xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ถามตรง “วิษณุ เครืองาม”เคยฝากตำรวจไหม !!?? แนะให้ใช้ระบบอาวุโส 100 % แต่ต้องมีผลงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - อาจเป็นเพราะกระแสเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจดังกระหึ่มมากขึ้นจนไปเข้าหูผู้มีอำนาจในบ้านเมือง วันก่อนจึงมีข่าวว่าที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.หยิบปัญหาใน สตช.มาถกกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียดก่อนได้ข้อสรุปว่าการปฏิรูปตำรวจฉบับ “คืนความสุข”ให้ตำรวจแต่ละสายงานแยกกันโต ซึ่งน่าจะหมายถึงสายสอบสวน สายสืบสวน สายป้องกันปราบปราม และสายการจราจร ให้เก่งเฉพาะทางแล้วสนับสนุนให้ก้าวหน้าตามความเหมาะสม

ประการต่อมาคือให้เพิ่มอำนาจตำรวจระดับ ผบช. และลดอำนาจ ผบ.ตร.-ให้ต้นสังกัดพิจารณาข้อขัดข้อง/ไม่ขัดข้อง ในการแต่งตั้งโยกย้าย - ไม่แยกงานสอบสวนออกจากตำรวจ - มีการตำหนิ “บิ๊กตำรวจ”บางคนถึงความเป็นผู้นำที่ไม่โดดเด่น

หัวข้อการประชุมของ คสช. ในประเด็นต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นดูเหมือนว่านักข่าว และตำรวจจำนวนไม่น้อยที่สนใจติดตามการปฏิรูปตำรวจจะทราบก่อน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงด้วยซ้ำ

และเมื่อพินิจ-พิเคราะห์แนวทางการปฏิรูปตำรวจตาม “ธง”ของ คสช.ที่ระบุไว้3-4 ข้อและเน้นให้ป้องกันการซื้อ-ขายตำแหน่ง โฉมหน้าของตำรวจไทยภายหลังรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปออกมาแล้วคาดเดาได้เลยว่าวงจรอุบาทว์ หรือวังวนเดิมๆยังคงฝังตัวอยู่องค์กรตำรวจต่อไป
        
       หัวใจของการปฏิรูปตำรวจที่แท้จริงคือการแยกอำนาจการสอบสวนแต่ผู้ปกครองประเทศ หรือ คสช. “หักดิบ”โดยยืนยันว่าจะไม่แยกงานสอบสวนออกจากตำรวจ นั่นหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆในองค์กรนี้แท้จริงก็แค่การปรับเปลี่ยนงานบริหาร หรือถ้าใช้คำหนักๆก็คือปะผุ พ่นสีจากซากรถแทบใช้การอะไรไม่ได้ให้มันใหม่ขึ้น ดูน่าใช้มากขึ้นแต่ไม่สามารถการันตีได้ว่าสักวันอาจจะล้อหลุด เบรกแตกพาผู้โดยสารตกเหวกันเมื่อไหร่ก็เป็นได้

แต่เอาเถอะ...ถือว่าความพยายามสะท้อนภาพ-ปัญหา รวมทั้งความเน่าเหม็นขององค์กรตำรวจได้ “เข้าหู”ผู้ปกครองประเทศในระดับหนึ่งแล้ว และเชื่อว่าบรรดา “บิ๊กตำรวจ”หลายคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็คงเกรงกลัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้า คสช.อยู่บ้างพอสมควร...

เหตุผลก็คือนายกฯลุงตู่ ไม่ได้วางตัวแบบเรื่อยเปื่อย ใครจะเข้าพบ หรือเข้ามากระลิ้มกระเหลี่ยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ การวางตัวด้วยความระมัดระวังจึงถือเป็นจุดแข็งของท่านผู้นำ และสร้างความหวาดระแวงให้กับบรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แร่ด เพราะไม่สามารถล่วงรู้ว่าผู้มีอำนาจตัวจริงคิดอะไร...รวมทั้งในอนาคตอันใกล้อาจตัดสินใจแบบฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้างก็ย่อมเกิดขึ้นได้

คราวนี้ลองมาดูต่อไปว่า กฎ กติกา ของการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจที่สามารถป้องกันการซื้อ-ขายตำแหน่งได้จะมีหน้าตาอย่างไร.....และก่อนจะเขียนวิจารณ์กันต่อไปนั้น ต้องกราบของประทานโทษ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แบบงามๆหลายๆ ครั้ง..ขอถามว่าท่านรู้จักกำพืดของตำรวจดีขนาดไหน..คำว่าตำรวจน้ำดี กับตำรวจเลว ท่านมีมาตรฐานวัดอย่างไร และสุดท้ายถามอย่างตรงไปตรงมาว่า ในชีวิตของท่าน...ท่านเคยฝากตำรวจให้มีโอกาสเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง บ้างไหม...ถ้าเคย หรือไม่เคย ก็คงไม่เป็นไรเพราะสังคมไทยรู้ๆกันอยู่ว่าเป็นสังคมอุปถัมภ์

