ASTVผู้จัดการรายวัน - พีดีเฮ้าส์ ปลื้มยอดขายโค้งสุดท้ายทะลุเป้า เชื่อกำลังซื้อฟื้นต่อเนื่องปี 58 เหตุผู้บริโภคมั่นใจการเมือง-เศรษฐกิจปีแพะ เผยตลาดรวมบ้านสร้างเอง 80 % ตกเป็นของผู้รับเหมารายย่อย ขณะที่บริษัทรับสร้างบ้านแบ่งเค๊กได้เพีย 20% เชื่อโอกาสยังเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัด ด้านปทุมดีไซน์ฯ (ชลบุรี) ขยับเป้ายอดขายปี 58 เพิ่มเป็น 100 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 80 ล้านบาท เผยเปิดฉากต้นปี 58 พีดีเฮ้าส์พร้อมรุกตลาดรับสร้างบ้านทันที ประเดิมงานแรกเข้าร่วมออกบูธในงาน “ไทยแลนด์โฮมบิลเดอร์ แอนด์ แมททีเรียลแฟร์ 2558” จัดโดยสมาคมไทยรับสร้างบ้าน ตั้งเป้าโกยยอดขาย 600 ล้านบาท
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮม เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมที่ผ่านมา มีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการสร้างบ้านเพิ่มมากขึ้น โดยมียอดจองสร้างบ้านจาก 43 สาขาทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่า 390 ล้านบาทเศษ หรือเติบโตเฉลี่ย 21 % เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสสามที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลอดปี 2557 ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮม มียอดขายรวมทั้งสิ้น 1,700 ล้านบาทเศษ แต่ถือว่ายังต่ำกว่าตั้งเป้าที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี จากบรรยากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจตลอดปี 2557 ที่ชะลอตัวต่อเนื่อง บริษัทฯ ถือว่าค่อนข้างพอใจกับยอดขายรวมดังกล่าว และยอดขายที่เติบโตในช่วงท้ายปี 57 ถือเป็นสัญญาณที่ดีและสะท้อนได้ว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เริ่มมีความเชื่อมั่นต่อบรรยากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจในปัจจุบันมากขึ้น ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าวบริษัทฯ คาดว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะยังเติบโตต่อเนื่องจนถึงไตรมาสแรกปีนี้ โดยพิจารณาจากปริมาณผู้สนใจจะสร้างบ้านหลังใหม่ ที่ติดต่อเข้ามายังสาขาของบริษัทฯ ทั้ง 45 สาขาทั่วประเทศในระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 57 มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และพร้อมจะสรุปตัดสินใจในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ปี 2558 นี้ โดยเฉพาะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ ผู้บริหารและข้าราชการะดับสูง ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ซึ่งลูกค้าทั้งหมดรอแค่ให้ผ่านช่วงเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่เสร็จสิ้นก่อน
“สำหรับปี 2558 นี้ แม้ว่าบรรดาผู้ประกอบการในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ต่างกังวลกับทิศทางการเติบโตของภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดปี 2558 นี้ ซึ่งคาดกันว่ากำลังซื้อจะชะลอตัว อันมีปัจจัยมาจากราคาสินค้าเกษตรและรายได้ของคนต่างจังหวัดลดลง รวมทั้งมองว่าปีครึ่งปีแรกเศรษฐกิจน่าจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ในส่วนของตลาดรับรับสร้างบ้านที่เป็นเซ็กเม้นต์หนึ่งของบ้านสร้างเอง และภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ในมุมของบริษัทฯ มองว่า ได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องเพราะปริมาณบ้านสร้างเองประเภทบ้านเดี่ยวพักอาศัยนั้น ยังเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากหรือปีละประมาณ 7-8 หมื่นหน่วยทั่วประเทศ หรือมีมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท โดยเฉพาะความต้องการสร้างบ้านของประชาชนในต่างจังหวัดทีมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน ที่คาดว่าจะสามารถแชร์มาได้ในปี 2558 นี้คิดเป็นมูลค่า 15,000-16,000 ล้านบาท หรือประมาณ 15-20 % เท่านั้น กับแชร์ส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่หรืออีก 75-80 % ของมูลค่าบ้านสร้างเอง ยังคงเป็นของผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป ฉะนั้นโอกาสยังเปิดกว้างอีกมาก สำหรับบริษัทรับสร้างบ้านที่มีพร้อมจะเปิดใหม่หรือขยายสาขาในต่างจังหวัด”
ทางด้าน นายณธีพัฒน์ ถิรพงศ์ฐกร กรรมการบริหาร บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป (ชลบุรี) จำกัด และผู้จัดการศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาชลบุรี-ระยอง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้บริการรับสร้างบ้านเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกที่มีระยะทางห่างออกไปไม่เกิน 100 กิโลเมตร ทั้งนี้ในปี 2557 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายบ้านรวมเกือบ 80 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้ โดยระดับราคาบ้านที่ลูกค้านิยมเลือกปลูกสร้างมากที่สุดคือ กลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท
