ผู้จัดการรายวัน 360 - “บิ๊กตู่” ย้ำปัญหาธรรมกายต้องแก้ด้วยกฎหมายสงฆ์ แจง “ดีเอสไอ” เร่งรวบรวมข้อมูล “พระทัตตชีโว” มีเอี่ยวทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ด้าน ผบ.ทบ. ยันต้องคง ม.44 คุมรอบวัดพระธรรมกาย พร้อมลดกำลังลงตามระดับ ด้าน พศ. เร่งรวบรวบข้อมูลส่งคำร้องสึก “ธัมมชโย” ส่วนพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย 10 รูปเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.คลองห้า กรณีขัดคำสั่งไม่รายตัวต่อ ดีเอสไอ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ลีลาวดี” ยุยงปลุกปั่น
วานนี้ (14 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการผ่อนปรนมาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายว่า มาตรา 44 เป็นการเขียนให้ครอบคลุมไว้เท่านั้นเพื่อไม่ต้องใช้กฎหมายหลายฉบับในการดูแลรักษาพื้นที่และทำให้การดำเนินการมีความรวดเร็วมากขึ้น แต่ในที่สุดก็ต้องนำไปสู่การใช้กฎหมายปกติ ส่วนเรื่องสงฆ์ก็จะเกี่ยวกับพระธรรมวินัย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งมีมาตรา 21 กำกับอยู่ โดยได้ให้ สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ประสานกับมหาเถรสมาคม (มส.) ดูแลตามขั้นตอน ขณะเดียวกันตนก็ได้ศึกษาและดำเนินการตามกฎหมายสงฆ์มาตลอด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า พระทัตตชีโว อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่นำเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่บริจาคให้วัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้นและมีเซียนหุ้นอักษรย่อ ส. เป็นผู้ดำเนินการ ว่า จะต้องรอการพิสูจน์ทราบ ขณะนี้กระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่ ในส่วนของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ก็ต้องทำไปพร้อมกับการฟื้นฟู เพราะมีความเดือดร้อนและต้องตามหาหลักฐานทางการเงิน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมพระธัมมชโย ว่า คงไม่มีการขยายพื้นที่ควบคุมไปยังวัดสาขาของวัดพระธรรมกายในต่างจังหวัด ส่วนมาตรการผ่อนปรนการควบคุมพื้นที่วัดธรรมกายตามมาตรา 44 นั้นเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ซึ่งจะเบาลงเรื่อยๆ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องประจำการอยู่เพื่อดูแลความเรียบร้อย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการกับวัดพระธรรมกายจะยังคงมาตรา 44 กำหนดให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม โดยต้องรอให้ที่ประชุม คสช. พิจารณาในวันที่ 15 มี.ค.ศกนี้
ด้าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ เลขาธิการ คสช. กล่าวถึงการบังคับใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในพื้นที่รอบวัดพระธรรมกายว่า มาตรา 44 ยังคงไว้แต่มีการปรับกำลังพลโดยรอบพื้นที่ซึ่งแต่ละหน่วยจะค่อยๆ ลดกำลังคนลง ส่วนประชาชนสามารถเข้าออกวัดได้ตามปกติ โดยขอยืนยันว่าไม่ได้สั่งให้มีการตรึงกำลังเพิ่มเติมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องคงมาตรา 44 ไปถึงเมื่อใด เพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ซึ่งเวลานี้มีความจำเป็น เนื่องจากยังมีความกังวลอยู่ ตราบใดที่ยังไม่พบตัวพระธัมมชโย เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลอยู่
*** พศ.ส่งคำร้องสึก “ธัมมชโย”
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า พศ.กำลังอยู่ระหว่างการวบรวมข้อร้องเรียนของหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับ พระธัมมชโย ทั้งจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เพื่อยื่นร้องเรียนส่งไปยัง สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง จากนั้นเจ้าคณะใหญ่หนกลางจึงจะแจ้งเรื่องไปยังเจ้าคณะปกครองตามลำดับชั้นจนถึงรักษาการเจ้าอาวาสพระธรรมกาย เพื่อดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎมหาเถรสมาคม (มส.) ฉบับที่ 21 โดยคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลาไม่นาน
