xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 โชว์ออฟ เอ๊ยย.. โชว์ผลงานเต็มที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ช่วงนี้รับหน้าเสื่อควบคุมการลงประชามติ 7 ส.ค.นี้ เห็นหน้าค่าตาออกสื่อไม้เว้นวัน จนคนพาลนึกไปว่า กกต.ชุดนี้มี “สมชัย” ทำงานอยู่คนเดียว แต่หลังๆ ดูผิดฟอร์มไปนิด ไม่บู๊ล้างผลาญเหมือนช่วง พ.ร.บ.ประชามติฯ ออกมาใหม่ๆ ที่ “กกต.สมชัย” ถึงกับไปขึ้นโรงพักแจ้งความจับคนทำผิดด้วยตัวเอง ช่วงนี้ดูท่าจะปรับโหมดเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ พอสมควร … ไม่รู้คิดได้เอง รึโดนใครด่ามา
00 ดูอย่างแถลงการณ์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 7 ข้อ ของ “ขบวนการประชาธิปไตยใหม่” ห้อยท้ายปลายเอกสารเป็นคำถามว่า “7 สิงหาฯจะเลือก คสช. ต่อไปหรือเลือกประชาธิปไตยกันแน่” ตัว “สมชัย” ก็โพสต์เฟซบุ๊ก มีความเห็น “ส่วนตัว” ว่า ใครเผยแพร่ระวังจะผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่เห็นทำอะไร ช่วงนี้พี่แกขอทำหน้าที่ “โปรโมเตอร์” จัดดีเบตฝ่ายหนุน-ฝ่ายต้าน ออกทีวีในช่วงโค้งสุดท้าย พร้อมสวมบท “เจ้าบุญทุ่ม” จัดงบฯ 10 ล้าน ซื้อเนื้อที่โฆษณาตีพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ในหนังสือพิมพ์รายวันฉบับภาษาไทยอีกต่างหาก
00 ซุบซิบกันให้แซ่ดสำนักงาน กกต.ว่า จุดหมายปลายทางของ “สมชัย” ไม่ได้แค่จัดประชามติให้เรียบร้อย แต่ต้องทำให้ดี หวังช็อตต่อไป ฝันไกลถึงเก้าอี้ “ประธาน กกต.” ที่วันนี้มีรายการทวง “สัญญาใจ” ภายใน “5 เสือ” ว่า ตลอดวาระ 7 ปี จะสลับกันนั่ง “หัวโต๊ะ” คนละปีสองปี แต่หลังแต่งตั้งกันปลายปี 2556 ก็วุ่นมาเรื่อย ศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.เลยตีมึนนั่งแช่ พอเริ่มขยับมีงานทำ ก็เลยเกิดแรงกระเพื่อมในหมู่ “4 เสือ” ที่เหลือ และว่ากันว่า คนที่เขย่าแรงสุดก็ “กกต.สมชัย” คนดังนี่แหละ
00 เห็นว่าฝ่ายทวงก็ทวงไปเรื่อย แต่ก็ติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ที่มองว่าหาก “ศุภชัย” ยอมลาออกจากประธาน กกต. เปิดให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน ก็อาจจะทำให้ “ศุภชัย” เองพ้นจากตำแหน่งไปเลย เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า กกต.ประกอบด้วย 1 ประธาน กับ 4 กรรมการ “กูรูกฎหมาย” บรีฟให้ฟัง หากตีความตามตัวอักษรแล้ว ไม่มีบทบัญญัติไหนพูดถึงการลาออกจากตำแหน่งประธาน แต่ถ้าลาออกจาก กกต. นั่นทำได้ ขืนลาออกไปก็เสี่ยง “ตกงาน” นั่นซิ..
00 รู้กันดีว่าอำนาจ กกต.ใหญ่คับประเทศแค่ไหน คนแค่ 5 คน กุมชะตาชีวิต “นักการเมือง-นักเลือกตั้ง” เป็นพันเป็นหมื่นคน ยิ่งถ้าเข้าโหมดเลือกตั้งนะพ่อคุณเอ๋ยยย... ไม่อยากจะนึกภาพ อำนาจก็ส่วนหนึ่ง ผลประโยชน์ก็อีกส่วนหนึ่ง เอาง่ายๆ เลือกตั้งที มีงบฯมากองให้ใช้จ่ายแล้ว 3-4 พันล้าน ประชามติรอบนี้ ก็ 3 พันล้าน แถมไม่พอมีขอเบิกเพิ่มเติมอีกด้วย หรือที่ผ่านมา ขนาดไม่มีงานทำเกือบ 2 ปี ก็ยังใช้งบฯไปดูงานต่างประเทศกันชื่นมื่น ภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการ กกต. ที่ถูกอัปเปหิไปเมื่อปลายปีก่อน รู้ดี
00 แต่งบฯ ก้อนโตที่มองกันตาเป็นมันตอนนี้ ก็เจ้า “เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์” ที่เตรียมนำมาทดลองใช้ในการทำประชามติ 7 ส.ค.นี้ เป็นครั้งแรกใน 5 หน่วยเลือกตั้ง จากที่ กกต.มีครอบครองอยู่ 5 เครื่อง ถ้าผลออกมาดี ไม่มีปัญหา เล็งๆ ว่าจะจัดซื้อราว 100 เครื่อง มาใช้ในการเลือกตั้งจริงที่น่าจะมีขึ้นในปี 2560 และซื้อเพิ่มประมาณ 2 พันเครื่อง ก่อนที่กกต.ชุดนี้จะหมดวาระ ในปี 2563 ตั้งธง “ของดียี่ห้อนอก” เมินยี่ห้อ “ไทยประดิษฐ์” ทั้งที่กลไกไม่ได้ซับซ้อน ให้เด็กเทคนิค-มหาวิทยาลัยที่ไหนลองทำดูได้ ก็กลัวจะได้ “ของดีราคาถูก” ล่ะมั้ง
00 แว่วว่าล็อคกันไว้แล้วว่า ต้องเป็นเครื่องสัญชาติ “โปรตุเกส” ที่เผอิญ “กกต.ท่านหนึ่ง” ได้ไปพบผู้ผลิต จากการดูงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนบินตามกันไปถึงประเทศโปรตุเกส เพื่อดูฐานการผลิต ถูกอกถูกใจชนิด “เซย์เยส” กันไปล่วงหน้าแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้ตั้งงบฯไว้ แต่ตอนนี้ก็ร่างโครงการไว้เป็นที่เรียบร้อย รอแค่จังหวะงามๆ เท่านั้น เครื่องนึงก็ จิ๊บๆ 2 แสนบาทเศษ ทั่วประเทศมี 9.5 หมื่นหน่วยเลือกตั้ง ใช้หน่วยละเครื่อง คูณคร่าวๆ อื้อหือ!!เหยียบ 2 หมื่นล้านบาทนะคะคู๊ณณณณ … ค่าคอมฯ เท่าไรเนี่ย ??.
กำลังโหลดความคิดเห็น