สำหรับในปี 2558 นี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายบ้านไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าจะเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการสร้างบ้านในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมูลค่าประมาณ 55 ล้านบาท ลูกค้าจังหวัดระยองมูลค่า 35 ล้านบาท และจังหวัดใกล้เคียงอีก 15 ล้านบาท
" ภาพรวมการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านในภาคตะวันออกปีที่ผ่านมา ถือว่ามีการแข่งขันกันน้อยมาก แม้ว่าจะมีบริษัทรับสร้างบ้านที่มีชื่อเสียงจากกรุงเทพฯ ขยายสาขามายังจังหวัดชลบุรีหลายรายก็ตาม แต่จากการศึกษาข้อมูลผู้บริโภคกลุ่ม เป้าหมายพบว่า ผู้บริโภคเองไม่ได้พิจารณาแค่ชื่อเสียงบริษัทเท่านั้น แต่เลือกที่จะได้สัมผัสประสบการณ์กับทีมงาน การให้บริการ และผลงานของบริษัทนั้นๆ เป็นสำคัญก่อนจะตัดสินใจ เรื่องดังกล่าวถือว่าบริษัทฯ มีความชัดเจนและมีความพร้อม ทั้งทีมงานประจำและผลงานที่ผ่านมา รวมทั้งมีแบบบ้านตั้งแต่ระดับราคา 2-20 ล้านบาท ให้ลูกค้าเลือกปลูกสร้างตามงบประมาณ ในขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ ไม่มีทีมงานประจำสาขาแบบครบทีมหรือมีเฉพาะพนักงานขาย หรือบางรายก็รับสร้างเฉพาะบ้านหลังใหญ่ 10-20 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้นและหันมาใช้บริการสร้างบ้านกับบริษัทฯ มากขึ้น ดังนั้นปี 2558 นี้จึงปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว"
นายพิศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างวันที่ 28 มค.-1 กพ. 2558 นี้ บริษัทฯ จะเข้าร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้า “ไทยแลนด์โฮมบิลเดอร์ แอนด์ แมททีเรียลแฟร์ 2558” จัดโดย สมาคมไทยรับสร้างบ้าน ณ ฮอลล์ 3-4 อิมแพคเมืองทองธานี โดยงานนี้บริษัทฯ จองพื้นที่ขนาด 700 ตารางเมตร เพื่อร่วมจัดแสดงบูธของศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮม ซึ่งถือว่าเป็นบูธที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในงานดังกล่าว พร้อมเตรียมขนแบบบ้านกว่า 200 แบบทุกระดับราคาไปให้ผู้บริโภคเลือกปลูกสร้างบ้านได้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีคู่ค้ากลุ่มวัสดุที่บริษัทฯ เลือกใช้เป็นวัสดุมาตรฐานเข้าร่วมออกบูธโชว์วัสดุ อาทิ บ้านโครงสร้างเหล็ก ประตู-หน้าต่างไวนิล พื้นไม้ลามิเนต เครื่องมือพ่น-ฉาบปูน กระเบื้องแกรนิตตกแต่งผนัง วัสดุไม้สังเคราะห์ สุขภัณฑ์ สีทาบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักและได้สัมผัสกับวัสดุจริง โดยงานนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ 600 ล้านบาท.
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮม เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมที่ผ่านมา มีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการสร้างบ้านเพิ่มมากขึ้น โดยมียอดจองสร้างบ้านจาก 43 สาขาทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่า 390 ล้านบาทเศษ หรือเติบโตเฉลี่ย 21 % เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสสามที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลอดปี 2557 ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮม มียอดขายรวมทั้งสิ้น 1,700 ล้านบาทเศษ แต่ถือว่ายังต่ำกว่าตั้งเป้าที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี จากบรรยากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจตลอดปี 2557 ที่ชะลอตัวต่อเนื่อง บริษัทฯ ถือว่าค่อนข้างพอใจกับยอดขายรวมดังกล่าว และยอดขายที่เติบโตในช่วงท้ายปี 57 ถือเป็นสัญญาณที่ดีและสะท้อนได้ว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เริ่มมีความเชื่อมั่นต่อบรรยากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจในปัจจุบันมากขึ้น ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าวบริษัทฯ คาดว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะยังเติบโตต่อเนื่องจนถึงไตรมาสแรกปีนี้ โดยพิจารณาจากปริมาณผู้สนใจจะสร้างบ้านหลังใหม่ ที่ติดต่อเข้ามายังสาขาของบริษัทฯ ทั้ง 45 สาขาทั่วประเทศในระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 57 มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และพร้อมจะสรุปตัดสินใจในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ปี 2558 นี้ โดยเฉพาะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ ผู้บริหารและข้าราชการะดับสูง ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ซึ่งลูกค้าทั้งหมดรอแค่ให้ผ่านช่วงเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่เสร็จสิ้นก่อน
