xs
xsm
sm
md
lg

ทัพเรือตั้งโต๊ะแจงตามสคริปต์ "เรือจีน" โดนใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360-"เสธ.ทร." นำทีมชี้แจงซื้อเรือดำน้ำ เพื่อพัฒนาศักยภาพของกองทัพในการดูแลน่านน้ำไทย ย้ำเรือดำน้ำจีน พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์โดนใจ คุ้มค่างบประมาณ อ่าวไทยน้ำลึกเพียงพอให้ปฏิบัติการ ไม่หวั่นรัฐบาลใหม่ล้มโครงการ หลังหมดยุค คสช. ถามจะยอมทิ้งเงิน 700 ล้านทำไม เตรียมลงนามกับจีนพ.ค.นี้ เผยลำแรกแบ่งจ่าย 17 งวดในเวลา 7 ปี "บิ๊กป้อม" ยันจัดซื้อเรือดำน้ำไม่มีใครสั่ง สั่งแล้วใครจะเชื่อ แต่รับอยากให้มี ไม่ต้องเป็นห่วง ได้ของดี มีคุณภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (1พ.ค.) ที่โรงเก็บอากาศยาน เรือหลวงจักรีนฤเบศร ท่าเทียบเรือ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ พร้อมด้วย พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ โฆษกกองทัพเรือ พล.ร.ท.พัชระ พุ่มพิเชษฐ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ และ พล.ร.ต.กฤษฎาภรณ์ พันธุมโพธิ ผอ.สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ พล.ต.วิศาล ปัณฑวังกูร ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ พร้อมด้วยคณะกรรมการการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจัดหาเรือดำน้ำ yuan class S26 Tจากประเทศจีน ร่วมแถลงข่าว

พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ใช่การชี้แจง เพราะกองทัพเรือไม่ได้เป็นจำเลย แต่จะมาเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ เนื่องจากข้อมูลที่ปรากฏในช่วงที่ผ่านมานั้น มีจริงบ้าง คลาดเคลื่อนบ้าง และบางครั้งก็โหนกระแส

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ที่ตนเป็นประธาน อยากจะออกมาชี้แจง แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ยังไม่จบสิ้น และเอกสารก็เป็นเอกสารลับของทางราชการ เปิดเผยไม่ได้ ทำให้ถูกกล่าวหาว่า กองทัพเรืออ่อนการประชาสัมพันธ์ ไม่สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน แต่กองทัพเรือได้เคยออกสมุดเขียวให้ได้รับทราบแล้ว

"วันนี้ ขั้นตอนการจัดซื้อเรือดำน้ำได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว จึงสามารถเปิดเผยได้ โดยกองทัพเรือ ไม่ได้เสนอชื้อเรือดำน้ำในยุคนี้ แต่ได้เสนอความต้องการมาทุกยุคทุกสมัย ทุกรัฐบาล มากกว่ากึ่งศตวรรษ เช่นเดียวกับรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งกระบวนการไม่ได้แตกต่างกัน จึงอยากจะให้ปลดประเด็นที่กล่าวหาว่าไม่โปร่งใส ซึ่งกองทัพเรือเข้าใจดีว่า ในการจัดซื้อจัดหา ทั้งชิ้นส่วนตัวบริษัทห้างร้าน และทางราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของที่มีมูลค่าสูง ย่อมมีข้อพิจารณาแตกต่างกันออกไป แต่หลักการหนึ่ง ที่มีเหมือนกัน คือ ต้องตอบให้ได้ว่า ซื้อมาเพื่ออะไร ตรงตามความต้องการของเราหรือไม่ โดยคณะกรรมการจัดหาเรือดำน้ำ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ รอบด้าน ลึกซึ้งและกว้างไกล โดยยึดยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือเป็นหลัก และมีกระบวนการคัดเลือกแบบ รวมถึงการจัดหาอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรม ตรวจสอบได้ โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนที่ได้รับจากโครงการนี้"

ส่วนเงินที่นำไปจัดซื้อเรือดำน้ำ กองทัพเรือไม่ได้ไปเบียดบังเงินจากกระทรวงทบวงกรมอื่น หรืองบประมาณพิเศษอื่น มาจัดหาเรือดำน้ำ รวมถึงฝากไปถึงเพื่อนๆ ทหาร ที่กังวลว่า เมื่อซื้อเรือดำน้ำแล้ว จะทำให้ไม่มีเงินในการจัดหาเรืออากาศยาน ในภายภาคหน้า รวมถึงจะไม่มีเงินในการซ่อมบำรุงรักษาเรือรบ หรือเครื่องบิน ไม่เป็นความจริง

