“ตำรวจ”หายไปไหน??
งานใหญ่ค้นรังเจ้าพ่อเงินกู้
ยังอารมณ์ค้างอยู่ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เลยสั่งการ “ฝ่ายกฎหมาย”ดูเทปการเสวนาหัวข้อ“ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร”ที่องค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จัดเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้ “ผบ.แป๊ะ”ไล่เช็คคำพูดวิทยากรแต่ละหน่อละเอียดยิบ ว่าใครพูดอะไรยังไง เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ เตรียมนำข้อมูลไปดำเนินคดีเรียงคนต่อไป ... แว่วว่าล็อกเป้าไปที่ สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นพิเศษ ... ใครสนใจไปหาย้อนฟังกันได้ บางช่วงบางตอน“วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ”จัดหนักจริงๆ แต่ก็ส่วนใหญ่ก็เรื่องเก่าๆ ที่คนทั่วไปวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่แล้ว ก็อยู่ที่คนฟังว่าจะเปิดใจนำไปแก้ไขปรับปรุง หรือคิดว่าทำให้“องค์กรตำรวจ”เสื่อมเสีย ก็ว่ากันไป
ช่วงนี้ใครๆ ก็ไม่อยากรู้จัก “ไซซะนะ”จนกลายเป็นมุกล้อเลียนยอดฮิตในโลกโซเชี่ยลฯ เวลานี้ เพราะอย่างที่บอก กรณีของไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อค้ายาเสพติดชาวลาว กลายเป็น“ไฟลามทุ่ง”ที่หลายวงการหนาวๆ ร้อนๆ ล่าสุด "น้าแอ๊ด" ยืนยง โอภากุล แห่งวงคาราบาว ก็ออกมาชี้แจงแล้วว่า ภาพที่ถ่ายร่วมกับ“ไซซะนะ”นั้นก็เป็นฝ่ายหลังที่มาขอชักภาพด้วย ที่สนามชนไก่ ในฐานะคนมีชื่อเสียงไม่ได้รู้เห็นว่าเป็น“เจ้าพ่อค้ายา”อะไรทั้งนั้น ส่วนพี่ตำรวจก็ไม่น้อยหน้า เมื่อปรากฏภาพถ่าย 3 นายตำรวจร่วมเฟรมกับ“อัลคาโปนลาว”จน “บิ๊กแป๊ะ”ต้องสั่งการให้ตรวจสอบเร่งด่วน ใครเชื่อมโยงกับเรื่องยาเสพติด ก็จะเชือดทันที เป็นมาตรฐานเดียวกับที่กำลังตรวจสอบ“ดารา - ลูกนักการเมือง –ไฮโซ” หลายคนอยู่ในตอนนี้ ...
++++++++++++
ตำรวจไทย มีไว้ทำไม?? คำถามนี้น่าเอาไปถามทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดูหน่อยนะ เมื่อวานงานใหญ่ ปิดเมืองอุทัยธานี ปูพรมค้นรังเครือข่าย "วิชัย ปั้นงาม" หัวหน้าแก๊งเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ และขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ นับสิบจุด โดยตามข่าวมี พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดี ดีเอสไอ เป็นหัวหน้าชุดตรวจค้น สนธิกำลังกับ“ทหาร”จากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.อุทัยธานี “ฝ่ายปกครอง”โดยปลัด จ.อุทัยธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แต่ไม่ยักกะชวน “ตำรวจ”ไปร่วมปฏิบัติการนี้ เลยอด“ได้หน้า”ไปกะเขาด้วย ... ดูเหมือนจะเป็นโมเดลในยุคคสช. ที่มัก “ตัดตอน”ตำรวจออกจากสารบบ เวลาจัดชุดปฏิบัติการพิเศษไปทำคดีใหญ่ๆ คล้ายกับว่าไม่ค่อยไว้ใจกันเท่าไร
ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก อายัดบ้าน ที่ดิน 10 จุด 118 แปลง เนื้อที่ 800 ไร่ มูลค่ารวม 400 ล้านบาท แค่นี้ก็ขึ้น “ข่าวหนึ่ง”สบายๆ เห็นว่าบ้านแต่ละหลังพี่ๆ คฤหาสน์ ราคาเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาท แล้วก็ไม่ได้มีหลังเดียวด้วย มีเป็นสิบๆ จุด ก็ไม่ทราบว่า ทรัพย์สินบานตะไทขนาดนี้ ทำไมมันไม่เคยไปทิ่มตาให้ “เจ้าหน้าที่บ้านเมือง”สงสัยอยากรู้ที่มาที่ไปกันบ้าง ... จึงไม่แปลกอะไร ที่ไม่กี่วันก่อน “ดีเอสไอ”ควง “ทหาร”ไปค้นบ้านพักย่านธัญบุรี จ.ปทุมธานี แล้วยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่าย “เสี่ยวิชัย”นอกจากทรัพย์สินจำนวนหนึ่งแล้ว ก็ยังมี “โพยส่วย”หลักฐานการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ “เจ้าหน้าที่รัฐ”ฉบับอัพเดตล่าสุดเสียด้วย
