xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

อู่จอดพร้อม งบพร้อม “บิ๊กป้อม” ก็พร้อม เรือดำน้ำมาแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เดินหน้าสู่เป้าหมายราชนาวีไทยได้เรือดำน้ำแน่ เพราะล่าสุด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกับยกทีมใหญ่ไปสัตหีบเพื่อไปดูที่ทางสร้างอู่จอดเรือดำน้ำ รองรับเรือดำน้ำซึ่งทางกองทัพเรือ เตรียมแผนพร้อม สั่งซื้อ จากพี่เบิ้มจีนไว้แล้ว

จะรอก็แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคาะอนุมัติ เท่านั้น ซึ่งมีกระแสข่าวว่ากลาโหมจะเอาเรื่องจะเข้า ครม.ภายในเดือนมีนาคมนี้ เพราะฉะนั้นจับตากันดูให้ดี

สำหรับคณะที่ยกกันไปเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ไปกันพร้อมหน้าพร้อมตา นอกจาก บิ๊กป้อม แล้วก็มีทั้ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.), พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) โดยเดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยงานของกองทัพเรือ สายงานด้านการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ที่อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ

ภารกิจการตรวจเยี่ยมทัพเรือในวันดังกล่าวนั้น “บิ๊กป้อม” มาเพื่อรับฟังความก้าวหน้าในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเรือด้านการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ทั้งการซ่อม สร้าง ผลิต วิจัยและพัฒนา เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมกับภาคเอกชนและกระทรวงกลาโหมมิตรประเทศ เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าไปสู่การพึ่งพาตนเองและเพื่อการพาณิชย์ โดยสายงานด้านการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ ที่คณะของบิ๊กป้อม ได้เยี่ยมชมวันนั้น ประกอบด้วย การซ่อมเรือ การซ่อมอากาศยาน การซ่อมสรรพาวุธ และการซ่อมรถยนต์สงคราม

แต่ภารกิจหลักที่สำคัญจริงๆ คือ ดูการเตรียมความพร้อมในการซ่อมบำรุงเรือดำน้ำที่จะ เข้าประจำการในอนาคต โดยอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ เตรียมพื้นที่ 40ไร่ สร้างโรงซ่อมเรือดำน้ำ รองรับเรือดำน้ำรุ่น Yuan Class S 26 T จากจีน บริเวณอ่าวสัตหีบใกล้กับจุกเสม็ด โดยโครงการดังกล่าวกองทัพเรือกำลังจัดทำแผนเพื่อขออนุมัติงบประมาณจากคณะ ครม.ในการก่อสร้าง

แผนการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือนั้นต้องบอกว่าร้องเพลงรอเก้อมาหลายปีแล้ว แต่ ถึงเวลานี้ บิ๊กป้อมขอบอก ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว เพราะทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ในท้องทะเลต้องมีกองเรือดำน้ำให้การคุ้มครอง

“.... ความพร้อมที่จะรองรับเรือดำน้ำ กองทัพเรือมีความพร้อมมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้ซื้อ เนื่องจากติดข้อท้วงติงในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องเรือดำน้ำใช้ประโยชน์ไม่ได้ และทะเลของไทยมีความตื้น ขอยืนยันว่าเรือดำน้ำใช้ได้ ที่ผ่านมาเราไม่เคยไปดู 200 ไมล์ทะเลทางด้านตะวันตกทะเลอันดามันว่าเรามีทรัพยากรธรรมชาติอะไรอยู่บ้าง แต่โดนโจมตีจนไม่ได้ซื้อทุกครั้ง ทุกเรื่องยืนยันว่าเราพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด....” สัญญาณแรงชัดจากพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์


และในเวลาเร็ววันนี้ คงได้เห็น ครม.เปิดไฟเขียวให้เสียที เพราะเรื่องงบประมาณการจัดซื้อก็ผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เรียบร้อยแล้ว “... ก็งบประมาณผ่าน สนช. ต่อไปก็เข้า ครม...” บิ๊กป้อม ยืนยันไม่มีเรื่องน่าห่วงแล้ว

และมีรายงานข่าวว่า กองทัพเรือ ได้จัดทำเอกสารรายละเอียดการจัดซื้อเรือดำน้ำรุ่น Yuan Class S 26 T จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 1 ลำ วงเงินงบประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท เสนอต่อ พล.อ.ประวิตร เรียบร้อยแล้ว รอแต่นำเสนอเข้า ครม. เพื่อขออนุมัติ