“สำหรับปี 2558 นี้ แม้ว่าบรรดาผู้ประกอบการในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ต่างกังวลกับทิศทางการเติบโตของภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดปี 2558 นี้ ซึ่งคาดกันว่ากำลังซื้อจะชะลอตัว อันมีปัจจัยมาจากราคาสินค้าเกษตรและรายได้ของคนต่างจังหวัดลดลง รวมทั้งมองว่าปีครึ่งปีแรกเศรษฐกิจน่าจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ในส่วนของตลาดรับรับสร้างบ้านที่เป็นเซ็กเม้นต์หนึ่งของบ้านสร้างเอง และภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ในมุมของบริษัทฯ มองว่า ได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องเพราะปริมาณบ้านสร้างเองประเภทบ้านเดี่ยวพักอาศัยนั้น ยังเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากหรือปีละประมาณ 7-8 หมื่นหน่วยทั่วประเทศ หรือมีมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท โดยเฉพาะความต้องการสร้างบ้านของประชาชนในต่างจังหวัดทีมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน ที่คาดว่าจะสามารถแชร์มาได้ในปี 2558 นี้คิดเป็นมูลค่า 15,000-16,000 ล้านบาท หรือประมาณ 15-20 % เท่านั้น กับแชร์ส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่หรืออีก 75-80 % ของมูลค่าบ้านสร้างเอง ยังคงเป็นของผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป ฉะนั้นโอกาสยังเปิดกว้างอีกมาก สำหรับบริษัทรับสร้างบ้านที่มีพร้อมจะเปิดใหม่หรือขยายสาขาในต่างจังหวัด”
ทางด้าน นายณธีพัฒน์ ถิรพงศ์ฐกร กรรมการบริหาร บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป (ชลบุรี) จำกัด และผู้จัดการศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาชลบุรี-ระยอง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้บริการรับสร้างบ้านเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกที่มีระยะทางห่างออกไปไม่เกิน 100 กิโลเมตร ทั้งนี้ในปี 2557 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายบ้านรวมเกือบ 80 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้ โดยระดับราคาบ้านที่ลูกค้านิยมเลือกปลูกสร้างมากที่สุดคือ กลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท
สำหรับในปี 2558 นี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายบ้านไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าจะเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการสร้างบ้านในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมูลค่าประมาณ 55 ล้านบาท ลูกค้าจังหวัดระยองมูลค่า 35 ล้านบาท และจังหวัดใกล้เคียงอีก 15 ล้านบาท
" ภาพรวมการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านในภาคตะวันออกปีที่ผ่านมา ถือว่ามีการแข่งขันกันน้อยมาก แม้ว่าจะมีบริษัทรับสร้างบ้านที่มีชื่อเสียงจากกรุงเทพฯ ขยายสาขามายังจังหวัดชลบุรีหลายรายก็ตาม แต่จากการศึกษาข้อมูลผู้บริโภคกลุ่ม เป้าหมายพบว่า ผู้บริโภคเองไม่ได้พิจารณาแค่ชื่อเสียงบริษัทเท่านั้น แต่เลือกที่จะได้สัมผัสประสบการณ์กับทีมงาน การให้บริการ และผลงานของบริษัทนั้นๆ เป็นสำคัญก่อนจะตัดสินใจ เรื่องดังกล่าวถือว่าบริษัทฯ มีความชัดเจนและมีความพร้อม ทั้งทีมงานประจำและผลงานที่ผ่านมา รวมทั้งมีแบบบ้านตั้งแต่ระดับราคา 2-20 ล้านบาท ให้ลูกค้าเลือกปลูกสร้างตามงบประมาณ ในขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ ไม่มีทีมงานประจำสาขาแบบครบทีมหรือมีเฉพาะพนักงานขาย หรือบางรายก็รับสร้างเฉพาะบ้านหลังใหญ่ 10-20 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้นและหันมาใช้บริการสร้างบ้านกับบริษัทฯ มากขึ้น ดังนั้นปี 2558 นี้จึงปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว"
นายพิศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างวันที่ 28 มค.-1 กพ. 2558 นี้ บริษัทฯ จะเข้าร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้า “ไทยแลนด์โฮมบิลเดอร์ แอนด์ แมททีเรียลแฟร์ 2558” จัดโดย สมาคมไทยรับสร้างบ้าน ณ ฮอลล์ 3-4 อิมแพคเมืองทองธานี โดยงานนี้บริษัทฯ จองพื้นที่ขนาด 700 ตารางเมตร เพื่อร่วมจัดแสดงบูธของศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮม ซึ่งถือว่าเป็นบูธที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในงานดังกล่าว พร้อมเตรียมขนแบบบ้านกว่า 200 แบบทุกระดับราคาไปให้ผู้บริโภคเลือกปลูกสร้างบ้านได้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีคู่ค้ากลุ่มวัสดุที่บริษัทฯ เลือกใช้เป็นวัสดุมาตรฐานเข้าร่วมออกบูธโชว์วัสดุ อาทิ บ้านโครงสร้างเหล็ก ประตู-หน้าต่างไวนิล พื้นไม้ลามิเนต เครื่องมือพ่น-ฉาบปูน กระเบื้องแกรนิตตกแต่งผนัง วัสดุไม้สังเคราะห์ สุขภัณฑ์ สีทาบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักและได้สัมผัสกับวัสดุจริง โดยงานนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ 600 ล้านบาท.