"สมยศ"ไม่สนผลโพล ค้านการเปิดบ่อนกาสิโน อ้างเป็นแค่กลุ่มเล็กๆ ยันเดินหน้าทำเว็บไซต์ สำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศ พร้อมหารือ "กลุ่มสปช.รักชาติ" ผลักดันต่อ ไม่หวั่นกระทบตำแหน่งหน้าที่ ลั่นไม่ได้ทำไว้เพื่อเก็บกินหลังเกษียณ ปัดสร้างกระแสกลบข่าวถอดยศแม้ว "สมหมาย" ออกโรงหนุนอีกแรง แต่ต้องเป็นในรูป เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ด้านสภาพัฒนาการเมืองออกแถลงการณ์ต้าน ยกพระราชดำริ ร. 5 ประกาศเลิกบ่อนเบี้ย ปลุกสำนึก สปช.-ผบ.ตร. ชี้จะทำบ้านเมืองฉิบหาย ไม่ควรริ่เริ่ม "ธีรภัทร์ " ระบุหากเป็นนายกฯ สั่งปลด "สมยศ"ไปแล้ว เพราะมีหน้าที่ปราบบ่อน แต่กลับเชียร์ให้เปิดบ่อนอย่างออกหน้าออกตา "มาสเตอร์โพล" ชี้เปิดกาสิโน มีผลเสียมากกว่าผลดี แกนนำชุมชนไม่อยากให้มีในพื้นที่ของตัวเอง "ศรีสุวรรณ" บุกป.ป.ช. ร้องเอาผิด "สมยศ" 2 กระทง หนุนเปิดบ่อนขัดประมวลจริยธรรม ประวิงเวลาไม่ถอดยศทักษิณ เข้าข่ายความผิดอาญา มาตรา 157
เมื่อเช้าวานนี้ ( 22 มิ.ย.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าร่วมรับฟังการสัมมนาการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมาธิการกฎหมายกระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมีข้าราชการตำรวจเข้าร่วมกว่า 1,400 นาย
โอกาสนี้ พล.ต.อ.สมยศ ได้กล่าวถึงกรณีผลโพลของสำนักต่างๆ ที่คัดค้านการตั้งกาสิโนในประเทศไทย ว่า ตนไม่สนใจผลโพลที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเปิดบ่อนกาสิโนที่ถูกกฎหมาย เพราะผลสำรวจดังกล่าวมีกลุ่มตัวอย่างเป็นแค่เพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ไม่ใช่การสำรวจความคิดเห็นของคนทั้งประเทศ
" ผมยังยืนยันที่จะจัดทำเว็บไซต์ เพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยมั่นใจว่าจะเข้าถึงประชาชนได้มากกว่าการทำโพล แต่ในส่วนของกลุ่มที่คัดค้าน ก็จะรับฟังความคิดเห็น โดยเชื่อว่าจะมีกลุ่มคนออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง ซึ่งเบื้องหลังเป็นเจ้าของธุรกิจบ่อนพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ที่เสียผลประโยชน์ ที่มีอยู่กว่า 30 แห่ง หากปล่อยให้เงินคนไทยไหลออกไปพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ก็เปรียบเสมือนพระเวสสันดร หลังจากนี้ผมเตรียมที่จะแจกแผนผังแสดงที่ตั้งบ่อนการพนันทุกบ่อน ที่อยู่รอบประเทศไทยให้กับสื่อมวลชน" ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่าตนพร้อมที่จะหารือร่วมกับ 12 สปช.กลุ่มรักชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวความคิด ในการจัดสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งหากทั้ง 12 สปช. ขอให้ตนร่วมลงชื่อสนับสนุน ตนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และในอนาคต หากรัฐบาลต้องการข้อมูลก็พร้อมที่จะเข้าชี้แจงรายละเอียดแนวคิดนี้
ปัดสร้างกระแสเปิดบ่อนกลบข่าวยื้อถอดยศ
เมื่อถามว่าข้อเสนอให้เปิดบ่อนเสรีเพื่อมากลบกระแสข่าวการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย ผมทำทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เรื่องนั้นผมก็ทำอยู่ ทุกอย่างก็เดินอยู่เพียงแต่ผมไม่ได้มาเล่าให้ใครฟัง ยืนยันไม่ได้หยุดนิ่ง แต่บอกแล้วว่าทุกอย่างทุกเรื่องต้องละเอียดรอบคอบ ยึดกฎหมาย เมื่อมีผู้ท้วงติงก็ต้องฟัง แล้วมาชั่งน้ำหนักว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถึงเวลาผมตัดสินใจอย่างไรมันจะมีคำตอบชี้แจงทุกคนได้แน่นอน
สปช.กลุ่มรักชาติเมินโพลค้านกาสิโน
พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานกลุ่มสปช.รักชาติ กล่าวถึงผลโพลของสวนดุสิตโพล และนิด้าโพล ที่ระบุว่า ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนกาสิโน ว่า ยังไม่สามารถวัดผลอะไรได้ เพราะกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจยังน้อยอยู่ ซึ่งทางสปช.กลุ่มรักชาติ ยังจะเดินหน้าผลักดันการตั้งบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายต่อไป แม้จะมีกลุ่มเห็นต่างมากก็ตาม เราถือว่าเป็นความเห็นต่างที่มีความหวังดีต่อประเทศชาติ โดยกำลังพิจารณาว่า จะไปพบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อนำข้อมูลที่เห็นต่าง ไปพิจารณาหาแนวทาง และวางมาตรการป้องกันในเรื่องที่มีความเป็นห่วง เพื่อให้เกิดความสบายใจ ซึ่งในวันที่ 23 มิ.ย. ทาง สปช.กลุ่มรักชาติ จะนัดประชุมกันอีกครั้ง เพื่อนำความเห็นของกลุ่มเห็นต่างมาพูดคุยกัน เพื่อวางมาตรการป้องกันในสิ่งที่มีความเป็นห่วง" พ.ต.อาณันย์ กล่าว
สปช.รักชาติ หารือ ผบ.ตร. ตั้งกาสิโน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้ทำการชี้แจงแสดงแผนผังสถานที่ตั้งบ่อนการพนันโดยรอบประเทศไทยต่อสื่อมวลชน ซึ่งระบุว่า มีบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน และพื้นที่ใกล้เคียงประเทศไทย ทั้งสิ้น 75 แห่ง เมียนมา 14 แห่ง สปป.ลาว 4 แห่ง กัมพูชา 21 แห่ง มาเลเซีย 1 แห่ง สิงคโปร์ 2 แห่ง และมาเก๊า 33 แห่ง เป็นบ่อนในประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทยถึง 40 แห่ง
