xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

#ปลูกเลย! ปลูกสำนึกพลิกฟื้นคืนผืนป่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ภาพภาษามือท่าต้นไม้ถูกโพสต์ในโซเชียลมีเดียกันโดยพร้อมเพรียง นัยหนึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของแคมเปญ #ปลูกเลย ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ปลูกเลย (www.facebook.com/plookloei) อันเนื่องจากนักร้องคนดังอย่าง 'โจอี้ บอย' กับ 'โต้ - สุหฤท สยามวาลา' รุ่นพี่ร่วมวงการเพลงและนักธุรกิจ ที่ออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์เริ่มปลูกสำนึกในหัวใจคนไทยประกาศจุดยืนร่วมรักษาป่า ปกป้องป่า และพลิกฟื้นผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์

ส่วนเหตุผลที่ทำให้พวกเขาออกมาเคลื่อนไหวเรื่องปลูกป่า เพราะอดรนทนไม่ไหวกับโศกนาฏกรรมภูเขาหัวโล้น จ.น่าน ที่มีการแชร์ภาพเผยให้เห็นผืนป่าต้นน้ำถูกรุกทำลายเหี้ยน เตียน ขณะเดียวกันเป็นช่วงที่พ่อเมืองน่านออกปากท้านักเลงคีย์บอร์ดให้มาปลูกป่า 500,000 กว่าไร่ จนกลายเป็นดรามาควันคลุ้งเรียก “ไทยมุง” ได้เป็นอย่างดี

แต่งานนี้พลิกผันผิดคาดเพราะข้อความเชื้อเชิญเชิงท้าทายของ สุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ไปเตะตา “คนจริง” อย่างคนดังที่ปรากฏนามอยู่ด้านบน จนพวกเขาประกาศเจตนารมณ์ขอร่วมปลูกป่าเมืองน่าน และบริจาคเงินสบทุนปลูกป่าเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท แน่นอน ยิ่งกระพือความสนใจจนผู้คนในสังคมไทยเริ่มตระหนักปัญหาด้านป่าไม้ ความฝันของคนเมืองตัวเล็กๆ ผู้ปรารถนาปลูกป่าเพื่อพลิกฟื้นคืนความสมบูรณ์แก่ผืนป่าต้นน้ำเมืองไทยที่ถูกทำลาย จึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป เช่นเดียวกัน แนวคิดของพวกเขาจึงไม่ใช่การขายฝันลมๆ แล้งๆ เพียงแค่เชิญชวนผู้คนออกมาทำภาษามือท่าต้นไม้เท่านั้น

เพราะมีการรวมตัวจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ระดมสมองเพื่อหาแนวทางปลูกป่าอย่างยั่งยืน โดยเริ่มต้นจากแนวคิดปลูกสำนึกผ่าน เฟซบุ๊กปลูกเลย (www.facebook.com/plookloei) ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หากประเมินจากยอดผู้กดไลค์มากกว่า 92,000 ไลค์ และการแชร์ภาพเชิงสัญลักษณ์ดังกล่าว

เฟซบุ๊กปลูกเลย จะเป็นฐานทัพในการดำเนินการขั้นถัดไป เผยแพร่องค์ความรู้เรื่องการปลูกป่า รวมทั้งการเคลื่อนไหวต่างๆ ของกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยมี โจอี้ บอย และ โต้ - สุหฤท เป็นทัพหน้าเคลื่อนพลตามยุทธศาสตร์ที่จัดทำร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง

โจอี้ บอย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Apisit Joeyboy Opasaimlikit แจงความคืบหน้าเป็นระยะๆ ความว่า

“สวัสดีครับ ขออนุญาตแจ้งความคืบหน้าเรื่องการปลูกป่าน่านครับ ตอนนี้เราได้ชื่อกลุ่มแล้วครับ ชื่อกลุ่ม “ปลูกเลย!” ชื่อง่ายๆ รวมทั้งการตั้งกองทุนเพื่อรับบริจาคสมทบทุนในการดำเนินการครับซึ่งกำลังดำเนินการนะครับ ทุกบาทที่ได้รับจะได้ทำการใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดและรายงานการใช้ทุก บาททุกสตางค์ครับไม่มีตกหล่น กลุ่มเราแบ่งงานกันสามส่วนครับไม่มีใครเป็นหัวหน้า ส่วนการขับเคลื่อนโครงการคือ โจ้ โจอี้บอย, ต่อ ธนญชัย และ โต้ สุหฤท ส่วนการประสานงานกับส่วนที่เกี่ยวข้องก็ได้คุณสันติ จากสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย และ ดนุพล สยามวาลา คุณสำรวย นายก อบต. เมืองจัง โดยที่พี่สำรวยมีความชำนาญในพื้นที่มากครับ ส่วนงานทางด้านวิชาการให้ทุกอย่างถูกต้องทางกลุ่มได้ อาจารย์จุล สถาปัตย์ มช. มาช่วยดำเนินงานให้ถูกตามหลักการทุกประการครับ ที่ปรึกษากลุ่มที่เรา คือ อาจารย์ ยักษ์ วิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้ก่อตั้ง ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จะมาช่วยเราด้วยอีกแรงนึงครับ

