xs
xsm
sm
md
lg

มาตรการสงฆ์เข้ม "ธัมมชโย"กับพวกนับถอยหลัง"จับสึก"พ้นผ้าเหลือง !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ทางหน่วยงานของรัฐกำลังดำเนินการ 3 เรื่องพร้อมกัน คือ การบังคับใช้กฎหมาย การปกครองของสงฆ์ และ พระธรรมวินัย ผลการปฏิบัติที่ผ่านมา พบว่า มีหลักฐานที่จะใช้มาตรการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ขัดขวางการทำงาน ปลุกปั่น ยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย รวมทั้งมีประเด็นที่จะเสนอให้คณะสงฆ์ดำเนินมาตรการด้านการปกครองและด้านพระธรรมวินัยต่อไป
ด้านกฎหมาย ยังคงจะการควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวดต่อไป และปรับการปฏิบัติไปตามสถานการณ์ เช่น การที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้มีประกาศไม่ให้พระสงฆ์มาชุมนุมที่ตลาดกลางไปแล้ว และต้องให้มีการปฏิบัติที่เป็นไปตามประกาศ ส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกายอ้างเหตุพระธัมมชโยไม่อยู่ในวัด และขัดขวางการเข้าไปปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จึงมีข้อสังเกตว่าถ้าไม่อยู่ในวัดจริง จะขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในวัดทำไม และเหตุผลใดจึงต้องขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายไม่ให้เข้าไปในวัด ทราบว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการบันทึกข้อมูลผู้ขัดขวางการปฏิบัติงานทั้งที่เป็นพระและประชาชนทั่วไปไว้แล้ว คงจะต้องดำเนินการทั้งทางกฎหมายและธรรมวินัยต่อไป"
ได้มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการทำหน้าที่ของผู้รักษาการเจ้าอาวาสและพระสังฆาธิการของวัดพระธรรมกาย ได้ทำหน้าที่ตามกฎหมายคณะสงฆ์และกฎมหาเถรสมาคมแล้วหรือไม่ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีรายงานว่า ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าอาวาสเพื่อยุติการกระทำของพระสงฆ์และการใช้พื้นที่วัดขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
นอกจากนั้น พระสังฆาธิการระดับอื่นๆ ของวัดก็ไม่ได้ทำหน้าที่ในลักษณะดังกล่าวเช่นเดียวกัน จึงเป็นที่สงสัยของสังคมว่าการปกครองของคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายมีสภาพที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 พ.ศ. 2541 หมวด 4 จริยาของพระสังฆาธิการ ข้อ 44 ที่ว่าพระสังฆาธิการต้องเอื้อเฟื้อต่อกฎหมาย ข้อ 45 พระสังฆาธิการต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่สั่งโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือแม้แต่ข้อ 46 ที่ว่าพระสังฆาธิการต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังมิให้เกิดความเสียหายแก่การคณะสงฆ์และการพระศาสนา และห้ามมิให้ละทิ้งหน้าที่ในทางที่ไม่สมควร จึงมีคำถามว่าการปฏิบัติหน้าที่ชอบด้วยกฎมหาเถรสมาคมหรือไม่ ถ้าไม่ชอบด้วยกฎต้องแก้ไขอย่างไร เรื่องนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับไปพิจารณาแล้ว ซึ่งคงต้องหารือกับเจ้าคณะผู้ปกครองระดับสูงด้วย และขอเรียนว่ากฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 ถ้าถูกนำมาใช้ตามเจตนารมณ์จะช่วยคลี่คลายปัญหาที่กำลังเป็นอยู่ได้เป็นอย่างดี เพราะได้บัญญัติอำนาจหน้าที่ที่มาที่ไปของพระสังฆาธิการไว้ด้วยแล้ว
ด้าน พระธรรมวินัย ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานการกระทำที่อาจคาบเกี่ยวกับการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องอยู่เป็นประจำบ่อยครั้ง และเป็นการกระทำความผิดซ้ำๆ กันหลายครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลปรากฎอยู่เกี่ยวกับพฤติกรรมของพระสงฆ์หลายรูปรวมทั้งพระธัมมชโยด้วย ทราบมาว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำลังดำเนินการร่วมกับคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองระดับสูงต่อไป"
คำแถลงของ ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ โฆษกกระทรวงยุติธรรมดังกล่าว ถือว่าเห็นสัญญาณได้ชัดเจนว่าเวลานี้กำลังใช้มาตรการทั้งสามทาง คือ กฎหมาย การปกครองทางสงฆ์ และพระธรรมวินัย มาบังคับใช้กับ "ธัมมชโย" และพระสงฆ์ในวัดพระธรรมกาย ที่กำลังฝ่าฝืนกำหมายอยู่ในเวลานี้แบบเข้มงวดเข้ามาเรื่อยๆ
สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนก็คือ ก่อนหน้านี้คำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ซึ่งถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชากับเจ้าอาวาสหรือรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คือ พระราชภาวนาจารย์หรือ พระทัตตชีโว ตาม พรบ.ปกครองสงฆ์ โดยคำสั่งดังกล่าวมีไปถึงรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมามีจำนวน 4 ข้อ สาระสำคัญคือ ห้ามพระเณรของวัดขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ให้แจ้งจำนวนพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกายว่ามีจำนวนเท่าใด และให้กลับเข้าไปในวัด ส่วนพระอื่นๆให้กลับวัดที่ตัวเองสังกัดทันที
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ถือว่า"เข้มงวด"เข้ามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับบรรดาคนใกล้ชิดและผู้สนับสนุน ธัมมชโย ขณะเดียวกันในทางปฏิบัติทางกฎหมายทั้งพระสงฆ์และฆราวาสที่เป็นพระในสังกัดวัดพระธรรมกายและบรรดาสาวกต่างก็ถูกดำเนินคดีกันเป็นหลายวัน จำนวนหลายสิบคน มีทั้งหมายเรียกและหมายจับ
แน่นอนว่าเมื่อถูกดำเนินคดีก็ย่อมมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหว บางรูปเมื่อถูกออกหมายจับมีคดีติดตัวก็เริ่มหายหน้าไป เช่น พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ที่ก่อนหน้านี้มีบทบาทสำคัญในการแถลงตอบโต้กับฝ่ายทางการก็ถูกดำเนินคดีและถูกออกหมายจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าหากพบตัวก็จะจับกุมทันทีทำให้สองสามวันที่ผ่านมาไม่เห็นการออกมาแถลงเช่นทุกวัน
ที่ผ่านมาทางฝ่ายบรรดาผู้สนับสนุน ธัมมชโย และวัดพระธรรมกายต่างพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ยกเลิกมาตรา 44 ที่กำหนดพื้นที่วัดและพื้นที่
โดยรอบอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนและพระพุทธศาสนาทำให้พระเณรเดือดร้อน รวมไปถึงการอ้างสาเหตุทำให้มีคนตายถึงสองคน อย่างไรก็ดีก็ถูกตอบโต้ด้วยเหตุผลง่ายๆกลับไปว่า หากจะให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ตามมาตรา 44 ก็ต้องเปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นตามกฎหมาย หรือไม่ก็ให้ ธัมมโย ออกมามอบตัว คำถามก็คือมีเหตุผลอะไรถึงไม่ยอมให้ตรวจค้น มีอะไรซุกซ่อนอยู่หรือไม่
ล่าสุดต้องเจอกับคำถามเจ็บปวดจุกอกของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกที่เรียกร้องให้ ธัมมชโย "เลิกเสวยสุขบนความทุกข์ของคนอื่น"เสียที โดยยอมมอบตัวแล้วทุกอย่างก็จบ พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า ธัมมชโย ยังอยู่ภายในวัดไม่เช่นนั้นคงไม่มีการขัดขวางกันขนาดนี้ คำพูดดังกล่าวถือว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนได้ดีพอสมควร เหมือนกับทำลาย"ละคร"ของพวกสาวกของธรรมกายที่อ้างโน่นอ้างนี้เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 44 แต่มีคำตอบอยู่แล้วคือ หากธัมมชโยมอบตัว หรือยอมให้เข้าไปตรวจค้นทุกอย่างก็จบ และที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติก็ยืนยันแล้วว่าหากทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ไม่จำเป็นต้องคงไว้อีกต่อไป
ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากทั้งสองสามประการดังกล่าวข้างต้น คือ บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด การปกครองทางสงฆ์ และพระธรรมวินัย ประสานเข้าด้วยกันมันก็เริ่มเห็นภาพชัดเจนว่ากำลังต้อน "ธัมมชโย"และบรรดาสาวกเข้าสู่มุมอับมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือทั้งทางคดีและทางสงฆ์เห็นได้จากคำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีที่บังคับให้ปฏิบัติตามหากฝ่าฝืนก็มีการแย้มออกมาให้เห็นแล้วว่าจะต้องเจอกับมาตรการขั้นต่อไปก็คือการเสนอเรื่องจากสำนักพระพุทธศาสนาฯเข้าสู่วาระการประชุมของมหาเถรสมาคม แม้ว่าไม่อยากคาดเดา แต่เชื่อว่าน่าจะมีรายการ"จับสึก"พ้นผ้าเหลืองในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น