พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงความคืบหน้า ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนว่า จากการหารือเบื้องต้นถึงบทเฉพาะกาล 2 ปี จัดให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด จำนวน 12 คน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม, นายกสมาคมสมาพันธ์วิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ , นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย, นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์, ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์, ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ, ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค, ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย, เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเลขานุการคณะทำงาน ซึ่งมีหน้าที่ในการดำเนินการประชุม ไม่สามารถลงคะแนนเสียงได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะทำงานชุดดังกล่าว ทำหน้าที่ดำเนินการรับจดแจ้งขึ้นทะเบียนสื่อมวลชน และร่างข้อบังคับกฎระเบียบ ทำหน้าที่คล้ายสภาวิชาชีพไปพลางก่อน ยกเว้นหน้าที่การเพิกถอนใบอนุญาตเท่านั้น โดยมีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปี แต่จะไม่สามารถดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการสภาวิชาชีพฯได้ภายใน 2 ปีแรก เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน ส่วนกรรมการโดยตำแหน่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป สำหรับคณะกมธ.สื่อฯ จะร่วมเป็นคณะทำงานได้หรือไม่นั้น จะรับไปพิจารณาแต่โดยหลักการไม่ควรมีผลประโยชน์ทับซ้อน
ด้านพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ โฆษกกมธ.ฯ กล่าวเสริมถึงการสัดส่วนของตัวแทนสื่อที่อยู่ในคณะทำงาน รวมทั้งในสภาวิชาชีพฯ อยากให้ความสำคัญสื่อในส่วนภูมิภาค เพราะที่ผ่านมาเขาน้อยใจว่าไม่ได้รับการเหลียวแล และไม่ได้มีส่วนร่วม ดังนั้นจึงได้กำหนดในคณะทำงาน 1 คน และคิดว่าในคณะกรรมการสภาวิชาชีพควรจะมีตัวแทนสื่อภูมิภาค อย่างน้อย 2 คน ทั้งนี้ อยู่ที่คณะทำงานจะเป็นผู้กำหนดในรายละเอียด
ทั้งนี้ คณะทำงานชุดดังกล่าว ทำหน้าที่ดำเนินการรับจดแจ้งขึ้นทะเบียนสื่อมวลชน และร่างข้อบังคับกฎระเบียบ ทำหน้าที่คล้ายสภาวิชาชีพไปพลางก่อน ยกเว้นหน้าที่การเพิกถอนใบอนุญาตเท่านั้น โดยมีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปี แต่จะไม่สามารถดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการสภาวิชาชีพฯได้ภายใน 2 ปีแรก เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน ส่วนกรรมการโดยตำแหน่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป สำหรับคณะกมธ.สื่อฯ จะร่วมเป็นคณะทำงานได้หรือไม่นั้น จะรับไปพิจารณาแต่โดยหลักการไม่ควรมีผลประโยชน์ทับซ้อน
ด้านพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ โฆษกกมธ.ฯ กล่าวเสริมถึงการสัดส่วนของตัวแทนสื่อที่อยู่ในคณะทำงาน รวมทั้งในสภาวิชาชีพฯ อยากให้ความสำคัญสื่อในส่วนภูมิภาค เพราะที่ผ่านมาเขาน้อยใจว่าไม่ได้รับการเหลียวแล และไม่ได้มีส่วนร่วม ดังนั้นจึงได้กำหนดในคณะทำงาน 1 คน และคิดว่าในคณะกรรมการสภาวิชาชีพควรจะมีตัวแทนสื่อภูมิภาค อย่างน้อย 2 คน ทั้งนี้ อยู่ที่คณะทำงานจะเป็นผู้กำหนดในรายละเอียด