“ช่วยกันทำ ช่วยกันออกความคิดเห็น นะครับ เพื่อให้ได้เป็นรูปธรรมที่สุดและให้กิจกรรมของเราสามารถอยู่ไปได้นาน ๆ ครับ ถ้าเราสำเร็จก็ขอให้ทุกท่านใช้รูปแบบนี้ไปดำเนินการต่อได้ครับ มันอีกเป็นล้านไร่ครับที่เราจะช่วยกันได้ครับ พื้นที่ที่เรามองไว้ตอนนี้คือที่ อ.สันติ สุขครับ เนื้อที่ประมาณ 400 - 500 ไร่ครับ แลดูเล็กมากเทียบกับปัญหาแต่เราอยากให้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะขยายผลได้ครับ

“ขั้นตอนคือ การสรุปวิธีการปลูกป่าและพันธุ์ไม้ที่ถูกต้องตามหลักการ หลังจากนั้นจะทำการ Workshop ให้ทุกท่านได้ทราบวิธีการที่ถูกต้องพร้อมทั้งประสานงานกับทางหน่วยงานราชการและประชาชนในพื้นที่ให้ชัดเจน จะมีการเตรียมการร่วมกับหน่วยราชการให้เรียบร้อยเพื่อดำเนินการปลุกป่าในเดือนกรกฎาคมครับ อีกไม่นานแล้วครับ ติดตามความคืบหน้าต่อ ๆ ไปในรายละเอียดได้เรื่อย ๆ นะครับจากเพจของเราครับ ด้วยความตั้งใจจริง กลุ่มปลูกเลย! ฝากติดตามในเฟซบุ๊ก เพจ ปลูกเลย”

ขณะที่ โต้ - สุหฤท หนึ่งในผู้นำทีมปลูกเลยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก DJ Suharit Siamwalla ถึงอุดมการณ์ที่ออกเคลื่อนไหวผ่านแคมเปญปลูกเลย ตัดทอนใจความสำคัญ ความว่า

“เราต้องไม่ปล่อยให้มันเป็นเรื่องใน facebook ที่เถียงกันแล้วหายไปเหมือนทุกครั้ง น่าน คือจุดเริ่มต้นเท่านั้น ผมมีข้อเสนอทางความคิดดังต่อไปนี้ครับ

1. ทุกอำเภอที่น่านทำไร่ข้าวโพด มีร่วม 7 แสนไร่อย่างต่ำ ไอ้แคมเปญที่เรากำลังอยากทำขั้นต้นอย่าตกใจนะได้แค่ 500 ไร่สูงสุดในขั้นต้นแลดูทุเรศแต่นั่นคือความจริง

2. ถ้าใครมีวิธีที่ดีกว่าขอเสนอว่าเราแข่งกันทำครับแข่งกันวิ่ง ใครเจ๋งประสบความสำเร็จเราจะก๊อบเลยครับขยายมันไปครับ อย่ามานั่งเถียงกันว่าใครถูกผิด มันเหลือเป็นล้านล้านไร่ให้เราทำทั้งประเทศ

3. เราไม่ได้กำลังปลูกป่าครับ เอาจริงๆ เรากำลังสู้กับระบบที่เน่าเฟะ เละเทะ สิ่งที่เราต้องสู้ไม่ใช่แค่ปลูกป่าแต่สู้ด้วยระบบที่ฉลาดกว่าจากประชาชนกันเอง ไม่ใช่ของกลุ่มที่พวกผมกำลังทำนะครับ ของใครก็ได้ครับที่จะทำให้เราชนะ ระดมกันทำ

4. ขอนะครับเรื่องนี้ไม่ใช่ความเชื่อเรื่องการเมืองแม้แต่น้อย คุณจะเป็นเสื้อแดง เสื้อเหลือง กปปส. อะไรก็ได้ทั้งนั้นครับตามสบาย แต่เราแดกสารพิษร่วมกันทุกวันครับ

5. ผมอยากถามว่าผู้เคยและมีอำนาจที่เกี่ยวข้องของประเทศต่อความหายนะครั้งนี้ว่าคุณยังมีหัวใจอะไรเหลือบ้างครับ มันเกิดมาเป็นสิบปีแล้ว เราจะหยุดมันอย่างไร

6. เราต้องยอมรับผลกระทบจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าเราทำสำเร็จในการพลิกฟื้นให้เป็นป่าเพราะหลายอย่างมันจะแพงขึ้น ข้าวโพดไม่ได้เลี้ยงสัตว์อย่างเดียว มันผลิตของมากมาย

