ผู้จัดการรายวัน360- ฝนถล่มกรุง ตกหนัก 2 เท่าในรอบ 25 ปี ผู้ว่าฯกทม.เตือนจะเกิดขึ้นอีกหลายวัน ร้องของบ!สร้างอุโมงค์ระบายน้ำช่วย "บิ๊กตู่"เผยแก้น้ำท่วมกทม. ต้องยกเครื่องระบบระบายน้ำทั้งหมด ชี้หากโยกงบแก้ปัญหาอาจกระทบส่วนอื่น ขอเห็นใจรัฐบาลแก้ปัญหาหลายอย่าง "อนุพงษ์" สั่งจนท.เร่งระบาย ระบุเป็นพื้นที่ต่ำ ต้องใช้เวลาระบายน้ำ ขอให้พูดกันอย่างสร้างสรรค์ เจ้าหน้าที่จะได้มีกำลังใจ
วานนี้(21 มิ.ย.) การจราจรในกรุงเทพมหานคร(กทม.)วิกฤตอย่างหนัก หลังจากได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดคืนที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ของกทม.-ปริมณฑล ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ การจรจรติดขัดอย่างมาก อย่างเช่น ถนนวิภาวดี ถนนรัชดาขาเข้า แยกรัชลาด -หน้าโอลิมเปียทั้งสองจุด ความสูงเสมอทางเท้า ซอยสุขุมวิท 39 สูงเสมอทางเท้า ยาว 200 เมตร ถ.ทางรถไฟสายเก่าหน้าคลัง ปตท. สูง 50 เซนติเมตร ยาว 70 เมตร ซอย อ.ส.ม.ท. สูง 30 เซนติเมตร รถเล็กผ่านไม่ได้ การจรจรบริเวณถนนลาดพร้าวช่วงเช้า ติดขัดหนาแน่น โดยพบว่าช่วงปากซอยลาดพร้าว 87 มีน้ำขังประมาณ 10 ซม. และรถยนต์ชะลอตัว ขณะที่พบว่า การระบายน้ำที่ไม่ทัน ได้ส่งผลให้เกิดการไหลเอ่อท่วมเข้าถนนหมู่บ้านเลิศอุบล ส่วนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านมณียา ต้องรับชะตากรรมน้ำไหลเข้าท่วมอย่างไม่ทันรู้ตัว เป็นต้น
**'ชายหมู'ชี้ฝนตกหนัก2เท่ารอบ25 ปี
เมื่อเวลา 15.00 น.ของวานนี้ (21 มิ.ย.) ที่สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมประเมินสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากในช่วงเช้า ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมขังบริเวณถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญา
โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ฝนตกที่เกิดขึ้น ตกอย่างหนักต่อเนื่อง โดยภายใน 24ชั่วโมงที่ผ่านมาเพียงวันเดียวเกิดฝนตกปริมาณฝนรวมกว่า 200 มิลลิเมตร ซึ่งเทียบกับปริมาณฝนตกที่ตกทั้งปี ซึ่งจะมีฝนเฉลี่ย 1,500-1,800 มิลลิเมตร จึงถือว่าฝนที่ตกลงมาครั้งนี้หนักมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ กทม.ได้ประเมินสถานการณ์ จะเกิดฝนตกอย่างหนักในรูปแบบดังกล่าวในอีกหลายวัน ซึ่งกทม.ได้ทำการเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยให้เพิ่มจำนวนบุคลากร และเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ประจำจุดต่างๆ โดยเฉพาะเส้นทางบนถนนสายหลัก ที่จะต้องมีการบริหารจัดการให้สามารถสัญจรได้อย่างสะดวกมากที่สุด
สำหรับการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในระยะยาว ขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองบางซื่อ ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเม.ย.ปี 60 โดยเมื่อเปิดใช้งาน จะช่วยในการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำทาวมขังที่เกิดขึ้นบนถนนรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวีรังสิต และพื้นที่โดยรอบได้ อีกทั้งกทม.ยังมีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำเพิ่มเติมอื่นๆ คืออุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน และอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากร ซึ่งจะช่วยในการแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบถาวรได้ แต่การสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ และพัฒนาระบบระบายน้ำรูปแบบอื่นๆนั้น ต้องใช้งบประมาณและเวลาจำนวนมาก ในขณะนี้กทม.จึงต้องวางแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อลดผลกระทบแก้ประชาชน โดยในพื้นที่จุดเสี่ยงต่างๆ กทม.ได้เพิ่มจำนวนเครื่องสูบน้ำมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งการระบายน้ำโดยเร็วที่สุด