***เรือดำน้ำจีน-อาวุธ คุ้มค่าเงินที่สุด

พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวว่า ในอดีต ภารกิจของเรือดำน้ำ ประกอบด้วยการโจมตีเรือผิวน้ำ และเรือดำน้ำด้วยตอปิโด และวางระเบิดเป็นหลัก แต่ด้วยเทคโนโลยี และขีดความสามารถของเรือดำน้ำในปัจจุบันเหนือชั้นกว่าของเดิมมากมาย เช่น การปฏิบัติการ สนับสนุนการปฏิบัติการพิเศษ หรือที่เราเรียกว่ามนุษย์กบ ในการรักษาสันติภาพการโจมตีเป้าหมายเรือผิวน้ำ รวมถึงเป้าหมายบนฝั่งในปัจจุบัน ด้วยอาวุธปล่อยหรือจรวดนำวิถีเข้าสู่เป้าหมาย และยังใช้ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยอื่นได้ รวมถึงปฏิบัติการลับ เพื่อการยกพลขึ้นบก วางทุ่นระเบิด รวมทั้งยังมีปฏิบัติการเปิดภารกิจพิเศษ เพื่อต่อต้านการก่อการร้าย เป็นต้น ซึ่งเรือดำน้ำจีน มีคุณสมบัติรองรับภารกิจที่ว่า ส่วนจะพึงพอใจหรือไม่ ผู้ใช้งานจะเป็นผู้ให้คำตอบว่า happy หรือไม่

ทั้งนี้ ยืนยันว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำ เป็นไปตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ และการจัดซื้อมีความคุ้มค่าในการใช้เงิน ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่มากับเรือ ที่จีนให้มาพร้อมกับเรือ ทั้งระบบขีปนาวุธ ตอปิโด และทุ่นระเบิด ก็มีความคุ้มค่า

** ถ้ารัฐบาลใหม่ยกเลิกทิ้งเงิน700ล้าน

พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวว่า ในอนาคตหากมีการยกเลิกโครงการดังกล่าว จะต้องจ่ายค่าปรับเท่าไรนั้น เป็นคำถามที่ตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของนโยบาย เพราะบางคนอาจจะบอกว่าเป็นเรื่องที่อันตราย เป็นการท้าทายอำนาจทางการเมืองว่าเสนาธิการกองทัพเรือตอบเข้าข้างฝ่ายนี้ ต่อไปข้างหน้าก็จะโดนปลด แต่ขอยืนยันว่า ใครจะมา ใครจะไป กองทัพเรือยึดยุทธศาสตร์กองทัพเรือเป็นตัวตั้ง ซึ่งหากรัฐบาลชุดใหม่มา แต่เรามีหลักการจัดซื้อแบบมีเหตุผล และได้ดำเนินการจ่ายเงินไปแล้ว 700 ล้านบาท หากรัฐบาลชุดใหม่มา แล้วบอกให้ทิ้งเงินจำนวนนั้นไป แล้วมาเริ่มใหม่ ก็ต้องตอบประชาชนให้ได้ว่า ทิ้งเงินจำนวนนั้นเพื่ออะไร แล้วเหตุผลที่กองทัพเรือจัดซื้อจัดหา ไม่ถูกต้องตรงไหน จึงขอฝากไปยังรัฐบาลชุดต่อไปว่าท่านจะเลิกหรือไม่เลิก ไม่ใช่กองทัพเรือ แต่อยู่ที่ตัวท่านต่างหาก

**เผยอ่าวไทยน้ำลึกเพียงพอ

พล.ร.ท.พัชระ กล่าวว่า เรือดำน้ำแท้จริงไม่ใช่ความต้องการเฉพาะของกองทัพเรือเท่านั้น แต่เป็นความจำเป็นของประเทศ เพราะจะเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ที่มีคุณค่ามาก ในการเป็นหลักประกันความมั่นคงทางทะเล กองทัพเรือไม่มีเรือดำน้ำประจำการมากว่า 60 ปีแล้ว ซึ่งประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ เขามีเรือดำน้ำเข้าประจำการแทบทุกชาติ และมีการพัฒนา แบบก้าวกระโดด ดังนั้นทุกประเทศเข้าใจศักยภาพในการรักษาผลประโยชน์ชาติทางทะเลที่มีมูลค่ามาก

"อ่าวไทย ถือเป็นเส้นเลือดหลักในการลำเลียงสินค้าเข้าออกประเทศ โดยเฉพาะน้ำมัน ด้วยข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ เห็นได้ว่าอ่าวไทยมีลักษณะเป็นก้นถุง มีปากอ่าวแคบ ประเทศอื่นสามารถใช้เรือดำน้ำมาปิดอ่าวได้ง่าย ซึ่งจะเกิดผลกระทบความเสียหายต่อเศรษฐกิจและความอยู่รอดของประเทศ ดังนั้น สิ่งที่จะตอบโจทย์ คือ การมีเรือดำน้ำ ส่วนประเด็นความลึกของอ่าวไทย มีความลึกเฉลี่ย 50 เมตร ซึ่งเรือดำน้ำขนาดกลาง สามารถปฏิบัติการได้สบาย"พล.ร.ท.พัชระกล่าว

*** ลำแรกผ่อน17งวดใน 7 ปี

พล.ร.ต.กฤษฎาภรณ์ กล่าวว่า งบประมาณที่ใช้ในการจัดซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ เป็นงบประมาณภาคปกติของกองทัพเรือ ในส่วนการลงทุนพัฒนากองทัพเพื่อจัดหายุทโธปกรณ์มาใช้งาน ทั้งทดแทนส่วนเดิม การปรับปรุงที่มีอยู่ และการจัดหายุทโธปกรณ์ที่ไม่มีเข้ามาใช้งาน ซึ่งการจัดซื้อยุทโธปกรณ์แต่ละครั้ง จะต้องไม่กระทบต่อค่าใช้จ่าย และไม่เป็นภาระของกองทัพเรือ โดยการจัดซื้อเรือดำน้ำ 13,500 ล้านบาท จะมีการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ในเวลา 7 ปี แบ่งเป็น 17 งวด ตามระยะเวลาสร้างเรือดำน้ำ โดยงบปี 2560 กองทัพเรือได้งบ 700 ล้านบาท ส่วนปี 2561-65 เป็นต้นไป จะจ่ายเงินตามความก้าวหน้าของงาน เฉลี่ยปีละ 2,100 ล้านบาท

"เรื่องความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ เรามีคณะกรรมการฯ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเกือบ 100 คน ยืนยันว่าการดำเนินการในครั้งนี้ โปร่งใส และการลงนามสัญญาซื้อขายเรือดำน้ำจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ รมว.กลาโหมได้อนุมัติจ้างสร้างเรือตามระเบียบทางราชการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง เพื่อเตรียมเอกสารของทั้งสองฝ่าย และรอเวลาเหมาะสมเพื่อดำเนินการลงนามร่วมกัน คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนนี้ ส่วนการชำระเงิน ต้องชำระภายหลังการลงนามไม่เกิน 45 วัน ถือเป็นงวดแรก" พล.ร.ต.กฤษฎาภรณ์ กล่าว

**สมรรถนะเรือจีนโดนใจ

พล.ร.ต.วิศาล กล่าวว่า ในมุมมองกองเรือดำน้ำ มีหลายสิ่งที่เราพอใจ เพราะความสามารถในการซ่อนพรางตนเอง มีอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างรุนแรงหลายชนิด มีการซ่อมบำรุงเหมาะสม อีกทั้งกำลังพล มีโอกาสจะหาความรู้จนมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งแบบเรือดำน้ำชนิดนี้ ปกติเวลาอยู่ใต้น้ำจะใช้แบตตารี่เป็นพลังงานขับเคลื่อน เมื่อเราบรรจุแบตให้เต็ม ปกติจะใช้งานได้ 2-4 วัน เพราะมีระบบยืดระยะเวลาการใช้แบตในน้ำให้อยู่ได้นานขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเดินเรือด้วย โดยมีผลต่อการดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งขีดความสามารถในส่วนนี้ เป็นสิ่งที่โดนใจกองเรือดำน้ำมากที่สุด และคุณสมบัติของการมีอาวุธที่เรือดำน้ำปกติทั่วไป จะใช้ตอร์ปิโดเป็นอาวุธหลัก แต่ปัจจุบันสามารถใช้ยิงอาวุธนำวิถีหรือจรวดเพื่อยิงเรือผิวน้ำได้ อีกทั้งขีดความสามารถในการวางทุ่นระเบิดในท้องทะเล

**"บิ๊กป้อม" ยันจัดซื้อเรือดำน้ำไม่มีใครสั่ง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีสื่อมวลชนบางสำนักวิพากษ์วิจารณ์การจัดซื้อเรือดำน้ำว่ามีเบื้องบนสั่งการ ว่า สั่งอย่างไร ใครสั่ง พูดกันเองทั้งนั้น ถามว่าใครจะมาสั่งได้ ซึ่งกองทัพเรือมีคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำ 40-50 คน ถ้าจะเอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่เอา แต่ถ้าไม่เอาแล้วจะนำเอาคุณสมบัติของเรือดำน้ำแต่ละประเทศมาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร ดังนั้น เรื่องนี้ไม่มีใครสั่งตน และนายกฯ ก็ไม่ได้สั่ง แต่ส่วนตัวอยากให้มีเรือดำน้ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น