xs
xsm
sm
md
lg

"ชิ ซังเต"ธัมมชโย โป้ง โป้ง จับสึก-เข้าคุก !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**หากบอกว่า"เดินเกมพลาด"มาตั้งต้นก็น่าจะใช่สำหรับ "ธัมมชโย" และบรรดาสาวกของ"ธรรมกาย" ทั้งหลายของพวกเขา เพราะการเลือกใช้วิธี"ดื้อแพ่ง"ปิดประตูวัดพระธรรมกาย สร้างลักษณะเป็น"รัฐซ้อนรัฐ" ขึ้นมาถือว่าไม่เป็นผลดีและก่อให้เกิดสถานการณ์บานปลายลุกลามจนกู่ไม่กลับ เส้นทางข้างหน้ามีแต่ลงเหวสถานเดียว ไม่มีทางเดินกลับมาในเส้นทางเดิมได้อีกแล้ว
ที่สำคัญในอนาคตจะไม่มีทางซ้ำรอยเดิมประเภทที่ว่าจะมีการ "ถอนฟ้องกลางศาล" เหมือนเมื่อปี 2549 คงจะเกิดขึ้นได้ยากเต็มที
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง"ถอดถอนสมณศักดิ์" โดยมีการระบุว่า
พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีกระทําความผิดข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร ตามที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ที่ ๙๔๒/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ และยังถูกกล่าวหาในคดีอาญาฐานอื่นอีกหลายฐานความผิด ซึ่งอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้องในบางคดีด้วยแล้ว แต่พระเทพญาณมหามุนีไม่ยอมมอบตัวตามหมายเรียก และได้หลบหนีคดีดังกล่าว จึงไม่สมควรดํารงอยู่ในสมณศักดิ์ต่อไป และได้นําความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมต่อไปแล้ว
บัดนี้ ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอน พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๐ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
ก็ต้องบอกว่า "จบสิ้นแล้ว" สำหรับ เส้นทางของ "ธัมมชโย" ในเส้นทางเดิมที่เคยใช้"เถรสมาคม" ในการไต่เต้าขึ้นไปสู่จุดสูงตามที่ตัวเองต้องการ รวมไปถึงการอิงแอบอยู่กับองค์กรทางศาสนาพุทธเพื่อสร้างความเติบใหญ่ให้กับ "เครือข่ายธรรมกาย" มันพังครืนลงมาทันใด แม้ว่าในอนาคตข้างหน้าเมื่อถึงที่สุดแล้วพวกเขาจะนำพาสาวสาวกแยกออกไป "ตั้งลัทธิใหม่" เป็นเอกเทศ ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งต้องรอพิสูจน์กันต่อไป
**แต่สำหรับเส้นทางเดิมนาทีนี้ต้องย้ำว่า "จบแล้ว" จะเดินต่อไปแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว เพราะเชื่อว่าหลังจากนี้จะต้องเจอกับดาบสองตามมา นั่นคือ จะถูกลงโทษตามกฎลักษณะปกครองสงฆ์ ถูกลงโทษตามพระธรรมวินัย และนำไปสู่การ "จับสึก"ในที่สุด
ขณะเดียวกันในส่วนของวัดพระธรรมกาย ที่เวลานี้ยังไม่อาจบังคับใช้ การบังคับบัญชาทางสงฆ์ได้เลย หลังจากก่อนหน้านี้คำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ซึ่งถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชากับเจ้าอาวาส หรือรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คือ พระราชภาวนาจารย์ หรือ พระทัตตชีโว ตาม พรบ. ปกครองสงฆ์ โดยคำสั่งดังกล่าวมีไปถึงรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา มีจำนวน 4 ข้อ สาระสำคัญคือ ห้ามพระเณรของวัดขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ให้แจ้งจำนวนพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกายว่ามีจำนวนเท่าใด และให้กลับเข้าไปในวัด ส่วนพระอื่นๆ ให้กลับวัดที่ตัวเองสังกัดทันที
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือว่า "เข้มงวด" เข้ามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับบรรดาคนใกล้ชิดและผู้สนับสนุน ธัมมชโย ขณะเดียวกันในทางปฏิบัติทางกฎหมายทั้งพระสงฆ์และฆราวาสที่เป็นพระในสังกัดวัดพระธรรมกาย และบรรดาสาวกต่างก็ถูกดำเนินคดีกันเป็นหลายวัน จำนวนหลายสิบคน มีทั้งหมายเรียก และหมายจับ
**หากพิจารณากันแบบให้เข้าใจง่ายแบบฆราวาสก็คือ เมื่อผู้บังคับบัญชาโดยตรงสั่ง แต่ผู้ใต้บังคับบัญชายังทำเฉยแบบหูทวนลม แถมไม่ยอมออกมาพบมาคุย มันก็ต้องบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนอยู่แล้ว ซึ่งในที่นี้อย่างแรกก็คือ "คำสั่งปลด" หรือ"เปลี่ยนแปลงเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย" เป็นคนใหม่ เข้าไปสะสางปัญหาภายใน สามารถทำได้ตามกฎหมายของสงฆ์ เชื่อว่าในเร็วๆ นี้จะต้องเกิดขึ้น
หากย้ำว่าที่ผ่านมา "ธัมมชโย" เดินเกมพลาดหรือคิดผิดที่เดินแบบนี้ "ดื้อแพ่ง" แบบนี้ เพราะเท่ากับท้าทายอำนาจรัฐ ท้าทายกฎหมายของบ้านเมือง ยิ่งในยุคที่คณะรักษาคสามสงบแห่งชาติเป็น"รัฏฐาธิปัตย์" ยังไม่อาจบังคับใช้กฎหมายอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่มันก็ส่งผลทางด้านการปกครองก็ต้องหาทางบังคับเอาจนได้ และถือว่ามีความชอบธรรมเพราะมีศาลยุติธรรมรองรับ ในทางตรงกันข้ามหากเขาเลือกเดินตามกระบวนการยุติธรรมเข้ามามอบตัวสู้คดีแล้วได้รับการประกันตัวไปตั้งแต่แรก ทุกอย่างก็เดินไปตามเส้นทางนานเป็นปีๆ ทุกอย่างก็ผ่อนคลาย วัดพระธรรมกาย ก็ไม่ถูกตรวจสอบอย่างที่เห็น
**ดังนั้นถ้าบอกว่า"กุนซือ"ใกล้ตัวเป็นคนวางแผนให้ทำแบบนี้ก็ผิด และยิ่งถ้าคิดด้วยตัวเอง ก็ยิ่งผิดพลาดไปกันใหญ่ เพราะถึงนาทีนี้มันไม่มีแล้ว "ชิ ตังเมโป้งรวย" แต่มันมีแต่ "ชิ ซังเต โป้ง เข้าคุก" ต่างหาก !!
กำลังโหลดความคิดเห็น