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า ทางกลุ่มสปช.รักชาติ ทั้ง 12 ท่าน ได้เข้าหารือ และรับฟังแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยตนได้นำผลการวิจัยเกี่ยวกับบ่อนกาสิโนในประเทศที่เคยมีบ่อนมาแล้ว รวมถึงจำนวนบ่อนการพนันโดยรอบประเทศ เพื่อแก้ไขข้อครหาตำรวจรับส่วยบ่อนการพนัน และหวยใต้ดิน ซึ่งไม่อยากให้เงินจำนวนนี้ไหลออกนอกประเทศ และเชื่อว่าเงินจำนวนนี้ จะสามารถนำมาพัฒนาประเทศได้ ขอยืนยันว่าการออกมาแสดงความคิดเห็นของตนในครั้งนี้ เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวั่นไหวต่อผลกระทบกับตำแหน่งหน้าที่ เนื่องจากเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ไม่ผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายอนุญาตให้มีบ่อนกาสิโนได้
"ผมทำผิดตรงไหน แค่เสนอความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าหากท่านนายกฯไม่เอา ก็คือไม่เอา และผมขอย้ำว่า การออกมาหนุนสุดตัวเรื่องนี้ ไม่ใช่การปูทางธุรกิจด้านนี้ หลังเกษียณอายุราชการอย่างแน่นอน" ผบ.ตร. กล่าว
"สมหมาย" หนุนกาสิโนอีกแรง
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ทางคลื่น เอฟเอ็ม 97 เมกะเฮิร์ทซ์ กรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตนเองได้พาตัวแทนบริษัท ซึ่งมีบ่อนกาสิโนอยู่ในมาเก๊า , สิงคโปร์ และลาสเวกัส เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อเร็วๆนี้ ว่า ไม่จริง เรื่องอะไรตนต้องพาตัวแทนกลุ่มนี้ไปพบ ตนไม่รู้จักเขา แต่เมื่อ 3 - 4 ปีที่แล้ว ตนเคยไปพักที่สิงคโปร์ 2 ครั้ง และเล่นหมดเงินไปประมาณ 200 เหรียญสิงคโปร์ กับเพื่อนชาวสิงคโปร์ และตั้งแต่ตนมาเป็นรัฐมนตรี กลุ่มธนาคารต่างๆ ที่จัดประชุม เชิญตน 4 ครั้ง ให้ไปพูดปาถกฐาเรื่องเศรษฐกิจของไทย แต่ตนไม่ได้ไป โดยมอบให้เลขานุการของตนไปแทน
"ประเทศอื่นเขามีวิธีทำเป็นแบบคอมเพล็กซ์ หรือทำเป็นไมซ์ (Meeting Incentive Convention and Exhibition-ตลาดจัดประชุมสัมมนา ) ที่เขามีการจัดประชุมใหญ่ๆทั่วโลก รับคนเพื่อมาประชุม คนไปเล่นการพนันไม่ได้ผิดศีล 5 เพราะศีล 5 ไม่ได้ห้ามเรื่องการพนัน ยกตัวอย่างคนไปชอปปิง คนมีเงินเขาก็ไปพักผ่อน ไปดูของ ซื้อของ แต่ส่วนใหญ่ 80% ไม่ได้ต้องการซื้อของ เขาไประบาย และไปหาความสุข เพราะฉะนั้น การเข้าไปเล่นการพนัน เพื่อไประบาย ไปหาความสุข คนจนๆ ก็ห้ามอย่าให้เขาไปเล่น ตรงนี้มันทำกันได้ เราปล่อยให้คนของเราไปจ่ายเงินที่อื่น เสียมากกว่าได้ ก็ไปปล่อยที่อื่น คนอื่นก็เอาเงินของเราไป แต่ผมไม่เห็นด้วยที่มาเปิดบ่อนกันทั่วทุกหนทุกแห่ง เดี๋ยวก็จะมีข่าวรับโน่นรับนี่ ที่บ่อนกันอีก ผมคิดของผมอย่างนี้" รมว.คลัง กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้ายื่นข้อเสนอขอลงทุนทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่มักกะสัน แสดงว่า น่าพิจารณา นายสมหมาย กล่าวว่า ผมว่ามันคุ้มกว่าที่ศีลธรรมจะเสียหายหรือไม่ ผมว่าคนมีเงินไปเล่น มันจะเสียหายตรงไหน เขาก็ไปเล่นของเขา หากไม่เล่น เขาก็ไปซื้อของ มันเอ็นเตอร์เทน คนมันต้องพักผ่อน เขามีเงิน เขาก็พักผ่อนได้มาก เขาจะเจ๊งก็ช่างเขา เราก็ดูแค่ว่า อย่าปล่อยให้คนรากหญ้า คนจนๆเข้า แถวชายแดนก็ไม่ควรปล่อยให้คนจนๆ ผ่านแดนเข้าไปเล่นการพนัน
สพม.ออกแถลงการณ์ต้านกาสิโน
สภาพัฒนาการเมือง (สพม.) ออกแถลงการณ์ คัดค้านการเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย โดยนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง พร้อมสมาชิกร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ระบุว่า กาสิโน เป็นส่วนของการพนันซึ่งเป็นอบายมุขอันควรหลีกเลี่ยง ไม่สอดคล้องกับแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในทุกศาสนาการพนันถือเป็นอบายมุข เป็นต้นเหตุทำให้เกิดความเสื่อม นำไปสู่ความฉิบหาย สร้างปัญหาทางสังคม ทำให้ภูมิคุ้มกัด้านต่างๆ ของประเทศโดยรวมลดลง เงินหมุนเวียนในกาสิโน ไม่มีคุณค่าต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นเพียงการเปลี่ยนมือของเจ้าของเงิน จากผู้เล่นพนันเสียไปยังผู้เล่นพนันได้ จำนวนเงินรวมเท่าเดิมไม่ได้เพิ่มผลิตผลหรือรายได้ให้แก่ระบบเศรษฐกิจโดยรวม หากเจ้าของกาสิโน เป็นคนต่างชาติ เงินรายได้ฯจะถูกส่งออกไปนอกประเทศ กาสิโนยังอาจถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน ผู้ที่ได้เงินมาโดยทุจริต สามารถใช้กาสิโน เป็นช่องทางในการฟอกเงินได้ หากเจ้าของกาสิโนให้ความร่วมมือ ทำให้การป้องกันปราบปรามการทุจริต เป็นไปได้ยาก ซึ่งประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีศิลปวัฒนธรรม และโบราณสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพากาสิโน อีกทั้งยังจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของชาติ หากเป็นประเทศเดียวในภูมิภาค ที่ไม่มีกาสิโน