" ต้องขอโทษประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ปัญหาเช่นนี้ก็จะเกิดขึ้นซ้ำอีก เพราะกรุงเทพฯเป็นเมืองน้ำ เมืองฝน จะต้องมีน้ำรอการระบาย ซึ่งเราไม่สามารถบังคับน้ำได้ น้ำต้องไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ถ้าไม่มีที่ต่ำกว่า น้ำก็จะไปไม่ได้"
****'บิ๊กตู่'จ่อยกเครื่องระบบระบายน้ำทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวภายหลังการประชุม ครม. กรณี ประชาชนกังวลว่า กทม.จะรับมือกับภาวะฝนตกหนักในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ จะทำให้เกิดเหตุน้ำท่วม เหมือนปี 2554 หรือไม่ว่า ตนเคยบอกแล้วว่าต้องแก้ไขทั้งระบบ เพราะระบบระบายของเรามีปัญหามาตลอด การสร้างอุโมงค์น้ำขนาดใหญ่ ก็ไม่สามารถทำได้ ส่วนอุโมงค์ใหม่ของกทม.ก็ยังทำไม่เสร็จ เพราะติดปัญหาหลายประการ ที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปมาก เรื่องงบประมาณ หลายเรื่องรัฐบาลต้องนำเงินมาอุดเนินเพิ่มเติมให้กทม.ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งก็แก้ได้เป็นชิ้นๆ มาตลอด แต่งบก็ไม่พอ คราวนี้ปัญหาของเราจะทำอย่างไร ก็ต้องหาเงินมาทำส่วนนี้อีก พอมีผลกระทบว่าถ้าเอาเงินมาใช้มาก เงินส่วนอื่นก็ต้องลดลงกลายเป็นปัญหาต่อเนื่อง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า มีการดำเนินการร่วมกันระหว่าง กทม. เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทุกฝ่ายดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบก (ทบ.)ได้จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือที่มีน้ำท่วมขังจำนวน 36 จุด เนื่องจากมีฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันน้ำลดระดับสู่ภาวะปกติแล้ว จำนวน 25 จุด คงเหลือเพียง 11 จุด จึงต้องให้กำลังพลจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ( ศบภ.พล.1 รอ.) และ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ( พล.ม.2 รอ.)จำนวน 330 นาย คอยดูแลให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่ดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง
วานนี้(21 มิ.ย.) การจราจรในกรุงเทพมหานคร(กทม.)วิกฤตอย่างหนัก หลังจากได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดคืนที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ของกทม.-ปริมณฑล ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ การจรจรติดขัดอย่างมาก อย่างเช่น ถนนวิภาวดี ถนนรัชดาขาเข้า แยกรัชลาด -หน้าโอลิมเปียทั้งสองจุด ความสูงเสมอทางเท้า ซอยสุขุมวิท 39 สูงเสมอทางเท้า ยาว 200 เมตร ถ.ทางรถไฟสายเก่าหน้าคลัง ปตท. สูง 50 เซนติเมตร ยาว 70 เมตร ซอย อ.ส.ม.ท. สูง 30 เซนติเมตร รถเล็กผ่านไม่ได้ การจรจรบริเวณถนนลาดพร้าวช่วงเช้า ติดขัดหนาแน่น โดยพบว่าช่วงปากซอยลาดพร้าว 87 มีน้ำขังประมาณ 10 ซม. และรถยนต์ชะลอตัว ขณะที่พบว่า การระบายน้ำที่ไม่ทัน ได้ส่งผลให้เกิดการไหลเอ่อท่วมเข้าถนนหมู่บ้านเลิศอุบล ส่วนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านมณียา ต้องรับชะตากรรมน้ำไหลเข้าท่วมอย่างไม่ทันรู้ตัว เป็นต้น
**'ชายหมู'ชี้ฝนตกหนัก2เท่ารอบ25 ปี
เมื่อเวลา 15.00 น.ของวานนี้ (21 มิ.ย.) ที่สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมประเมินสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากในช่วงเช้า ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมขังบริเวณถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญา
โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ฝนตกที่เกิดขึ้น ตกอย่างหนักต่อเนื่อง โดยภายใน 24ชั่วโมงที่ผ่านมาเพียงวันเดียวเกิดฝนตกปริมาณฝนรวมกว่า 200 มิลลิเมตร ซึ่งเทียบกับปริมาณฝนตกที่ตกทั้งปี ซึ่งจะมีฝนเฉลี่ย 1,500-1,800 มิลลิเมตร จึงถือว่าฝนที่ตกลงมาครั้งนี้หนักมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ กทม.ได้ประเมินสถานการณ์ จะเกิดฝนตกอย่างหนักในรูปแบบดังกล่าวในอีกหลายวัน ซึ่งกทม.ได้ทำการเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยให้เพิ่มจำนวนบุคลากร และเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ประจำจุดต่างๆ โดยเฉพาะเส้นทางบนถนนสายหลัก ที่จะต้องมีการบริหารจัดการให้สามารถสัญจรได้อย่างสะดวกมากที่สุด
สำหรับการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในระยะยาว ขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองบางซื่อ ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเม.ย.ปี 60 โดยเมื่อเปิดใช้งาน จะช่วยในการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำทาวมขังที่เกิดขึ้นบนถนนรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวีรังสิต และพื้นที่โดยรอบได้ อีกทั้งกทม.ยังมีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำเพิ่มเติมอื่นๆ คืออุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน และอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากร ซึ่งจะช่วยในการแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบถาวรได้ แต่การสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ และพัฒนาระบบระบายน้ำรูปแบบอื่นๆนั้น ต้องใช้งบประมาณและเวลาจำนวนมาก ในขณะนี้กทม.จึงต้องวางแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อลดผลกระทบแก้ประชาชน โดยในพื้นที่จุดเสี่ยงต่างๆ กทม.ได้เพิ่มจำนวนเครื่องสูบน้ำมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งการระบายน้ำโดยเร็วที่สุด
" ต้องขอโทษประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ปัญหาเช่นนี้ก็จะเกิดขึ้นซ้ำอีก เพราะกรุงเทพฯเป็นเมืองน้ำ เมืองฝน จะต้องมีน้ำรอการระบาย ซึ่งเราไม่สามารถบังคับน้ำได้ น้ำต้องไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ถ้าไม่มีที่ต่ำกว่า น้ำก็จะไปไม่ได้"
****'บิ๊กตู่'จ่อยกเครื่องระบบระบายน้ำทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวภายหลังการประชุม ครม. กรณี ประชาชนกังวลว่า กทม.จะรับมือกับภาวะฝนตกหนักในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ จะทำให้เกิดเหตุน้ำท่วม เหมือนปี 2554 หรือไม่ว่า ตนเคยบอกแล้วว่าต้องแก้ไขทั้งระบบ เพราะระบบระบายของเรามีปัญหามาตลอด การสร้างอุโมงค์น้ำขนาดใหญ่ ก็ไม่สามารถทำได้ ส่วนอุโมงค์ใหม่ของกทม.ก็ยังทำไม่เสร็จ เพราะติดปัญหาหลายประการ ที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปมาก เรื่องงบประมาณ หลายเรื่องรัฐบาลต้องนำเงินมาอุดเนินเพิ่มเติมให้กทม.ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งก็แก้ได้เป็นชิ้นๆ มาตลอด แต่งบก็ไม่พอ คราวนี้ปัญหาของเราจะทำอย่างไร ก็ต้องหาเงินมาทำส่วนนี้อีก พอมีผลกระทบว่าถ้าเอาเงินมาใช้มาก เงินส่วนอื่นก็ต้องลดลงกลายเป็นปัญหาต่อเนื่อง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า มีการดำเนินการร่วมกันระหว่าง กทม. เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทุกฝ่ายดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบก (ทบ.)ได้จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือที่มีน้ำท่วมขังจำนวน 36 จุด เนื่องจากมีฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันน้ำลดระดับสู่ภาวะปกติแล้ว จำนวน 25 จุด คงเหลือเพียง 11 จุด จึงต้องให้กำลังพลจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ( ศบภ.พล.1 รอ.) และ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ( พล.ม.2 รอ.)จำนวน 330 นาย คอยดูแลให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่ดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง