xs
xsm
sm
md
lg

ส.ป.ก.เตรียมออกกฎใหม่ "วินด์ฟาร์ม"แบบไหนเกิดได้

เผยแพร่:

**เลขาฯ ส.ป.ก. เผยการแก้ไขระเบียบในการดำเนินกิจการกังหันลมผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ส.ป.ก. จะแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.นี้ สั่งชะลอเฉพาะโครงการซึ่งยังไม่ได้รับการอนุมัติ ขณะที่ 16 บริษัท 17 โครงการเดิมยังเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนกรณีผู้ประกอบการรายใหญ่เช่าพื้นที่ส.ป.ก.ทำวินด์ฟาร์ม รวมนับพันไร่ โดยใช้วิธีตั้งบริษัทลูก แยกขอรายละไม่เกิน 50 ไร่นั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่ขัดระเบียบคปก.

เป็นที่สับสนไม่น้อยกับคำสั่งชะลอโครงการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าบนพื้นที่ส.ป.ก.ที่เตรียมทยอยก่อสร้าง ซึ่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)ให้เหตุผลว่าเป็นการชะลอโครงการเพื่อร่างเงื่อนไขหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนรัดกุมยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า โครงการใดบ้างที่ต้องชะลอการดำเนินการ โครงการที่ได้รับการอนุมัติไปแล้วแต่อยู่ระหว่างการก่อสร้างต้องชะลอโครงการด้วยหรือไม่ และโครงการต่างๆ จะถูกชะลอออกไปนานเท่าไร
นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ชี้แจงถึงประเด็นข้อสงสัยดังกล่าวว่า โครงการกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าบนพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ต้องชะลอการดำเนินการออกไปก่อนนั้นมีเฉพาะโครงการที่ยื่นเสนอมาแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจำนวน 11 โครงการ และบริษัทที่อยู่ระหว่างการสำรวจความเป็นไปได้ของโครงการแต่ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาต ส่วน 16 บริษัท 17 โครงการ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและชัยภูมิที่ได้รับการอนุมัติไปแล้วยังคงดำเนินการต่อไปได้ และเมื่อมีระเบียบใหม่ออกมาก็ให้ปฏิบัติตามระเบียบใหม่
สำหรับการร่างหลักเกณฑ์เพิ่มเติมใหม่นั้น สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะดำเนินการแก้ไขประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการกำหนดกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุน หรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามมาตรา 30 วรรค 5 แห่งพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 “ข้อ 1.5 กิจการที่เป็นการบริการหรือที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเกษตรกรในด้านเศรษฐกิจและสังคมในเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ซึ่งกิจการนั้นต้องอยู่ในพื้นที่ที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) กำหนดให้เป็นพื้นที่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ”โดยจะมีการทบทวนถ้อยคำที่กว้างเกินไปและกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนรัดกุมยิ่ง

**กฎใหม่"วินด์ฟาร์ม"แบบไหนเกิดได้

"ขอเรียนว่าไม่ใช่การสั่งชะลอโครงการ แต่จำเป็นต้องร่างระเบียบให้รอบคอบ เนื่องจากมีเสียงสะท้อนว่าหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเข้าใช้พื้นที่ส.ป.ก.ยังคงใช้ได้ดีอยู่หรือไม่ เนื่องจากคนทั่วไปมองว่าส.ป.ก. มีภารกิจหลักในการจัดสรรที่ดินให้เกษตรกร และพัฒนาชีวิตเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แล้วทำไมจึงมีกิจการอื่นอยู่ในพื้นที่ส.ป.ก. ตรงนี้ขอชี้แจงว่า เป็นการดำเนินการตาม มาตรา 30 วรรค 5 ของ พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดิน ซึ่งระบุว่าให้ ส.ป.ก.มีอำนาจจัดที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ให้บุคคลใดเช่า เช่าซื้อ ซื้อ หรือเข้าทำประโยชน์เพื่อใช้สำหรับกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดิน ซึ่งหมายถึงการสนับสนุนอาชีพเกษตรกรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรนั่นเอง ดังนั้นเพื่อป้องกันความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้นเราจึงต้องปรับปรุงถ้อยคำและรายละเอียดให้ชัดเจนว่าสำหรับการประกอบธุรกิจกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ส.ป.ก.นั้น อะไรบ้างที่ควรกำหนดให้เป็นกิจกรรมเพื่อการสนับสนุนความเป็นอยู่ของเกษตรกร และอาจมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้เกษตรกรด้วย" เลขาธิการฯ ส.ป.ก.ระบุ
สำหรับขั้นตอนในการปรับปรุงถ้อยคำในประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดังกล่าว จะใช้เวลานานเท่าไรนั้น เลขาธิการส.ป.ก. ระบุว่า จะได้ข้อยุติภายในเดือน เม.ย.นี้ จากนั้นในเดือนพ.ค. จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน ผู้ประกอบการธุรกิจกังหันลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าที่ขอใช้พื้นที่ส.ป.ก. มาหารือ เพื่อรับฟังความคิดเห็น เมื่อได้ข้อสรุปแล้วทีมกฎหมายของส.ป.ก.จะดำเนินการร่างระเบียบประกาศกระทรวงฯ ตามที่ได้ปรับปรุงแก้ไข และคาดว่าจะนำเสนอให้รมว.เกษตรฯ พิจารณาได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อจะบังคับใช้กับผู้ประกอบการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าบนพื้นที่ส.ป.ก.ต่อไป

