หลังจาก นพ.สุเทพ เพชรมาก รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวระหว่างการประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 15 เมื่อวันที่ 27-29 ก.ค. 59 ว่าหลังการทำประชามติเสร็จสิ้น จะเร่งผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ให้เร่งเข้าสู่ สนช. และให้มีผลบังคับใช้ภายใน 6 เดือน นั้น
ตัวแทนเครือข่ายชาวไร่ยาสูบภาคอีสาน 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม นครพนม กาฬสินธุ์ สกลนคร และตัวแทนจากสมาคมชาวไร่ยาสูบจาก 6 จังหวัดภาคเหนือ ประกาศจุดยืนไม่รับ ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับสุดโต่ง ดังกล่าว เพราะจะสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาสูบทั้งปลายน้ำ และต้นน้ำ ชี้หลายมาตราจะทำให้เกิดปัญหาบุหรี่เถื่อนบุหรี่ปลอม กระทบกับอาชีพชาวไร่ และปริมาณการรับซื้อใบยา รวมถึงราคาใบยา
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้มีมาตรการสุดโต่งหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น บทนิยามเรื่อง“ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง”ในอุตสาหกรรม ซึ่งมีความหมายกว้างมากซึ่งครอบคลุมถึงกลุ่มเครือข่ายชาวไร่ของพี่น้องภาคอีสาน สมาคมชาวไร่ยาสูบภาคเหนือ สมาคมการค้าต่างๆ อีกทั้งยังมีเรื่องข้อจำกัดในเรื่องการให้ และการรับ การสนับสนุนจากอุตสาหกรรมยาสูบ ซึ่งจะกระทบต่อกิจกรรมของโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง
นายสัน หารสุโพธิ์ ประธานเครือข่ายชาวไร่ยาสูบภาคอีสานกล่าวว่า หลังลงคะแนนเสียงประชามติ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุไว้ว่าจะช่วยเหลือดูแลพี่น้องภาคอีสานและเหนือต่อไป เพราะเห็นความยากลำบากของเรา ทั้งในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆ เครือข่ายได้ติดตามความเคลื่อนไหว และร่วมต่อสู้ให้ภาครัฐรับฟังเสียงชาวไร่ในเรื่องกฎหมาย ข้อห้าม ที่จะมาควบคุมอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของเรา เราไม่รับร่างกฎหมายสุดโต่งฉบับนี้ จึงขอวิงวอนให้นายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือพวกเราในเรื่องนี้ด้วย
นายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้เพาะปลูก ผู้บ่มและผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดเชียงใหม่ และผู้นำภาคียาสูบ กล่าวเสริมว่า สธ.และเอ็นจีโอ กำลังเพิกเฉยชาวไร่ยาสูบไทยกว่า 40,000 ครัวเรือน ที่ยึดอาชีพนี้มาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังมีกลุ่มคนที่พึ่งพิงอุตสาหกรรมตั้งแต่ ต้นน้ำ-ปลายน้ำ อีกหลายแสนครัวเรือน ชาวไร่ใน 6 จังหวัดภาคเหนือส่งขายใบยาสูบให้กับโรงงานยาสูบถีง ร้อยละ 95 ของผลผลิตทั้งหมด มาตรการต่างๆ ใน ร่าง พ.ร.บ. นี้เป็นการมุ่งเน้นลงโทษอุตสาหกรรม และมีความไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ควบคุมด้านสุขภาพ ตัวอย่างเรื่อง ซองบุหรี่แบบเรียบ ก็ยิ่งทำให้ซองปลอมง่าย ยิ่งซ้ำเติมปัญหาบุหรี่เถื่อน / ปลอมที่ระบาดไปทั่วอยู่แล้ว ภาคียาสูบ ขอเรียกร้องให้สาธารณสุข ดำเนินการแก้ไขมาตรการต่างๆ ที่ยังคงเป็นปัญหา และมีข้อขัดแย้งอยู่นี้ให้เรียบร้อยก่อนจะดำเนินการใดๆ
ตัวแทนเครือข่ายชาวไร่ยาสูบภาคอีสาน 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม นครพนม กาฬสินธุ์ สกลนคร และตัวแทนจากสมาคมชาวไร่ยาสูบจาก 6 จังหวัดภาคเหนือ ประกาศจุดยืนไม่รับ ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับสุดโต่ง ดังกล่าว เพราะจะสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาสูบทั้งปลายน้ำ และต้นน้ำ ชี้หลายมาตราจะทำให้เกิดปัญหาบุหรี่เถื่อนบุหรี่ปลอม กระทบกับอาชีพชาวไร่ และปริมาณการรับซื้อใบยา รวมถึงราคาใบยา
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้มีมาตรการสุดโต่งหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น บทนิยามเรื่อง“ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง”ในอุตสาหกรรม ซึ่งมีความหมายกว้างมากซึ่งครอบคลุมถึงกลุ่มเครือข่ายชาวไร่ของพี่น้องภาคอีสาน สมาคมชาวไร่ยาสูบภาคเหนือ สมาคมการค้าต่างๆ อีกทั้งยังมีเรื่องข้อจำกัดในเรื่องการให้ และการรับ การสนับสนุนจากอุตสาหกรรมยาสูบ ซึ่งจะกระทบต่อกิจกรรมของโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง
นายสัน หารสุโพธิ์ ประธานเครือข่ายชาวไร่ยาสูบภาคอีสานกล่าวว่า หลังลงคะแนนเสียงประชามติ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุไว้ว่าจะช่วยเหลือดูแลพี่น้องภาคอีสานและเหนือต่อไป เพราะเห็นความยากลำบากของเรา ทั้งในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆ เครือข่ายได้ติดตามความเคลื่อนไหว และร่วมต่อสู้ให้ภาครัฐรับฟังเสียงชาวไร่ในเรื่องกฎหมาย ข้อห้าม ที่จะมาควบคุมอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของเรา เราไม่รับร่างกฎหมายสุดโต่งฉบับนี้ จึงขอวิงวอนให้นายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือพวกเราในเรื่องนี้ด้วย
นายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้เพาะปลูก ผู้บ่มและผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดเชียงใหม่ และผู้นำภาคียาสูบ กล่าวเสริมว่า สธ.และเอ็นจีโอ กำลังเพิกเฉยชาวไร่ยาสูบไทยกว่า 40,000 ครัวเรือน ที่ยึดอาชีพนี้มาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังมีกลุ่มคนที่พึ่งพิงอุตสาหกรรมตั้งแต่ ต้นน้ำ-ปลายน้ำ อีกหลายแสนครัวเรือน ชาวไร่ใน 6 จังหวัดภาคเหนือส่งขายใบยาสูบให้กับโรงงานยาสูบถีง ร้อยละ 95 ของผลผลิตทั้งหมด มาตรการต่างๆ ใน ร่าง พ.ร.บ. นี้เป็นการมุ่งเน้นลงโทษอุตสาหกรรม และมีความไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ควบคุมด้านสุขภาพ ตัวอย่างเรื่อง ซองบุหรี่แบบเรียบ ก็ยิ่งทำให้ซองปลอมง่าย ยิ่งซ้ำเติมปัญหาบุหรี่เถื่อน / ปลอมที่ระบาดไปทั่วอยู่แล้ว ภาคียาสูบ ขอเรียกร้องให้สาธารณสุข ดำเนินการแก้ไขมาตรการต่างๆ ที่ยังคงเป็นปัญหา และมีข้อขัดแย้งอยู่นี้ให้เรียบร้อยก่อนจะดำเนินการใดๆ