ทั้งนี้แถลงการณ์ดังกล่าว ยังได้ยกพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงเห็นโทษของบ่อนเบี้ย ที่มีต่อราษฎร และประเทศ จึงทรงประกาศเลิกบ่อนเบี้ยรัตนโกสินทรศก 124 ดังปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 21 หน้า 875-878 วันที่ 26 กุมพาพันธ์ ร.ศ.123 (พ.ศ) 2447 ที่ว่า
" แม้ว่าจะได้ผลประโยชน์มาใช้จ่ายในราชการแผ่นดินเป็นรายได้อันสำคัญของรัฐบาลประเภทหนึ่งก็จริง แต่ย่อมกระทำให้น้ำใจอาณาประชาราษฎรฝั้นเฝือดำเนินไปในทางต่ำช้า เลวทราม ใช่แต่เปนที่เสื่อมเสียทรัพย์สมบัติของนักเลงผู้เล่นส่วนเดียว ย่อมเปนทางอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่นด้วย และความมัวเมาในการเล่นพนัน ย่อมขัดต่อเวลาที่จะพึงทำการให้เกิดประโยชน์ต่างๆ ด้วย อีกประการหนึ่งการพนันบ่อนเบี้ยในเวลานี้ เงินที่ตกไปในมือนายอากรผู้รับผูกขาดการบ่อนเบี้ยนั้น นายอากรจัดส่งออกไปเสียนอกพระราชอาณาเขตร์เปนอันมาก และการบ่อนเบี้ย ยังเปนการที่นำมาซึ่งโจรกรรม และการอาญาอื่นๆ อีกเล่า ถ้าให้เลิกการตั้งเล่นบ่อนเบี้ยเสีย ก็จะทำให้อาณาประชาราษฎรมีสันดาน และความประพฤติดีขึ้น อย่างหนึ่ง ทำให้การทำหากินเจริญขึ้นอย่างหนึ่ง ใช่แต่เท่านั้น ทรัพย์สมบัติซึ่งในเวลานี้ใช้ในการเล่นเบี้ยอยู่นั้น ก็จะเปนทรัพย์สมบัติที่จะใช้แพร่หลายอยู่ในพระราชอาณาเขตร์ เปนทางให้เกิดความสมบูรณ์ในบ้านเมืองยิ่งขึ้นอีกอย่างหนึ่ง " ขึ้นมาเป็นประกอบการคัดค้าน
ถ้ามีอำนาจ ปลดผบ.ตร.ไปแล้ว
นายธีรภัทร์ กล่าววว่า พระราชดำริร. 5 ดังกล่าว ส่วนหนึ่งสะท้อนว่าถ้าบ่อนเป็นเรื่องดี คงมีการเปิดอย่างถูกกฎหมาย รัชกาล ที่ 5 คงให้เปิดอย่างถูกกฎหมาย และมีมาถึงปัจจุบันไม่ใช่ถูกยกเลิกไป คิดว่าบรรดานักการเมือง สมาชิสภาปฏิรูปแห่งชาติ กลุ่มรักชาติ ที่เสนอให้มีการเปิดกาสิโนอย่างถูกต้อง ข้าราชการประจำ อย่าง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์มุ่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควรน้อมนำใส่เกล้าใส่กระหม่อม ว่าอะไรที่ริ่เริ่มแล้วจะเกิดประโยชน์แก่บ้านเมือง อะไรที่จะทำแล้วเกิดความฉิบหายแก่บ้านเมือง ก็ไม่ควรแม้แต่จะคิดริเริ่ม
"คิดว่าข้าราชการที่มีหน้าที่ในการปราบบ่อนพนัน ไม่ควรออกมาพูดเลย ถ้าผมมีอำนาจอย่าง ท่านประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ) ต้องปลดเลย ข้าราชการแบบนี้ ใช้ไม่ได้ เพราะท่านเป็น ผบ.ตร. กำลังสวมหัวโขน มีหน้าที่ในการปราบบ่อน ไม่ควรที่จะมานำเสนอแบบนี้" นายธีรภัทร์ กล่าว และว่า ผู้ที่สนับสนุนให้มีการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ต้องออกเสนอผลงานทางวิชาการ ว่าข้อดีมีน้ำหนักมากขนาดไหน จึงสนับสนุนให้เปิด เพราะตนเองมองว่า ข้อเสนอที่มีออกมา ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ และก็ไม่รู้ว่านักวิชาการที่นำเสนอผลวิจัยว่าให้เปิดแบบถูกกฎหมายนั้น ตอนทำวิจัย เขาทำอยู่บนสมมุติฐานอะไร ถ้าประเทศที่เจริญแล้ว ประชาชนมีจิตสำนึก เคารพกฎหมาย เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายมีความเคร่งครัดในการในการใช้กฎหมาย การเปิดมันก็อาจจะเป็นผลดี แต่บ้านเราเอาง่ายๆ ประชาชนยังไม่ข้ามถนนทางม้าลาย ขับรถก็ไม่เคารพกฎหมาย ซื้อของไม่เข้าแถว เราห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าผับ บาร์ แต่ในทางปฏิบัติ กฎหมายบ้านเราใช้บังคับไม่ได้จริง คิดว่านักวิชาการที่ศึกษาเรื่องการเปิดกาสิโน คงไม่ได้ศึกษาบริบทแบบนี้ของบ้านเรา ถ้าศึกษา คำตอบคงไม่ออกมาเช่นนี้
" เอาง่ายๆ ทุกวันนี้บ่อนผิดกฎหมาย ปราบปรามได้หมดแล้วหรือยัง ที่พูดว่าทำให้บ่อนถูกกฎหมายเสีย แล้วบ่อนผิดกฎหมายจะหมดไป มันคนละเรื่องเลย ดังนั้นถ้ามีบ่อนถูกกฎหมายขึ้นมา เชื่อว่าจะยิ่งทำให้บ้านเราจมดิ่งไปอีก" นายธีรภัทร์ กล่าว
"มาสเตอร์โพล"ชี้ข้อเสียมากกว่าดี
ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ มาสเตอร์โพล เรื่อง เจาะมุมมองแกนนำชุมชนต่อบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย ศึกษากลุ่มตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,077 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 19-21 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า แกนนำชุมชน ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.0 คิดว่า เป็นเรื่องปกติในสังคมไทย ขณะที่ร้อยละ 31.0 ระบุ ไม่ใช่ โดยร้อยละ 19.6 ระบุ เคยเล่นการพนันในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนร้อยละ 80.4 ระบุ ไม่เคยเล่น
เมื่อถามถึงข้อดีของการเปิดบ่อนกาสิโน ที่จะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นนั้น พบว่าแกนนำชุมชนส่วนใหญ่ร้อยละ 54.2 ระบุเห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 45.8 ระบุไม่เห็นด้วย และร้อยละ 69.5 เห็นด้วยว่า ทำให้ประชาชนมีงานทำ และมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น ส่วนร้อยละ 30.5 ระบุไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 66.6 ระบุเห็นด้วยกับประเด็นที่จะช่วยป้องกันเงินรั่วไหลออกนอกประเทศ ขณะที่ร้อยละ 33.4 ระบุไม่เห็นด้วย และร้อยละ 66.0 เห็นด้วย ว่าการเปิดบ่อนคาสิโนจะช่วยลดจำนวนบ่อนเถื่อน การพนันที่ผิดกฎหมาย ส่วนร้อยละ 34.0 ระบุไม่เห็นด้วย
นอกจากนี้ แกนนำชุมชน ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงข้อดี การเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย คือ จะสามารถควบคุมดูแลได้ง่ายขึ้น ลดการทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ ในการบังคับใช้กฎหมาย เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ มีเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น พื้นที่ที่มีบ่อนกาสิโน จะได้รับการพัฒนาให้มีความเจริญมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงข้อเสียของการเปิดบ่อนกาสิโน พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 51.8 ระบุ จะทำให้ประชาชนหันมาเล่นการพนันมากขึ้น ขณะที่ร้อยละ 48.2 ระบุ ไม่เห็นด้วย สำหรับประเด็นกาสิโน จะกลายเป็นแหล่งฟอกเงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.2 ระบุ เห็นด้วย ในขณะที่ร้อยละ 45.8 ระบุไม่เห็นด้วย
นอกจากนี้แกนนำชุมชนร้อยละ 56.5 ระบุ เห็นด้วยว่า การเปิดบ่อนคาสิโนจะทำให้ปัญหาสังคม อาชญากรรม และยาเสพติดเพิ่มสูงขั้น ขณะที่ ร้อยละ 43.5 ระบุไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น และส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.5 เ ห็นด้วยกับประเด็นว่าเป็นการมอมเมาเยาวชน และร้อยละ 47.5 ระบุ ไม่เห็นด้วย
ทั้งนี้แกนนำชุมชนที่ถูกศึกษาได้ระบุ ความคิดเห็นเพิ่มเติม เกี่ยวกับข้อเสียของการเปิดบ่อนกาสิโน โดยระบุว่า เหมือนเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเล่นการพนัน เกิดปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ควบคุมดูแลและบังคับใช้กฎหมาย ปัญหาผู้มีอิทธิพล ทำลายภาพลักษณ์อันดีของประเทศ ถ้าควบคุมไม่ได้ จะทำให้เกิดผลกระทบที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งปัญหาครอบครัว ปัญหาหนี้สิน รวมถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะผู้วิจัยได้ให้แกนนำชุมชนเปรียบเทียบถึง ข้อดี-ข้อเสีย ของการเปิดบ่อนกาสิโน ปรากฏว่า ร้อยละ 60.9 ระบุคิดว่า มีข้อเสียมากกว่าข้อดี มีเพียงร้อยละ 28.1 คิดว่ามีข้อดีมากกว่า ทั้งนี้ เมื่อถามถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเปิดบ่อนกาสิโน พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 59.9 ระบุ คิดว่ายังไม่พร้อม ร้อยละ 33.3 คิดว่าพร้อมแล้ว และแกนนำชุมชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.4 ระบุ ยอมรับไม่ได้ หากจะมีการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายในพื้นที่จังหวัดของตนเอง เพราะ เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเด็ก และเยาวชน ขณะที่ร้อยละ 37.6 ระบุ ยอมรับได้ โดยให้เหตุผลว่า ถ้ามีหลักการ และระเบียบที่ดีก็ยอมรับได้
เปิดบ่อน-จับเนวิน กลบกระแสถอดยศไม่มิด
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีต รอง ผอ.ศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ชื่อ "พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์" ระบุถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เกี่ยวกับการถอดยศ พ.ต.ททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ดูๆ ไปแล้ว เรื่องถอดยศ เรื่องเปิดบ่อน และ เรื่อง คุณเนวินฯ ถูกจับผิดกฎจราจร มันทำให้ชาวบ้านคิดว่า น่าจะมาจากเรื่องเดียวกันครับ
พล.ท.นันทเดช ระบุว่า เรื่องถอดยศ ผบ.ตร. อาจโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ก็ยังตื๊อที่จะหลบเลี่ยง มันจึงน่าจะมีอะไรสักอย่างที่ทำให้ พล.ต.อ.สมยศ กล้าหาญขนาดนั้น เพราะไอ้ผิดเรื่องละเว้นน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ในฐานะที่เป็นกลไกของรัฐ จะทำให้รัฐบาลเสียหายตามไปด้วยมากทีเดียวครับ ในเรื่องนี้ คนจะพูดกันต่อไปว่า เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้เลย
พล.ท.นันทเดช ระบุต่อว่า ดังนั้นเรื่องการขอเปิดบ่อน และเรื่องที่มีตำรวจ ระดับนายพล ลงไปจับมอเตอร์ไซค์ วิ่งผิดเลนด้วยตัวเอง คงไม่พอจะกลบกระแสเรื่องถอดยศหรอกครับ ต้องหาอีกสัก 2-3 เรื่อง เป็นผมถ้าไม่คิดถอดยศเขาแล้ว จะออกมาชี้แจงตรงๆเลย มันจะได้หมดเรื่องวิพากวิจารณ์ไปเสียที หรือถ้าไม่ถอด ก็อย่าไปทำมาตั้งแต่ต้น ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้คนจะพูดกันไม่รู้จักจบครับ รัฐบาลจะเสียหายตามไปด้วย
ร้องป.ป.ช.เอาผิด "สมยศ" 2กระทง
ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางไปที่สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ เพื่อยื่นหนังสือถึงประธาน ป.ป.ช. ให้ดำเนินการไต่สวนเอาผิด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ใน 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 การออกมาสนับสนุน ส่งเสริมการเปิดกาสิโน เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ
กรณีที่ 2 การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยมีพฤติการณ์ ประวิงเวลา อันเข้าข่ายความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
เมื่อเช้าวานนี้ ( 22 มิ.ย.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าร่วมรับฟังการสัมมนาการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมาธิการกฎหมายกระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมีข้าราชการตำรวจเข้าร่วมกว่า 1,400 นาย
โอกาสนี้ พล.ต.อ.สมยศ ได้กล่าวถึงกรณีผลโพลของสำนักต่างๆ ที่คัดค้านการตั้งกาสิโนในประเทศไทย ว่า ตนไม่สนใจผลโพลที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเปิดบ่อนกาสิโนที่ถูกกฎหมาย เพราะผลสำรวจดังกล่าวมีกลุ่มตัวอย่างเป็นแค่เพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ไม่ใช่การสำรวจความคิดเห็นของคนทั้งประเทศ
" ผมยังยืนยันที่จะจัดทำเว็บไซต์ เพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยมั่นใจว่าจะเข้าถึงประชาชนได้มากกว่าการทำโพล แต่ในส่วนของกลุ่มที่คัดค้าน ก็จะรับฟังความคิดเห็น โดยเชื่อว่าจะมีกลุ่มคนออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง ซึ่งเบื้องหลังเป็นเจ้าของธุรกิจบ่อนพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ที่เสียผลประโยชน์ ที่มีอยู่กว่า 30 แห่ง หากปล่อยให้เงินคนไทยไหลออกไปพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ก็เปรียบเสมือนพระเวสสันดร หลังจากนี้ผมเตรียมที่จะแจกแผนผังแสดงที่ตั้งบ่อนการพนันทุกบ่อน ที่อยู่รอบประเทศไทยให้กับสื่อมวลชน" ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่าตนพร้อมที่จะหารือร่วมกับ 12 สปช.กลุ่มรักชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวความคิด ในการจัดสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งหากทั้ง 12 สปช. ขอให้ตนร่วมลงชื่อสนับสนุน ตนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และในอนาคต หากรัฐบาลต้องการข้อมูลก็พร้อมที่จะเข้าชี้แจงรายละเอียดแนวคิดนี้
ปัดสร้างกระแสเปิดบ่อนกลบข่าวยื้อถอดยศ
เมื่อถามว่าข้อเสนอให้เปิดบ่อนเสรีเพื่อมากลบกระแสข่าวการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย ผมทำทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เรื่องนั้นผมก็ทำอยู่ ทุกอย่างก็เดินอยู่เพียงแต่ผมไม่ได้มาเล่าให้ใครฟัง ยืนยันไม่ได้หยุดนิ่ง แต่บอกแล้วว่าทุกอย่างทุกเรื่องต้องละเอียดรอบคอบ ยึดกฎหมาย เมื่อมีผู้ท้วงติงก็ต้องฟัง แล้วมาชั่งน้ำหนักว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถึงเวลาผมตัดสินใจอย่างไรมันจะมีคำตอบชี้แจงทุกคนได้แน่นอน
สปช.กลุ่มรักชาติเมินโพลค้านกาสิโน
พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานกลุ่มสปช.รักชาติ กล่าวถึงผลโพลของสวนดุสิตโพล และนิด้าโพล ที่ระบุว่า ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนกาสิโน ว่า ยังไม่สามารถวัดผลอะไรได้ เพราะกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจยังน้อยอยู่ ซึ่งทางสปช.กลุ่มรักชาติ ยังจะเดินหน้าผลักดันการตั้งบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายต่อไป แม้จะมีกลุ่มเห็นต่างมากก็ตาม เราถือว่าเป็นความเห็นต่างที่มีความหวังดีต่อประเทศชาติ โดยกำลังพิจารณาว่า จะไปพบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อนำข้อมูลที่เห็นต่าง ไปพิจารณาหาแนวทาง และวางมาตรการป้องกันในเรื่องที่มีความเป็นห่วง เพื่อให้เกิดความสบายใจ ซึ่งในวันที่ 23 มิ.ย. ทาง สปช.กลุ่มรักชาติ จะนัดประชุมกันอีกครั้ง เพื่อนำความเห็นของกลุ่มเห็นต่างมาพูดคุยกัน เพื่อวางมาตรการป้องกันในสิ่งที่มีความเป็นห่วง" พ.ต.อาณันย์ กล่าว
สปช.รักชาติ หารือ ผบ.ตร. ตั้งกาสิโน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้ทำการชี้แจงแสดงแผนผังสถานที่ตั้งบ่อนการพนันโดยรอบประเทศไทยต่อสื่อมวลชน ซึ่งระบุว่า มีบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน และพื้นที่ใกล้เคียงประเทศไทย ทั้งสิ้น 75 แห่ง เมียนมา 14 แห่ง สปป.ลาว 4 แห่ง กัมพูชา 21 แห่ง มาเลเซีย 1 แห่ง สิงคโปร์ 2 แห่ง และมาเก๊า 33 แห่ง เป็นบ่อนในประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทยถึง 40 แห่ง
