xs
xsm
sm
md
lg

สตช.มีมติไล่ออกก๊วน'บิ๊กกิ๊ก'ปปง.ยึดทรัพย์รอบ3กว่าพันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการลงโทษความผิดวินัยร้ายแรง รับรองผลไล่ออก"พงศ์พัฒน์"และพวกรวม 6 นายแล้ว เตรียมดำเนินการถอดยศตามขั้นตอนต่อไป เลขาปปง.แถลงยึดทรัพย์สินอดีตผบช.ก.กับพวกรอบ 3 กว่า 3,000 รายการ ประมาณ 27,000 ชิ้น มูลค่ารวม1,000 ล้าน ทั้ง ทองคำแท่ง ธนบัตรสกุลต่างๆ วัตถุโบราณและพระเครื่องฯลฯ ซึ่งเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด เข้าข่ายผิดตามกม.ฟอกเงิน และถูกตรวจยึดอายัดให้ตกเป็นของแผ่นดิน

วานนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการลงโทษความผิดวินัยร้ายแรง มีมติเห็นชอบตามความเห็นของ คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ให้ไล่ออก 6 นายตำรวจ ที่การกระทำผิดในคดีของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยคณะกรรมการฯ ยืนยันการลงโทษไล่ออกนายตำรวจทั้ง 6 คน เนื่องจาก ฝ่ายจเรตำรวจ ได้เข้าสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่ากระทำความผิดวินัยจริง ใน 4 คดีอาญา โดยหลังจากคณะกรรมการฯ รับรองผลการลงโทษเรียบร้อยแล้ว จะส่งให้กองวินัยทำคำสั่ง เสนอพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงโทษต่อไป คาดว่า จะเสร็จสิ้นขั้นตอนภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนขั้นตอนการถอดยศเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง โดยเป็นคนละส่วนกับการสอบสวนวินัยร้ายแรง

ปปง.ยึดทรัพย์แก๊ง'บิ๊กกิ๊ก'ล็อต3อีกพันล.

วานนี้(23 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง.พร้อมด้วย พ.ต.ท.หญิง เอมอร ไชยบัวแดง รอง เลขา ปปง. ร่วมแถลงผลการยึดทรัพย์ชุดที่3ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.กับพวก จำนวนกว่า 3,000 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยปปง.ได้นำทรัพย์สินบางส่วนมาแสดง อาทิ เงินบริสุทธิ์เม็ดเล็กๆ น้ำหนัก 120 กก.มูลค่า 1.7 ล้านบาท ทองคำแท่งหนัก 1 กก.หลายแท่ง ทองคำรูปพรรณ สร้อยคอฝังเพชร นาฬิกาหรู ธนบัตรสกุลหลายสกุลเงิน เป็นต้น

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 17/2557 ในวันนี้(23ธ.ค.) ปปง.ได้เสนอเรื่องการตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก ต่อคณะกรรมการธุรกรรม เพื่อพิจารณายึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม โดยทรัพย์สินที่เสนอให้คณะกรรมการธุรกรรมมีมติยึดในครั้งนี้ เป็นทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ได้ทำการอายัดไว้ โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 จำนวนกว่า 3,000 รายการ ประมาณ 27,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยจัดเป็นกลุ่มได้ดังนี้

1. เงินสด เช่น ธนบัตรเงินไทย 3,950,024 บาท ธนบัตรเงินสหรัฐ 57,000 ดอลล่าร์ ธนบัตรเงินยูโร 5,300 ยูโร ธนบัตรเงินอังกฤษ 11,435 ปอนด์ ธนบัตรเงินฮ่องกง 92,540 ดอลล่าร์ ธนบัตรเงินญี่ปุ่น 3,600,000 เยน เป็นต้น

2. ทองรูปพรรณ 3. ภาพวาด และศิลปวัตถุ 4. พระเครื่อง และวัตถุมงคล 5. ของเก่า ของโบราณ เครื่องลายคราม และเบญจรงค์ 6. อัญมณีและเครื่องประดับ 7. เครื่องเฟอร์นิเจอร์ไม้ 8. วัตถุโบราณ 9. รถยนต์ 10. ทรัพย์สินอื่นๆ

“ทรัพย์สินดังกล่าว ตรวจยึดได้จากบ้านพัก อาคารชุด หรือคอนโดมิเนียมและห้องนิรภัยในอาคารพาณิชย์ ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ และนางปิยพรรณ ชินนะประภา น้องสาวพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดมูลฐาน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินดังกล่าว

โดยเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งผิดวิสัยของผู้ประกอบอาชีพเป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนไม่มากนัก ประกอบกับทรัพย์สินดังกล่าวได้มาในช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่ราชการและมีพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ซึ่งทรัพย์สินจำนวนกว่า 3,000 รายการ ประมาณ 27,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก และผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ เชื่อว่าได้มาโดยมิชอบในระหว่างอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีจำนวนผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นแต่ละครั้งเกินกว่าหนึ่งร้อยคน หรือมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมูลค่าเกินกว่าสิบล้านบาทขึ้นไปเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเนื่องมาจากการกระทำความผิดมูลฐานตามมาตรา 3(5)(9) และเป็นความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542” พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า ทรัพย์สินที่ยึดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าไม่เสื่อมมูลค่า และมูลค่าเพิ่มในอนาคต อาทิ ทองคำ เงิน เครื่องเพชรเหรียญกษาปณ์โบราณและ เครื่องประดับต่างๆ จะตกเป็นของแผ่นดินโดยจะ เก็บไว้ในพิพิธพันธ์ และในที่ปลอดภัยความมั่นคงสูง
ส่วนอีกประเภทเป็นทรัพย์สินที่ยึดมาแล้ว สามารถเสื่อมคุณค่าและราคาและไม่มีประโยชน์ในการเก็บรักาไว้ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ถ้วยชามเบญจรงค์ เป็นต้น โดยจะประเมินทรัพย์สินช่วงเดือน ม.ค.58 นี้ พร้อมประกาศขายทอดตลาดในเดือน ก.พ.58

สำหรับวัตถุโบราณที่มีการตรวจอายัดไว้นั้นทางกรมศิลปากรจะทำการเก็บรักษาไว้ หลังจากนี้ ปปง.จะติดตามทรัพย์สินและสมบัติของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์กับพวกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น