xs
xsm
sm
md
lg

ข้ามโขงลากคอ “โกตี๋”

เผยแพร่:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา

ปฏิวัติการทลายเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กรธรรมคุณ หรือโกตี๋ หัวโจกคนเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี ยึดอาวุธสงครามที่เตรียมก่อเหตุร้ายจำนวนมาก เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า เครือข่ายคนเสื้อแดงที่นิยมความรุนแรง ไม่ได้แตกพ่ายหรือสิ้นสลายไปแต่อย่างใด แม้ว่ารัฐบาลทหารจะเข้ามายึดอำนาจเกือบ 3 ปีเต็มแล้วก็ตาม

แผนการชั่วร้ายของเครือข่ายคนเสื้อแดงยังดำรงอยู่ รอคอยจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพื่อก่อความรุนแรงเท่านั้น และแม้ว่าแกนนำคนเสื้อแดงส่วนหนึ่ง จะมีหน้าฉากให้ความร่วมมือกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สนองตอบนโยบายสร้างความปรองดอง

แต่หลังฉากคนเสื้อแดงส่วนหนึ่งก็เตรียมกองกำลังพร้อมอาวุธ เพื่อสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมือง

โลกสวยตามนโยบายปรองดอง คงเป็นไปได้แค่ความฝันเท่านั้น แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ความปรองดองแทบไม่มีความเป็นไปได้ ตราบใดที่คนเสื้อแดงยังไม่สำนึกความผิดที่ก่อไว้

ประชาชนจำนวนมากที่หันหลังให้นโยบายปรองดอง เพราะไม่มีความเชื่อแม้แต่น้อยว่า แกนนำคนเสื้อแดงที่ร่วมโต๊ะปรองดองจะกลับตัวกลับใจ

การกวาดต้อนคนกลุ่มต่างๆ ไปร่วมโต๊ะเจรจาสร้างความปรองดอง ไม่น่าจะนำความสงบสุขคืนสู่สังคมได้ แต่การทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย การกวาดล้างเครือข่ายคนเสื้อแดงที่นิยมความรุนแรงให้สิ้นซาก การตามล่าคนเสื้อแดงที่มีคดีติดตัวมาลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด จะทำให้สังคมเกิดความสงบสุขได้

“โกตี๋” ถูกขึ้นบัญชีเป็นอันดับต้นๆ ของแกนนำคนเสื้อแดงที่ประชาชนต้องการตัวมากที่สุด เพราะเป็นภัยร้ายแรงต่อแผ่นดินไทย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังระดมมวลชนคนเสื้อแดงก่อความรุนแรง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่สี่แยกหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งโกตี๋ระดมคนเสื้อแดงพร้อมอาวุธ บุกถล่มกลุ่มหลวงปู่พุทธอิสระ

แต่วีรบุรุษป๊อปคอร์นออกปฏิบัติการตอบโต้ จนโกตี๋และลูกสมุนต้องหนีกระเจิง

แม้จะหนีหัวซุกหัวซุนอยู่นอกประเทศ แต่โกตี๋ก็ยังไม่หยุดความเหิมเกริม บงการให้ลูกสมุนในเครือข่ายเตรียมก่อความรุนแรงครั้งใหม่อีก จึงปล่อยโกตี๋ให้ลอยนวลต่อไปไม่ได้ จำเป็นต้องล่าตัวกลับมาลงโทษโดยเร็วที่สุด

และโกตี๋ก็ไม่ได้หนีไปไกล ข้ามฝั่งโขงซุกหัวอยู่ในประเทศลาวนี่เอง

ทำไมพล.อ.ประยุทธ์จึงประสานขอให้ลาวส่งตัวโกตี๋กลับมาไม่ได้ ทำไมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จึงประสานขอความร่วมมือกับรัฐบาลลาว เพื่อให้ส่งแกนนำคนเสื้อแดงนับสิบคนที่หนีคดีมาให้รัฐบาลไทยไม่ได้

มาตรการทางการทูตได้ดำเนินการอย่างถึงที่สุดหรือไม่ เพื่อให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมา และมีใครคิดใช้มาตรการกดดันรัฐบาลลาวที่ให้ที่พักพิงหัวโจกคนเสื้อแดงที่หนีคดีไปมั่วสุมตั้งวิทยุโจมตีประเทศไทยบ้างหรือไม่

เพราะในเมื่อลาวไม่เกรงใจไทย ไม่เตือนคนเสื้อแดงที่หนีไปขอลี้ภัยให้เจียมเนื้อเจียมตัวซุกหัวอย่างสงบ แต่กลับสนับสนุนจัดตั้งเครือข่ายวิทยุให้ร้ายรัฐบาลไทย ทำไมพล.อ.ประยุทธ์จะต้องเกรงใจลาว

ทำไมไม่ดำเนินนโยบายการทูตที่แข็งกร้าว หรือดำเนินมาตรการกดดันลาว และถ้าถึงขั้นต้องปิดชายแดน ก็เป็นสิ่งที่น่าพิจารณา เพื่อตอบโต้ลาวที่ช่วยเหลือปกป้องบุคคลที่เป็นภัยต่อแผ่นดินไทย

จะปล่อยให้โกตี๋หรือแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นๆ ลอยนวลอยู่ในลาว สร้างฐานปฏิบัติการโจมตีประเทศไทยไม่ได้แล้ว และคำขอให้ลาวส่งตัวโกตี๋กลับมาก็มีน้ำหนักมากขึ้น เพราะมีคดีใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายคดี ทั้งการครอบครองอาวุธสงคราม ครอบครองยาเสพติด รวมทั้งอั้งยี่ ซ่องโจร

ลาวไม่มีข้ออ้างที่จะบิดพลิ้ว ไม่ส่งตัวโกตี๋กลับมารับโทษหนักอีกต่อไปแล้ว เพราะข้อหาใหม่ ไม่อาจบิดเบือนว่าเป็นคดีการเมืองได้ แต่เป็นคดีอาญาโดยตรง และเป็นความผิดตามกฎหมายที่บังคับใช้กันทั่วโลก เข้าเงื่อนไขข้อตกลงความร่วมมือส่งผู้ร้ายข้ามฝั่งโขงกลับมาติดคุกไทย

ต้องเร่งมือแล้ว รีบส่งหนังสือถึงลาว ขอให้ส่งตัวโกตี๋กลับมาตามหมายจับคดีสะสมอาวุธสงครามเตรียมก่อเหตุร้าย ก่อนที่ “โกตี๋” จะเผ่นหนีไปประเทศอื่น

ต้องลากคอ “โกตี๋” ปากดีข้ามฝั่งโขงมาชดใช้กรรมอย่างสาสมในประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น