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า ทางกลุ่มสปช.รักชาติ ทั้ง 12 ท่าน ได้เข้าหารือ และรับฟังแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยตนได้นำผลการวิจัยเกี่ยวกับบ่อนกาสิโนในประเทศที่เคยมีบ่อนมาแล้ว รวมถึงจำนวนบ่อนการพนันโดยรอบประเทศ เพื่อแก้ไขข้อครหาตำรวจรับส่วยบ่อนการพนัน และหวยใต้ดิน ซึ่งไม่อยากให้เงินจำนวนนี้ไหลออกนอกประเทศ และเชื่อว่าเงินจำนวนนี้ จะสามารถนำมาพัฒนาประเทศได้ ขอยืนยันว่าการออกมาแสดงความคิดเห็นของตนในครั้งนี้ เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวั่นไหวต่อผลกระทบกับตำแหน่งหน้าที่ เนื่องจากเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ไม่ผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายอนุญาตให้มีบ่อนกาสิโนได้
"ผมทำผิดตรงไหน แค่เสนอความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าหากท่านนายกฯไม่เอา ก็คือไม่เอา และผมขอย้ำว่า การออกมาหนุนสุดตัวเรื่องนี้ ไม่ใช่การปูทางธุรกิจด้านนี้ หลังเกษียณอายุราชการอย่างแน่นอน" ผบ.ตร. กล่าว
"สมหมาย" หนุนกาสิโนอีกแรง
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ทางคลื่น เอฟเอ็ม 97 เมกะเฮิร์ทซ์ กรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตนเองได้พาตัวแทนบริษัท ซึ่งมีบ่อนกาสิโนอยู่ในมาเก๊า , สิงคโปร์ และลาสเวกัส เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อเร็วๆนี้ ว่า ไม่จริง เรื่องอะไรตนต้องพาตัวแทนกลุ่มนี้ไปพบ ตนไม่รู้จักเขา แต่เมื่อ 3 - 4 ปีที่แล้ว ตนเคยไปพักที่สิงคโปร์ 2 ครั้ง และเล่นหมดเงินไปประมาณ 200 เหรียญสิงคโปร์ กับเพื่อนชาวสิงคโปร์ และตั้งแต่ตนมาเป็นรัฐมนตรี กลุ่มธนาคารต่างๆ ที่จัดประชุม เชิญตน 4 ครั้ง ให้ไปพูดปาถกฐาเรื่องเศรษฐกิจของไทย แต่ตนไม่ได้ไป โดยมอบให้เลขานุการของตนไปแทน
"ประเทศอื่นเขามีวิธีทำเป็นแบบคอมเพล็กซ์ หรือทำเป็นไมซ์ (Meeting Incentive Convention and Exhibition-ตลาดจัดประชุมสัมมนา ) ที่เขามีการจัดประชุมใหญ่ๆทั่วโลก รับคนเพื่อมาประชุม คนไปเล่นการพนันไม่ได้ผิดศีล 5 เพราะศีล 5 ไม่ได้ห้ามเรื่องการพนัน ยกตัวอย่างคนไปชอปปิง คนมีเงินเขาก็ไปพักผ่อน ไปดูของ ซื้อของ แต่ส่วนใหญ่ 80% ไม่ได้ต้องการซื้อของ เขาไประบาย และไปหาความสุข เพราะฉะนั้น การเข้าไปเล่นการพนัน เพื่อไประบาย ไปหาความสุข คนจนๆ ก็ห้ามอย่าให้เขาไปเล่น ตรงนี้มันทำกันได้ เราปล่อยให้คนของเราไปจ่ายเงินที่อื่น เสียมากกว่าได้ ก็ไปปล่อยที่อื่น คนอื่นก็เอาเงินของเราไป แต่ผมไม่เห็นด้วยที่มาเปิดบ่อนกันทั่วทุกหนทุกแห่ง เดี๋ยวก็จะมีข่าวรับโน่นรับนี่ ที่บ่อนกันอีก ผมคิดของผมอย่างนี้" รมว.คลัง กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้ายื่นข้อเสนอขอลงทุนทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่มักกะสัน แสดงว่า น่าพิจารณา นายสมหมาย กล่าวว่า ผมว่ามันคุ้มกว่าที่ศีลธรรมจะเสียหายหรือไม่ ผมว่าคนมีเงินไปเล่น มันจะเสียหายตรงไหน เขาก็ไปเล่นของเขา หากไม่เล่น เขาก็ไปซื้อของ มันเอ็นเตอร์เทน คนมันต้องพักผ่อน เขามีเงิน เขาก็พักผ่อนได้มาก เขาจะเจ๊งก็ช่างเขา เราก็ดูแค่ว่า อย่าปล่อยให้คนรากหญ้า คนจนๆเข้า แถวชายแดนก็ไม่ควรปล่อยให้คนจนๆ ผ่านแดนเข้าไปเล่นการพนัน
สพม.ออกแถลงการณ์ต้านกาสิโน
สภาพัฒนาการเมือง (สพม.) ออกแถลงการณ์ คัดค้านการเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย โดยนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง พร้อมสมาชิกร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ระบุว่า กาสิโน เป็นส่วนของการพนันซึ่งเป็นอบายมุขอันควรหลีกเลี่ยง ไม่สอดคล้องกับแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในทุกศาสนาการพนันถือเป็นอบายมุข เป็นต้นเหตุทำให้เกิดความเสื่อม นำไปสู่ความฉิบหาย สร้างปัญหาทางสังคม ทำให้ภูมิคุ้มกัด้านต่างๆ ของประเทศโดยรวมลดลง เงินหมุนเวียนในกาสิโน ไม่มีคุณค่าต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นเพียงการเปลี่ยนมือของเจ้าของเงิน จากผู้เล่นพนันเสียไปยังผู้เล่นพนันได้ จำนวนเงินรวมเท่าเดิมไม่ได้เพิ่มผลิตผลหรือรายได้ให้แก่ระบบเศรษฐกิจโดยรวม หากเจ้าของกาสิโน เป็นคนต่างชาติ เงินรายได้ฯจะถูกส่งออกไปนอกประเทศ กาสิโนยังอาจถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน ผู้ที่ได้เงินมาโดยทุจริต สามารถใช้กาสิโน เป็นช่องทางในการฟอกเงินได้ หากเจ้าของกาสิโนให้ความร่วมมือ ทำให้การป้องกันปราบปรามการทุจริต เป็นไปได้ยาก ซึ่งประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีศิลปวัฒนธรรม และโบราณสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพากาสิโน อีกทั้งยังจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของชาติ หากเป็นประเทศเดียวในภูมิภาค ที่ไม่มีกาสิโน
ทั้งนี้แถลงการณ์ดังกล่าว ยังได้ยกพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงเห็นโทษของบ่อนเบี้ย ที่มีต่อราษฎร และประเทศ จึงทรงประกาศเลิกบ่อนเบี้ยรัตนโกสินทรศก 124 ดังปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 21 หน้า 875-878 วันที่ 26 กุมพาพันธ์ ร.ศ.123 (พ.ศ) 2447 ที่ว่า