เพียงแต่ว่าเมื่อใครก็ตามมาทำหน้าที่นี้ก็จำเป็นต้องถอดคราบความเป็น “นักสงเคราะห์” หรือผู้ใหญ่ใจอารีย์มีเมตตา เพราะตำแหน่งแห่งหนและการเติบโตของข้าราชการทุกสังกัด หรือรวมทั้งข้าราชการตำรวจ จะต้องมาจากความรู้ ความสามารถ และความสุจริต
          
    อย่ามาพูดถึงความเหมาะสม เพราะ”เนื้อแท้”ของความเหมาะสมก็คือหลัก “ครอบจักรวาล” เป็นแค่ลูกไม้ตื้นๆ ถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไม่มีเส้น ไม่มีความสามารถ “ดูแล”หรือสร้างความพึงพอใจให้แก่บรรดาเจ้านายทั้งหลาย.....ถ้าพูดอย่างไม่อ้อมค้อมก็คือการปล้นกันอย่างหน้าด้านๆ

ถ้าเป็นไปได้หลักของการแต่งตั้ง-โยกย้ายข้าราชการตำรวจควรยกเลิกการกำหนดโควตา 33 % มาจากอาวุโส และ 67 % มาจากความรู้ ความสามารถและความเหมาะสม...ยกเลิกเพราะกติกานี้พวก 33 % ก็โดนดูถูกหาว่าเป็นพวกแก่กินข้าว ส่วนพวก 67 % เจอข้อหาเด็กมีปลอกคอ มีตั๋ว มีตังค์ บางคนซื้อตำแหน่งเข้ามาคดโกง

ออกกติกาใหม่ให้ยึดอาวุโส 100 % แต่ป้องกันพวกแก่กินข้าว - เฒ่าอยู่นาน คือต้องบวกผลงาน ความรู้ และความซื่อสัตย์ต่อตูดความอาวุโสไปด้วย ผลงานต่างๆให้ระดับโรงพัก เป็นผู้ประเมิน ต่อด้วยระดับกองบังคับการ และกองบัญชาการ...แม้จะยุ่งยากไปหน่อยแต่ความโปร่งใส-ยุติธรรม มีมากกว่าระบบเดิมๆอย่างแน่นอนเพราะหากยังไม่ผ่าตัด หรือปฏิวัติระบบการแต่งตั้ง-โยกย้ายตำรวจ อย่างจริงจังก็อย่าหวังว่าจะมีตำรวจดีๆ ตำรวจที่ตั้งใจทำงานออกมาสัมผัสใกล้ชิดกับชาวบ้าน

วันนี้สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนก็คือตำรวจมีปัญหากับชาวบ้าน....ตำรวจขอค้นตัวแต่ชาวบ้านขอค้นตำรวจก่อนเพราะกลัวจะเอาอะไรมายัด!!?? เปิดดูคลิปในโลกออนไลน์ก็เห็นมีแต่ชาวบ้านไล่ถ่ายตำรวจตั้งด่านไถ ...ถ่ายกันไปถ่ายกันมาบรรยากาศแบบเดิมๆหายไปหมดแล้ว มีแต่ความกลียดชัง มีแต่ความหวาดกลัวไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน

เมื่อฝ่ายตำรวจ หรือคนรักตำรวจออกมาโวยวายว่าตำรวจดีๆมีอยู่เยอะทำไมไม่พูดถึงแต่พอถูกย้อนว่า ตำรวจดีอยู่ที่ไหนล่ะทำไมที่พวกเขาออกไปเจอจึงมีแต่ตำรวจแย่ๆ ข่มขู่ รีดไถ และสารพัดปัญหาที่จะเกิดขึ้น....คำตอบก็คือเพราะตำรวจที่ออกมาทำหน้าที่ ออกมาดูแล-รักษากติกาสังคมส่วนใหญ่เป็นตำรวจที่มาจากระบบวิ่งเต้นไง พวกเขาจึงไม่สนใจประชาชนไปมากกว่าบรรดา “เจ้านาย”ที่สามารถให้คุณให้โทษกับพวกเขาได้
            
    เมื่อผู้ปกครองประเทศ ไม่ยอม “ตัดหนวดแมว” คือแยกอำนาจสอบสวนออกจากตำรวจ และเชื่อว่าการเลือกเฟ้น “คนดี”มาทำหน้าที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ก็จงเดินหน้าอย่างเข้มข้น สร้างกำแพงขวางคนชั่ว หรือต้องเอาตะแกรงเพื่อร่อนหาคนดีๆมาทำงาน ทำกันถึงขนาดนั้นก็ต้องทำเพราะประชาชน หรือสังคมไทยไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น