7. อนึ่งเราไม่ใช่นักอนุรักษ์นิยมอะไร ท่านนักวิชาการน่าจะร่วมกันออกไปทำครับ ผลวิจัยเราเยอะมากแล้ว ทุกคนถูกหมดครับ อยากจะปล่อยป่าไว้เฉยๆ ให้มันฟื้นเองก็ช่วยกันหาที่ อยากจะปลูก อยากจะทดลองอะไรก็ทำเถอะครับ ช่วยกัน พื้นที่เป็นล้านไม่ต้องมาด่าว่ากันในสเตตัสเล็กๆ ของผม มันบั่นทอน

8. ข้อนี้อ่านชัดๆ นะครับ เลิกหวังการเปลี่ยนจากผู้มีอำนาจไม่ว่ามาจากการเลือกตั้งหรือยึดอำนาจ เราเข้าใจว่าเขามีปัจจัยที่ต้องพิจารณาเยอะแยะมากมาย เราต้องออกไปทำกันเองครับร่วมกับคนท้องที่และข้าราชการดีๆ มันซับซ้อนเกินกว่าที่จะเป็นจริงได้ถ้ามัวแต่หาคนรับผิดชอบว่าผิดเพราะใคร เราจ่ายภาษีอยู่เราเป็นเจ้าของประเทศ แค่อย่าเศร้าแล้วเฉยจงออกไปทำ ข้าราชการดีๆในพื้นที่พร้อมช่วยเราเยอะมากครับ

9. สิ่งที่พวกเรากำลังจะทำถ้าสำเร็จก๊อบมันเลยครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหมแค่อยากทำให้แม่งสำเร็จ

10. เราควรหมดหวังได้แล้วครับกับกระบวนการต่างๆ ที่ทับซ้อนของกระบวนการทางราชการในการดูแลป่า เราควรมีความหวังว่าเราจะสู้กันเองได้อย่างไรแบบสนุกสนานร่วมกันแล้วให้ราชการสนับสนุนพวกเราเขาเองเห็นป่าหายทุกวันเขาคงสนุกแบบเดียวกับเราถ้าได้ทำอะไรเพื่อแก้ไขมัน

11. อย่าลืมว่ามีคนไม่ชอบแน่ถ้าข้าวโพดลดลง เขาจะปรับตัวและเราก็จะปรับตัวเช่นกัน

12. หาแนวร่วมดีกว่าหาแนวรบถ้าเรามีจุดมุ่งหมายที่ดี

ช่วยกันลุยนะครับ ภาพที่เห็นนี่มันเล็กน้อยมากถ้าเทียบทั้งประเทศ มันถึงจุดของมันแล้วครับ”

อย่างไรก็ตาม ก่อนลงพื้นที่ดำเนินการปลูกป่าตามแผนการ กลุ่มปลูกเลยได้ทำการศึกษาเรื่องภูมิศาสตร์และพันธุ์ไม้ที่จะนำไปปลูกพลิกผืนภูเขาหัวโล้นให้กลับมาเป็นป่าต้นน้ำอันสมบูรณ์ และเผยแพร่องค์ความรู้และสร้างความเข้าใจผู้สนใจอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา โจอี้ บอย นำทีมปลูกเลย ลงพื้นที่สำรวจป่าต้นน้ำ จ. น่าน ซึ่งมีกำหนดการปลูกป่าจริงในวันที่ 9 กรกฎาคม 2559 พร้อมปลูกต้นไม้และมอบกล้าพรรณไม้ผลแก่ชาวบ้านนาก้า หมู่ 1 ต.แม่สาคร อ.เวียงสา จ.น่าน จำนวน 82 ครัวเรือน กว่า 1,000 ต้น กิจกรรมดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ซึ่งพวกเขาแสดงเจตนาว่าจะช่วยพลิกฟื้นป่าปลูกไม้ผลยืนต้นทดแทน เช่น มะขาม, มะนาว, มะม่วง ฯลฯ ทำให้เป็นป่ากินได้ ซึ่งด้านล่างจะปลูกไม้ล้มลุก นอกจากนี้ จะสร้างฝายชะลอน้ำต้นน้ำขุนน้ำสา เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์ด้วย


ถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าเมืองไทย แม้ไม่ใช่ทุกคนที่ลงพื้นที่ลงแรงปลูกป่า แต่อย่างน้อยแคมเปญ #ปลูกเลย ได้ปลูกสำนึกในหัวใจให้เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่าผลลัพธ์ของภารกิจปลูกเลย จะไปพลิกฟื้นเขาหัวโล้น 500 ไร่ ให้กลับมาเขียวชอุ่มได้เมื่อใด

................
ข้อมูลและภาพประกอบ : เฟซบุ๊ก ปลูกเลย, เฟซบุ๊ก DJ Suharit Siamwalla, เฟซบุ๊ก Apisit Joeyboy Opasaimlikit



กำลังโหลดความคิดเห็น