กองทัพเรือ พร้อมแล้ว แผนชัดเจนแล้ว โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เปิดเผยว่า กองทัพเรือ โดยคณะกรรมการคณะกรรมการพิจารณาจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือลงมติ 14-3 เลือกซื้อเรือดำน้ำ Yuan Class S-26Tจากประเทศจีน จำนวน 3 ลำพร้อมอาวุธ งบประมาณราว 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อในครั้งนี้เป็นแบบแพ็คเกจ ทั้งเรื่องของเรือ อาวุธ การฝึกอบรม และการดูแลอะไหล่เรือดำน้ำ เป็นเวลา 8 ปี

“เราต้องเชื่อใจกัน และเคารพในการทำหน้าที่ของใครของมัน เพราะเรือดำน้ำเป็นผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับมากกว่า เพราะเป็นอาวุธที่มีศักยภาพสูงในการป้องกันทางทะเล ทั้งอ่าวไทย และอันดามัน โดยเฉพาะพื้นที่อ่าวไทยที่มีพื้นที่กว่า 3 แสนตารางไมล์ จากข้อมูลในการศึกษาของกองทัพเรือ พบว่า ผลประโยชน์มีมูลค่ามากถึง 24 ล้านล้านบาท ต่อปี ซึ่งถือว่ามีมูลค่ามหาศาล เมื่อเทียบกับเรือดำน้ำที่จะซื้อจำนวน 3 ลำ มูลค่า แค่ 3.6 หมื่นล้านบาท และสามารถใช้งานได้ถึง 30 ปี เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามากที่สุด” พล.ร.อ.ไกรสร เคยกล่าวย้ำอย่างหนักแน่นต่อสังคมถึงประโยชน์อันล้นเหลือของการมีกองเรือดำน้ำ

สื่อออนไลน์สหรัฐฯ Value Walk ระบุว่า ในย่านเอเชียแปซิฟิก สิงคโปร์ มีเรือดำน้ำ เตรียม เข้าประจำการจำนวน 4 ลำ มาเลเซีย มีจำนวน 2 ลำ พร้อมกับแผนการที่จะสั่งซื้อเพิ่มอีก 10 ลำ ในขณะที่เวียดนาม มีจำนวน 4 ลำ และอยู่ในระหว่างการส่งมอบอีก 2 ลำจากรัสเซีย ในขณะที่ฟิลิปปินส์มีแผนจะสั่งซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำ

สื่อสหรัฐฯ เชื่อว่า เมื่อเรือดำน้ำมาประจำการแล้ว ทางไทยจะกำหนดให้เรือดำน้ำแล่น ตรวจ การณ์ในบริเวณอ่าวไทย และจะมีความจำเป็นมากขึ้นโดยเฉพาะหากมีการยกระดับความรุนแรงในเหตุพิพาทบริเวณทะเลจีนใต้ และไทยยังสามารถใช้เรือดำน้ำเหล่านี้ป้องกันการล่วงล้ำ อ่าวไทยจากข้าศึก รวมไปถึงยังทำให้กองทัพเรือไทยลดการพึ่งพาการใช้ยานรบเหนือน้ำทุก ประเภทอีกด้วย

ยุคทหารเป็นใหญ่ บิ๊กป้อม ไม่เพียงแต่นำพาพี่น้องราชนาวีร่วมฝันไปกับการมีกองเรือดำน้ำให้ลูกประดู่ไทยเปล่งแสนยานุภาพไม่น้อยหน้าประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ยังฝันไกลถึงการมีการวิจัย พัฒนา ผลิต และซ่อมบำรุงอาวุธยุทธปกรณ์ อย่างครบครัน

“ผมจะไปดูทุกเหล่าทัพ และจะให้รวบรวมว่าสิ่งใดที่เราทำได้มีการดำเนินการและมีความก้าวหน้า ให้กองทัพนั้นเป็นต้นแบบดำเนินการ ในส่วนของเหล่าทัพอื่นก็ต้องเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น โดยการบูรณาการร่วมกันทุกเหล่าทัพ โดยมี พล.อ.อุดมเดช ทำหน้าที่ดูแลการบูรณาการทั้งหมด เพื่อการพึ่งพาต่อไปในอนาคต ถือเป็นการปฏิรูปในเรื่องของยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยในอนาคต 20 ปีข้างหน้าจะทำอะไร ...."

บิ๊กป้อม ฝันไกล และการเตรียมสร้างอู่เรือดำน้ำ ก็อยู่ในแผนแห่งอนาคตของกองทัพไทย เช่นกัน

ขอขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก วาสนา นาน่วม


กำลังโหลดความคิดเห็น