“ในกรณีที่ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ส่งเรื่องถึงรักษาการเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย เพื่อดำเนินการตามกฎ มส. ฉบับที่ 21 แล้วไม่พบพระธัมมชโย หรือว่าพระธัมมชโยไม่ยอมรับนั้น ก็ให้ปิดคำวินิจฉัย ณ ที่พำนักอาศัย ก็จะถือว่าทราบคำวินิจฉัยดังกล่าวแล้ว ต้องสละสมณเพศภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ถือว่าทราบคำวินิจฉัย กรณีไม่สละสมณเพศภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัย จะแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยต่อไป” พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าว
*** พระวัดธรรมกาย 10 รูปรับทราบข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พระสงฆ์วัดพระธรรมกาย 10 รูปได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไว้ โดย พ.ต.ท.อุทัย แววไทสงค์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า ได้นำพระสงฆ์วัดพระธรรมกายนำตัวส่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อพระสงฆ์วัดพระธรรมกายทั้งหมด 14 รูปที่ขัดคำสั่งไม่มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ
สำหรับพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย ที่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี มีทั้งหมด 10 รูป ประกอบไปด้วย 1.พระปลัดสุธรรม สุธัมโม หรือพระวิเทศ ภาวนาจารย์ 2.พระครูถวัลศักดิ์ ยติสโก 3.พระครูสังฆรักษ์ อนุรักษ์ โสตถิโก หรือพระครูแอ 4.พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส 5.พระมหานพพร ปุญญชโย 6.พระภาสุระ ทนตมโน (ใจวงศ์) 7.พระนพดล สิริวโส 8.พระมหาบุญชัย จารุทัตโต 9.พระครูสุวิทย์ สุวิชชาโก และ 10. พระแสนพล เทพเทพา หรือสิบเอกแสนพล เทพเทพา
ส่วนพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้เดินทางมาคงเหลือเพียง พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา และพระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทตตชีโว ที่อ้างว่าอาพาธ ไม่สามารถมารับทราบข้อกล่าวหาได้ ส่วนอีก 2 รูปที่ไม่ได้มาคือ พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ และพระครูใบฎีกา อำนวยศักดิ์ มุนิสโก ซึ่งทั้ง 2 รูปจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับ พระทัตตชีโว อีกครั้งในภายหลัง
*** DSI ยังตั้งด่านดูแลรอบวัดพระธรรมกาย
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษก ดีเอสไอ เปิดเผยก่อนการประชุมติดตามสถานการณ์และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่วัดพระธรรมกายว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติงานในพื้นที่จากการตั้งด่านสกัดเป็นการเฝ้าระวังจุดต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนทั้งจากผู้ที่ต้องการเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวายและเพื่อดูแลความเรียบร้อยให้กับประชาชนโดยรอบ เนื่องจากวัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบยังเป็นพื้นที่ควบคุมตามมาตรา 44 จึงต้องดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ล่าสุดยังได้ทยอยส่งหนังสือเรียกให้บุคคลมารายงานตัวโดยหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าของที่ดินที่ปลูกสร้างอาคารบุญรักษาและผู้ที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ภายหลังจากที่มีการออกประกาศมาตรา 44 เช่น เจ้าของพื้นที่บุคคลที่นำรถมาจอดกีดขวาง ผู้ที่ชุมนุมอยู่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง และบริเวณถนนเลียบคลองแอนทางที่จะเข้าสู่ประตู 5
