเรื่อย หากแต่“ลูกมั่ว”ที่ออกมา ก็เน้นแต่เรื่องแก้ต่าง-แก่ตัวให้กับ“รัฐบาลทหาร”ตลอด
หรือใครที่โผล่ขึ้นมาขุดคุ้ยตรวจสอบ“รัฐบาลทหาร”ก็มักโดน “ดร.เทอดศักดิ์”สวมวิญญาณนักรบเปิดหน้าชนตลอด ยิ่ง“วีระ”ที่เกาะติด “บ่อนเขมร

สายตะกู”เจอแซะเป็นประจำ ล่าสุดถูกรื้อฟื้นสมัยไปติดคุกเปรยซอว์ ทวงบุญคุณว่ารัฐบาลช่วยชีวิตออกมา ทั้งที่ตัว“บิ๊กบราเทอร์ส”นั่นแหละที่รู้เห็นเป็นใจ จับ “วีระ”

ยัดคุกเขมร ที่ทุกวันนี้ไม่ถูกแฉสิ้นไส้ น่าจะเป็นบุญคุณท่วมหัวของรัฐบาลทหารมากกว่า ไม่เข้าใจว่าทำไม๊..ทำไม รัฐบาลทหารถึงจนตรอก ต้องมาใช้บริการ“ไอโอสมัคร

เล่น” อย่าง“ดร.เทอดศักดิ์” ที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่ว เชียงใหม่ รวมทั้งพื้นที่ภาคเหนือ ช่วงหลังหันมาเล่นเรื่องหวาดเสียวติดลมบน ยอดไลค์-ยอดแชร์ กระหึ่ม จนมีข่าว

“ทุนสีน้ำเงิน-ทุนปลอดภาษี”ต่อสายเข้าเทกโอเวอร์ “เจ้าสำนักวิหคนิวส์”ไปเรียบร้อย “โรงเรียนเจ้าสัว”แล้ว สอดรับกับข่าวที่แพลมจากปาก “เจ้าสัว” ที่คนเขารู้

ทั้งวงการว่า “พี่เขาซื้อง่าย ไม่แพงอย่างคิด”ไม่เชื่อก็ไปดูเรื่องเน่าๆ ใน “เครือข่ายบิ๊กบราเทอร์ส”ดูว่า “ไอโอคนดัง”ฟอกให้สุดลิ่มทิ่มประตูทุกเรื่อง …น่าสงสารคนที่

เคยไต่เต้าจากการไซโคให้คนเกลียด“ทักษิณ” แต่กลับลดตัวไปเป็นลิ่วล้อให้กับกลุ่มอำนาจที่แตะมือกะ“ทักษิณ”เสียเอง

** เรื่องฉาวที่อินโดฯ "ปิยะสวัสดิ์" อย่าปัดสวะ

น่าแปลกใจว่า ข่าวใหญ่ที่ “รัฐบาลอินโดนีเซีย”ยื่นฟ้อง “กลุ่ม ปตท.”ตั้งแต่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ PTTEP Australasia

บริษัทลูกในออสเตรเลีย รวมถึงบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ “ปตท.สผ.” เพื่อเรียกค่าเสียหายมูลค่ามหาศาล 2 พันล้านดอลลาร์ หรือ

กว่า 7 หมื่นล้านบาท จากกรณีทำน้ำมันรั่วในทะเลติมอร์ เมื่อปี 2552 โดยมีน้ำมันประมาณ 3 หมื่นบาร์เรล หลังเหตุระเบิดที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ

บริเวณแหล่งขุดเจาะมอนทารา ของ ปตท.สผ. นอกชายฝั่งออสเตรเลีย ดูจะไม่ค่อยเป็นที่สนใจในประเทศไทยสักเท่าไร ทั้งที่ในต่างประเทศถึงเป็นข่าวระดับพาดหัวเลยที

เดียว กระทบต่อภาพลักษณ์ที่ “กลุ่ม ปตท.”พยายามโอ้อวดว่าเป็น “เจ้าของรางวัลธรรมาภิบาลระดับโลก”อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามมาด้วย “อาฟเตอร์ช็อก”ที่

รัฐบาลอินโดนีเซีย ยกเลิก “ตั๋ว”ใบประกอบธุรกิจของ “กลุ่ม ปตท.”เรียบวุธ พร้อมยึดทรัพย์บริษัทลูกด้วย จน“ปตท.สผ.”เงอะงะ ทำอะไรไม่ถูก ประกาศสวนปังว่า

จะระงับการลงทุนใหม่ในอินโดฯ ทั้งหมด ทั้งที่ความเป็นจริงเป็นฝ่ายถูกตะเพิดออกมาก่อน
ในขณะที่การให้ข่าวในประเทศของ “บิ๊ก ปตท.”ตั้งแต่ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. ก็เป็นไปในทางปัดสวะพ้นตัวอย่างเดียว

หรือรายของ สมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. อ้างว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้ประสานงานกับรัฐบาลออสเตรเลียทำการจัด

จ้างผู้เชี่ยวชาญทำการศึกษาวิจัย จนได้ผลสรุปได้ว่า น้ำมันรั่ว (ตั้ง 74 วัน 3 หมื่นบาร์เรล) ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ บริเวณนั้นเลย และได้ประสานงานกับ

รัฐบาลอินโดนีเซีย เพื่อร่วมกันหาข้อยุติ แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ ... แต่ในทางตรงกันข้ามมีข้อมูลจาก “กลุ่มเอ็นจีโออินโดนีเซีย”ในนาม โอเชียน

วอตช์ อินโดนีเซีย (OWI)ได้เปิดเผยว่า “กลุ่ม ปตท.” พยายาม “ติดสินบน”เจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย เพื่อให้ปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่ว

ประจานทั้งกลุ่มบริษัท และประจานนิสัยแบบ “ไทยสไตล์”ไปพร้อมๆกัน จนรางวัลเกี่ยวกับธรรมาภิบาลที่ไล่กวาดมาทั่วโลกในมือ “บิ๊ก ปตท.”สั่นระรัวไปหมด.

ช.ชฎา
กำลังโหลดความคิดเห็น