" แม้ว่าจะได้ผลประโยชน์มาใช้จ่ายในราชการแผ่นดินเป็นรายได้อันสำคัญของรัฐบาลประเภทหนึ่งก็จริง แต่ย่อมกระทำให้น้ำใจอาณาประชาราษฎรฝั้นเฝือดำเนินไปในทางต่ำช้า เลวทราม ใช่แต่เปนที่เสื่อมเสียทรัพย์สมบัติของนักเลงผู้เล่นส่วนเดียว ย่อมเปนทางอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่นด้วย และความมัวเมาในการเล่นพนัน ย่อมขัดต่อเวลาที่จะพึงทำการให้เกิดประโยชน์ต่างๆ ด้วย อีกประการหนึ่งการพนันบ่อนเบี้ยในเวลานี้ เงินที่ตกไปในมือนายอากรผู้รับผูกขาดการบ่อนเบี้ยนั้น นายอากรจัดส่งออกไปเสียนอกพระราชอาณาเขตร์เปนอันมาก และการบ่อนเบี้ย ยังเปนการที่นำมาซึ่งโจรกรรม และการอาญาอื่นๆ อีกเล่า ถ้าให้เลิกการตั้งเล่นบ่อนเบี้ยเสีย ก็จะทำให้อาณาประชาราษฎรมีสันดาน และความประพฤติดีขึ้น อย่างหนึ่ง ทำให้การทำหากินเจริญขึ้นอย่างหนึ่ง ใช่แต่เท่านั้น ทรัพย์สมบัติซึ่งในเวลานี้ใช้ในการเล่นเบี้ยอยู่นั้น ก็จะเปนทรัพย์สมบัติที่จะใช้แพร่หลายอยู่ในพระราชอาณาเขตร์ เปนทางให้เกิดความสมบูรณ์ในบ้านเมืองยิ่งขึ้นอีกอย่างหนึ่ง " ขึ้นมาเป็นประกอบการคัดค้าน
ถ้ามีอำนาจ ปลดผบ.ตร.ไปแล้ว
นายธีรภัทร์ กล่าววว่า พระราชดำริร. 5 ดังกล่าว ส่วนหนึ่งสะท้อนว่าถ้าบ่อนเป็นเรื่องดี คงมีการเปิดอย่างถูกกฎหมาย รัชกาล ที่ 5 คงให้เปิดอย่างถูกกฎหมาย และมีมาถึงปัจจุบันไม่ใช่ถูกยกเลิกไป คิดว่าบรรดานักการเมือง สมาชิสภาปฏิรูปแห่งชาติ กลุ่มรักชาติ ที่เสนอให้มีการเปิดกาสิโนอย่างถูกต้อง ข้าราชการประจำ อย่าง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์มุ่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควรน้อมนำใส่เกล้าใส่กระหม่อม ว่าอะไรที่ริ่เริ่มแล้วจะเกิดประโยชน์แก่บ้านเมือง อะไรที่จะทำแล้วเกิดความฉิบหายแก่บ้านเมือง ก็ไม่ควรแม้แต่จะคิดริเริ่ม
"คิดว่าข้าราชการที่มีหน้าที่ในการปราบบ่อนพนัน ไม่ควรออกมาพูดเลย ถ้าผมมีอำนาจอย่าง ท่านประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ) ต้องปลดเลย ข้าราชการแบบนี้ ใช้ไม่ได้ เพราะท่านเป็น ผบ.ตร. กำลังสวมหัวโขน มีหน้าที่ในการปราบบ่อน ไม่ควรที่จะมานำเสนอแบบนี้" นายธีรภัทร์ กล่าว และว่า ผู้ที่สนับสนุนให้มีการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ต้องออกเสนอผลงานทางวิชาการ ว่าข้อดีมีน้ำหนักมากขนาดไหน จึงสนับสนุนให้เปิด เพราะตนเองมองว่า ข้อเสนอที่มีออกมา ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ และก็ไม่รู้ว่านักวิชาการที่นำเสนอผลวิจัยว่าให้เปิดแบบถูกกฎหมายนั้น ตอนทำวิจัย เขาทำอยู่บนสมมุติฐานอะไร ถ้าประเทศที่เจริญแล้ว ประชาชนมีจิตสำนึก เคารพกฎหมาย เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายมีความเคร่งครัดในการในการใช้กฎหมาย การเปิดมันก็อาจจะเป็นผลดี แต่บ้านเราเอาง่ายๆ ประชาชนยังไม่ข้ามถนนทางม้าลาย ขับรถก็ไม่เคารพกฎหมาย ซื้อของไม่เข้าแถว เราห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าผับ บาร์ แต่ในทางปฏิบัติ กฎหมายบ้านเราใช้บังคับไม่ได้จริง คิดว่านักวิชาการที่ศึกษาเรื่องการเปิดกาสิโน คงไม่ได้ศึกษาบริบทแบบนี้ของบ้านเรา ถ้าศึกษา คำตอบคงไม่ออกมาเช่นนี้
" เอาง่ายๆ ทุกวันนี้บ่อนผิดกฎหมาย ปราบปรามได้หมดแล้วหรือยัง ที่พูดว่าทำให้บ่อนถูกกฎหมายเสีย แล้วบ่อนผิดกฎหมายจะหมดไป มันคนละเรื่องเลย ดังนั้นถ้ามีบ่อนถูกกฎหมายขึ้นมา เชื่อว่าจะยิ่งทำให้บ้านเราจมดิ่งไปอีก" นายธีรภัทร์ กล่าว
"มาสเตอร์โพล"ชี้ข้อเสียมากกว่าดี
ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ มาสเตอร์โพล เรื่อง เจาะมุมมองแกนนำชุมชนต่อบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย ศึกษากลุ่มตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,077 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 19-21 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า แกนนำชุมชน ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.0 คิดว่า เป็นเรื่องปกติในสังคมไทย ขณะที่ร้อยละ 31.0 ระบุ ไม่ใช่ โดยร้อยละ 19.6 ระบุ เคยเล่นการพนันในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนร้อยละ 80.4 ระบุ ไม่เคยเล่น
เมื่อถามถึงข้อดีของการเปิดบ่อนกาสิโน ที่จะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นนั้น พบว่าแกนนำชุมชนส่วนใหญ่ร้อยละ 54.2 ระบุเห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 45.8 ระบุไม่เห็นด้วย และร้อยละ 69.5 เห็นด้วยว่า ทำให้ประชาชนมีงานทำ และมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น ส่วนร้อยละ 30.5 ระบุไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 66.6 ระบุเห็นด้วยกับประเด็นที่จะช่วยป้องกันเงินรั่วไหลออกนอกประเทศ ขณะที่ร้อยละ 33.4 ระบุไม่เห็นด้วย และร้อยละ 66.0 เห็นด้วย ว่าการเปิดบ่อนคาสิโนจะช่วยลดจำนวนบ่อนเถื่อน การพนันที่ผิดกฎหมาย ส่วนร้อยละ 34.0 ระบุไม่เห็นด้วย