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล อดีตนักการเมือง ปี 2528 ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่กองบังคับการปราบปรามเพิ่มอีก 1 คดี ตามมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินคดีมีทั้งหมด 46 คดี เป็นคดีในความรับผิดชอบของกองปราบฯ 4 คดี สภ.คลองหลวง 28 คดี และ สภ.คลองห้า 14 คดี ส่วนบุคคลที่ได้ออกหมายเรียกให้มารายงานตัวขนาดนี้มีทั้งสิ้น 317 คน มารายงานตัวแล้วมากกว่า 100 คน
วานนี้ (14 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการผ่อนปรนมาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายว่า มาตรา 44 เป็นการเขียนให้ครอบคลุมไว้เท่านั้นเพื่อไม่ต้องใช้กฎหมายหลายฉบับในการดูแลรักษาพื้นที่และทำให้การดำเนินการมีความรวดเร็วมากขึ้น แต่ในที่สุดก็ต้องนำไปสู่การใช้กฎหมายปกติ ส่วนเรื่องสงฆ์ก็จะเกี่ยวกับพระธรรมวินัย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งมีมาตรา 21 กำกับอยู่ โดยได้ให้ สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ประสานกับมหาเถรสมาคม (มส.) ดูแลตามขั้นตอน ขณะเดียวกันตนก็ได้ศึกษาและดำเนินการตามกฎหมายสงฆ์มาตลอด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า พระทัตตชีโว อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่นำเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่บริจาคให้วัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้นและมีเซียนหุ้นอักษรย่อ ส. เป็นผู้ดำเนินการ ว่า จะต้องรอการพิสูจน์ทราบ ขณะนี้กระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่ ในส่วนของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ก็ต้องทำไปพร้อมกับการฟื้นฟู เพราะมีความเดือดร้อนและต้องตามหาหลักฐานทางการเงิน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมพระธัมมชโย ว่า คงไม่มีการขยายพื้นที่ควบคุมไปยังวัดสาขาของวัดพระธรรมกายในต่างจังหวัด ส่วนมาตรการผ่อนปรนการควบคุมพื้นที่วัดธรรมกายตามมาตรา 44 นั้นเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ซึ่งจะเบาลงเรื่อยๆ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องประจำการอยู่เพื่อดูแลความเรียบร้อย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการกับวัดพระธรรมกายจะยังคงมาตรา 44 กำหนดให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม โดยต้องรอให้ที่ประชุม คสช. พิจารณาในวันที่ 15 มี.ค.ศกนี้
ด้าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ เลขาธิการ คสช. กล่าวถึงการบังคับใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในพื้นที่รอบวัดพระธรรมกายว่า มาตรา 44 ยังคงไว้แต่มีการปรับกำลังพลโดยรอบพื้นที่ซึ่งแต่ละหน่วยจะค่อยๆ ลดกำลังคนลง ส่วนประชาชนสามารถเข้าออกวัดได้ตามปกติ โดยขอยืนยันว่าไม่ได้สั่งให้มีการตรึงกำลังเพิ่มเติมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องคงมาตรา 44 ไปถึงเมื่อใด เพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ซึ่งเวลานี้มีความจำเป็น เนื่องจากยังมีความกังวลอยู่ ตราบใดที่ยังไม่พบตัวพระธัมมชโย เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลอยู่
*** พศ.ส่งคำร้องสึก “ธัมมชโย”
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า พศ.กำลังอยู่ระหว่างการวบรวมข้อร้องเรียนของหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับ พระธัมมชโย ทั้งจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เพื่อยื่นร้องเรียนส่งไปยัง สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง จากนั้นเจ้าคณะใหญ่หนกลางจึงจะแจ้งเรื่องไปยังเจ้าคณะปกครองตามลำดับชั้นจนถึงรักษาการเจ้าอาวาสพระธรรมกาย เพื่อดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎมหาเถรสมาคม (มส.) ฉบับที่ 21 โดยคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลาไม่นาน