++++++++++++++
ต้องจับตาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนฯ ที่แม้จะมีอาณัติสัญญาณสั่ง“ไอ้เสือถอย”ให้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการสื่อสารมวลชน ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มี พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร เป็นประธาน ดึงร่าง พ.ร.บ.กลับมาทบทวน ตามประเด็นที่กมธ.วิสามัญกิจการสปท. (วิป สปท.) ให้ความเห็นไว้ เห็นว่านัดหมายถกกันวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ นี้ ส่วน“ถอยจริง-ถอยหลอก” ต้องรอติดตาม
ดูท่า กมธ.ชุดนี้จะให้ความสำคัญกับการ“จัดระเบียบสื่อ”เป็นพิเศษ ถึงขนาดบอกว่า ร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน และร่าง พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เป็น “เรื่องเร่งด่วนลำดับแรก”ที่เตรียมชงให้ คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานพิจารณา และเร่งด่วนกว่า ร่างกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ที่เป็นเรื่องความมั่นคงด้วยซ้ำ ... เหมือนจะบอกว่า “สื่อมวลชน”อันตรายกว่า“ภัยความมั่นคง”อย่างนั้นกระมัง.
งานใหญ่ค้นรังเจ้าพ่อเงินกู้
ยังอารมณ์ค้างอยู่ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เลยสั่งการ “ฝ่ายกฎหมาย”ดูเทปการเสวนาหัวข้อ“ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร”ที่องค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จัดเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้ “ผบ.แป๊ะ”ไล่เช็คคำพูดวิทยากรแต่ละหน่อละเอียดยิบ ว่าใครพูดอะไรยังไง เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ เตรียมนำข้อมูลไปดำเนินคดีเรียงคนต่อไป ... แว่วว่าล็อกเป้าไปที่ สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นพิเศษ ... ใครสนใจไปหาย้อนฟังกันได้ บางช่วงบางตอน“วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ”จัดหนักจริงๆ แต่ก็ส่วนใหญ่ก็เรื่องเก่าๆ ที่คนทั่วไปวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่แล้ว ก็อยู่ที่คนฟังว่าจะเปิดใจนำไปแก้ไขปรับปรุง หรือคิดว่าทำให้“องค์กรตำรวจ”เสื่อมเสีย ก็ว่ากันไป
ช่วงนี้ใครๆ ก็ไม่อยากรู้จัก “ไซซะนะ”จนกลายเป็นมุกล้อเลียนยอดฮิตในโลกโซเชี่ยลฯ เวลานี้ เพราะอย่างที่บอก กรณีของไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อค้ายาเสพติดชาวลาว กลายเป็น“ไฟลามทุ่ง”ที่หลายวงการหนาวๆ ร้อนๆ ล่าสุด "น้าแอ๊ด" ยืนยง โอภากุล แห่งวงคาราบาว ก็ออกมาชี้แจงแล้วว่า ภาพที่ถ่ายร่วมกับ“ไซซะนะ”นั้นก็เป็นฝ่ายหลังที่มาขอชักภาพด้วย ที่สนามชนไก่ ในฐานะคนมีชื่อเสียงไม่ได้รู้เห็นว่าเป็น“เจ้าพ่อค้ายา”อะไรทั้งนั้น ส่วนพี่ตำรวจก็ไม่น้อยหน้า เมื่อปรากฏภาพถ่าย 3 นายตำรวจร่วมเฟรมกับ“อัลคาโปนลาว”จน “บิ๊กแป๊ะ”ต้องสั่งการให้ตรวจสอบเร่งด่วน ใครเชื่อมโยงกับเรื่องยาเสพติด ก็จะเชือดทันที เป็นมาตรฐานเดียวกับที่กำลังตรวจสอบ“ดารา - ลูกนักการเมือง –ไฮโซ” หลายคนอยู่ในตอนนี้ ...