นอกจากนี้ แกนนำชุมชน ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงข้อดี การเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย คือ จะสามารถควบคุมดูแลได้ง่ายขึ้น ลดการทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ ในการบังคับใช้กฎหมาย เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ มีเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น พื้นที่ที่มีบ่อนกาสิโน จะได้รับการพัฒนาให้มีความเจริญมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงข้อเสียของการเปิดบ่อนกาสิโน พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 51.8 ระบุ จะทำให้ประชาชนหันมาเล่นการพนันมากขึ้น ขณะที่ร้อยละ 48.2 ระบุ ไม่เห็นด้วย สำหรับประเด็นกาสิโน จะกลายเป็นแหล่งฟอกเงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.2 ระบุ เห็นด้วย ในขณะที่ร้อยละ 45.8 ระบุไม่เห็นด้วย
นอกจากนี้แกนนำชุมชนร้อยละ 56.5 ระบุ เห็นด้วยว่า การเปิดบ่อนคาสิโนจะทำให้ปัญหาสังคม อาชญากรรม และยาเสพติดเพิ่มสูงขั้น ขณะที่ ร้อยละ 43.5 ระบุไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น และส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.5 เ ห็นด้วยกับประเด็นว่าเป็นการมอมเมาเยาวชน และร้อยละ 47.5 ระบุ ไม่เห็นด้วย
ทั้งนี้แกนนำชุมชนที่ถูกศึกษาได้ระบุ ความคิดเห็นเพิ่มเติม เกี่ยวกับข้อเสียของการเปิดบ่อนกาสิโน โดยระบุว่า เหมือนเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเล่นการพนัน เกิดปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ควบคุมดูแลและบังคับใช้กฎหมาย ปัญหาผู้มีอิทธิพล ทำลายภาพลักษณ์อันดีของประเทศ ถ้าควบคุมไม่ได้ จะทำให้เกิดผลกระทบที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งปัญหาครอบครัว ปัญหาหนี้สิน รวมถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะผู้วิจัยได้ให้แกนนำชุมชนเปรียบเทียบถึง ข้อดี-ข้อเสีย ของการเปิดบ่อนกาสิโน ปรากฏว่า ร้อยละ 60.9 ระบุคิดว่า มีข้อเสียมากกว่าข้อดี มีเพียงร้อยละ 28.1 คิดว่ามีข้อดีมากกว่า ทั้งนี้ เมื่อถามถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเปิดบ่อนกาสิโน พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 59.9 ระบุ คิดว่ายังไม่พร้อม ร้อยละ 33.3 คิดว่าพร้อมแล้ว และแกนนำชุมชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.4 ระบุ ยอมรับไม่ได้ หากจะมีการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายในพื้นที่จังหวัดของตนเอง เพราะ เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเด็ก และเยาวชน ขณะที่ร้อยละ 37.6 ระบุ ยอมรับได้ โดยให้เหตุผลว่า ถ้ามีหลักการ และระเบียบที่ดีก็ยอมรับได้
เปิดบ่อน-จับเนวิน กลบกระแสถอดยศไม่มิด
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีต รอง ผอ.ศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ชื่อ "พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์" ระบุถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เกี่ยวกับการถอดยศ พ.ต.ททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ดูๆ ไปแล้ว เรื่องถอดยศ เรื่องเปิดบ่อน และ เรื่อง คุณเนวินฯ ถูกจับผิดกฎจราจร มันทำให้ชาวบ้านคิดว่า น่าจะมาจากเรื่องเดียวกันครับ
พล.ท.นันทเดช ระบุว่า เรื่องถอดยศ ผบ.ตร. อาจโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ก็ยังตื๊อที่จะหลบเลี่ยง มันจึงน่าจะมีอะไรสักอย่างที่ทำให้ พล.ต.อ.สมยศ กล้าหาญขนาดนั้น เพราะไอ้ผิดเรื่องละเว้นน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ในฐานะที่เป็นกลไกของรัฐ จะทำให้รัฐบาลเสียหายตามไปด้วยมากทีเดียวครับ ในเรื่องนี้ คนจะพูดกันต่อไปว่า เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้เลย
พล.ท.นันทเดช ระบุต่อว่า ดังนั้นเรื่องการขอเปิดบ่อน และเรื่องที่มีตำรวจ ระดับนายพล ลงไปจับมอเตอร์ไซค์ วิ่งผิดเลนด้วยตัวเอง คงไม่พอจะกลบกระแสเรื่องถอดยศหรอกครับ ต้องหาอีกสัก 2-3 เรื่อง เป็นผมถ้าไม่คิดถอดยศเขาแล้ว จะออกมาชี้แจงตรงๆเลย มันจะได้หมดเรื่องวิพากวิจารณ์ไปเสียที หรือถ้าไม่ถอด ก็อย่าไปทำมาตั้งแต่ต้น ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้คนจะพูดกันไม่รู้จักจบครับ รัฐบาลจะเสียหายตามไปด้วย
ร้องป.ป.ช.เอาผิด "สมยศ" 2กระทง
ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางไปที่สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ เพื่อยื่นหนังสือถึงประธาน ป.ป.ช. ให้ดำเนินการไต่สวนเอาผิด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ใน 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 การออกมาสนับสนุน ส่งเสริมการเปิดกาสิโน เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ
กรณีที่ 2 การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยมีพฤติการณ์ ประวิงเวลา อันเข้าข่ายความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157