“ในกรณีที่ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ส่งเรื่องถึงรักษาการเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย เพื่อดำเนินการตามกฎ มส. ฉบับที่ 21 แล้วไม่พบพระธัมมชโย หรือว่าพระธัมมชโยไม่ยอมรับนั้น ก็ให้ปิดคำวินิจฉัย ณ ที่พำนักอาศัย ก็จะถือว่าทราบคำวินิจฉัยดังกล่าวแล้ว ต้องสละสมณเพศภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ถือว่าทราบคำวินิจฉัย กรณีไม่สละสมณเพศภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัย จะแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยต่อไป” พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าว
*** พระวัดธรรมกาย 10 รูปรับทราบข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พระสงฆ์วัดพระธรรมกาย 10 รูปได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไว้ โดย พ.ต.ท.อุทัย แววไทสงค์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า ได้นำพระสงฆ์วัดพระธรรมกายนำตัวส่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อพระสงฆ์วัดพระธรรมกายทั้งหมด 14 รูปที่ขัดคำสั่งไม่มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ
สำหรับพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย ที่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี มีทั้งหมด 10 รูป ประกอบไปด้วย 1.พระปลัดสุธรรม สุธัมโม หรือพระวิเทศ ภาวนาจารย์ 2.พระครูถวัลศักดิ์ ยติสโก 3.พระครูสังฆรักษ์ อนุรักษ์ โสตถิโก หรือพระครูแอ 4.พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส 5.พระมหานพพร ปุญญชโย 6.พระภาสุระ ทนตมโน (ใจวงศ์) 7.พระนพดล สิริวโส 8.พระมหาบุญชัย จารุทัตโต 9.พระครูสุวิทย์ สุวิชชาโก และ 10. พระแสนพล เทพเทพา หรือสิบเอกแสนพล เทพเทพา
ส่วนพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้เดินทางมาคงเหลือเพียง พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา และพระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทตตชีโว ที่อ้างว่าอาพาธ ไม่สามารถมารับทราบข้อกล่าวหาได้ ส่วนอีก 2 รูปที่ไม่ได้มาคือ พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ และพระครูใบฎีกา อำนวยศักดิ์ มุนิสโก ซึ่งทั้ง 2 รูปจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับ พระทัตตชีโว อีกครั้งในภายหลัง
*** DSI ยังตั้งด่านดูแลรอบวัดพระธรรมกาย
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษก ดีเอสไอ เปิดเผยก่อนการประชุมติดตามสถานการณ์และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่วัดพระธรรมกายว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติงานในพื้นที่จากการตั้งด่านสกัดเป็นการเฝ้าระวังจุดต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนทั้งจากผู้ที่ต้องการเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวายและเพื่อดูแลความเรียบร้อยให้กับประชาชนโดยรอบ เนื่องจากวัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบยังเป็นพื้นที่ควบคุมตามมาตรา 44 จึงต้องดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ล่าสุดยังได้ทยอยส่งหนังสือเรียกให้บุคคลมารายงานตัวโดยหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าของที่ดินที่ปลูกสร้างอาคารบุญรักษาและผู้ที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ภายหลังจากที่มีการออกประกาศมาตรา 44 เช่น เจ้าของพื้นที่บุคคลที่นำรถมาจอดกีดขวาง ผู้ที่ชุมนุมอยู่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง และบริเวณถนนเลียบคลองแอนทางที่จะเข้าสู่ประตู 5
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล อดีตนักการเมือง ปี 2528 ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่กองบังคับการปราบปรามเพิ่มอีก 1 คดี ตามมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินคดีมีทั้งหมด 46 คดี เป็นคดีในความรับผิดชอบของกองปราบฯ 4 คดี สภ.คลองหลวง 28 คดี และ สภ.คลองห้า 14 คดี ส่วนบุคคลที่ได้ออกหมายเรียกให้มารายงานตัวขนาดนี้มีทั้งสิ้น 317 คน มารายงานตัวแล้วมากกว่า 100 คน