**ตั้งบริษัทลูกเลี่ยงข้อกฎหมาย

ส่วนกรณีที่มีผู้ประกอบการบางรายตั้งบริษัทลูกขึ้นมาหลายบริษัท โดยแต่ละบริษัทยื่นขอดำเนินธุรกิจกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ส.ป.ก. รายละไม่เกิน 50 ไร่ แต่เมื่อรวมกันแล้วเกิน 50 ไร่นั้น เลขาธิการฯ ส.ป.ก.บอกว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำได้
"เนื่องจากการยื่นขอใช้พื้นที่ส.ป.ก.ของบริษัทที่ทำธุรกิจวินด์ฟาร์มแต่ละรายนั้น ไม่ขัดต่อระเบียบคปก. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการอนุญาตและการให้ผู้รับอนุญาตถือปฏิบัติในการใช้ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ สำหรับกิจการที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2541 ซึ่งระบุให้ส.ป.ก.มีอำนาจหน้าที่ในการจัดที่ดินให้แก่บุคคลใด ซึ่งหมายความรวมถึงบุคคลธรรมดา นิติบุคคล เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพื่อใช้สำหรับกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ ดังนั้น เมื่อผู้ที่ยื่นขอมาเป็นบุคคลคนละรายกัน และขอใช้พื้นที่รายละไม่เกิน 50 ไร่ จึงถือว่าไม่ขัดต่อระเบียบส.ป.ก. ก็ต้องอนุมัติให้" นายสมปอง กล่าว
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า การขอใช้พื้นที่ส.ป.ก. ของเอกชนในลักษณะดังกล่าว เป็นการอาศัยช่องว่างของกฎหมายในการทำธุรกิจ ทั้งที่แท้จริงแล้ว 16 บริษัท 17 โครงการ ที่ทำธุรกิจกังหันลมผลิตไฟฟ้าบนพื้นที่ส.ป.ก.ในเขต จ.นครราชสีมา และชัยภูมินั้น มีผู้ประกอบการรายใหญ่อยู่เพียง 2 ราย โดยแต่ละรายตั้งบริษัทลูกย่อยๆ ขึ้นมาหลายบริษัท ซึ่งบริษัทลูกแต่ละบริษัท จะตั้งอยู่ในพื้นที่ติดกัน และแต่ละบริษัทยื่นขออนุญาตใช้พื้นที่ส.ป.ก.รายละไม่ถึง 50 ไร่ แต่เมื่อรวมทุกบริษัทเข้าด้วยกันแล้ว ผู้ประกอบการบางรายสามารถเข้าใช้พื้นที่ส.ป.ก.ในการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าได้กว่า 2,000 ไร่ และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ ในการยื่นข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับข้อมูลในการทำธุรกิจนั้น กลับยื่นในนามของ บริษัทแม่ โดยระบุรายละเอียดเป็นรายโครงการ ขณะที่แต่ละโครงการยื่นขอใช้พื้นที่จากส.ป.ก.ในนามบริษัทลูก
**ส่วนในมุมมองของสังคม จะเห็นด้วยกับการดำเนินการในลักษณะนี้หรือไม่ และถือเป็นการยื่นข้อมูลอันเป็นเท็จต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) ก็คงต้องไปพิจารณากันอีกที แต่ที่แน่ๆ ทั้ง 16 บริษัท 17 โครงการ ที่ตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าบนพื้นที่ส.ป.ก. สามารถดำเนินการต่อไปได้แบบไร้ปัญหา...
กำลังโหลดความคิดเห็น