++++++++++++
ตำรวจไทย มีไว้ทำไม?? คำถามนี้น่าเอาไปถามทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดูหน่อยนะ เมื่อวานงานใหญ่ ปิดเมืองอุทัยธานี ปูพรมค้นรังเครือข่าย "วิชัย ปั้นงาม" หัวหน้าแก๊งเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ และขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ นับสิบจุด โดยตามข่าวมี พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดี ดีเอสไอ เป็นหัวหน้าชุดตรวจค้น สนธิกำลังกับ“ทหาร”จากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.อุทัยธานี “ฝ่ายปกครอง”โดยปลัด จ.อุทัยธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แต่ไม่ยักกะชวน “ตำรวจ”ไปร่วมปฏิบัติการนี้ เลยอด“ได้หน้า”ไปกะเขาด้วย ... ดูเหมือนจะเป็นโมเดลในยุคคสช. ที่มัก “ตัดตอน”ตำรวจออกจากสารบบ เวลาจัดชุดปฏิบัติการพิเศษไปทำคดีใหญ่ๆ คล้ายกับว่าไม่ค่อยไว้ใจกันเท่าไร
ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก อายัดบ้าน ที่ดิน 10 จุด 118 แปลง เนื้อที่ 800 ไร่ มูลค่ารวม 400 ล้านบาท แค่นี้ก็ขึ้น “ข่าวหนึ่ง”สบายๆ เห็นว่าบ้านแต่ละหลังพี่ๆ คฤหาสน์ ราคาเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาท แล้วก็ไม่ได้มีหลังเดียวด้วย มีเป็นสิบๆ จุด ก็ไม่ทราบว่า ทรัพย์สินบานตะไทขนาดนี้ ทำไมมันไม่เคยไปทิ่มตาให้ “เจ้าหน้าที่บ้านเมือง”สงสัยอยากรู้ที่มาที่ไปกันบ้าง ... จึงไม่แปลกอะไร ที่ไม่กี่วันก่อน “ดีเอสไอ”ควง “ทหาร”ไปค้นบ้านพักย่านธัญบุรี จ.ปทุมธานี แล้วยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่าย “เสี่ยวิชัย”นอกจากทรัพย์สินจำนวนหนึ่งแล้ว ก็ยังมี “โพยส่วย”หลักฐานการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ “เจ้าหน้าที่รัฐ”ฉบับอัพเดตล่าสุดเสียด้วย
++++++++++++++
ต้องจับตาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนฯ ที่แม้จะมีอาณัติสัญญาณสั่ง“ไอ้เสือถอย”ให้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการสื่อสารมวลชน ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มี พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร เป็นประธาน ดึงร่าง พ.ร.บ.กลับมาทบทวน ตามประเด็นที่กมธ.วิสามัญกิจการสปท. (วิป สปท.) ให้ความเห็นไว้ เห็นว่านัดหมายถกกันวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ นี้ ส่วน“ถอยจริง-ถอยหลอก” ต้องรอติดตาม
ดูท่า กมธ.ชุดนี้จะให้ความสำคัญกับการ“จัดระเบียบสื่อ”เป็นพิเศษ ถึงขนาดบอกว่า ร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน และร่าง พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เป็น “เรื่องเร่งด่วนลำดับแรก”ที่เตรียมชงให้ คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานพิจารณา และเร่งด่วนกว่า ร่างกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ที่เป็นเรื่องความมั่นคงด้วยซ้ำ ... เหมือนจะบอกว่า “สื่อมวลชน”อันตรายกว่า“ภัยความมั่นคง”อย่างนั้นกระมัง.