'หลวงปู่'ติงทีมสรรหาฯพลังงาน เรียกแขกต้านคสช. ปปช.ส่ง"วิชา"ร่วมสภาปฏิรูป

"หลวงปู่พุทธะอิสระ" ห่วงภาพลักษณ์ "คสช.-ประยุทธ์" หลังเปิดรายชื่อคณะกรรมการสรรหา สปช. ชี้เป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายต้านเล่นงานได้ โดยเฉพาะ กก.สรรหาด้านพลังงาน ที่ล้วนมีความสัมพันธ์กับบริษัทพลังงงานที่มีปัญหา เตือน คสช. สร้างปัญหาให้ตัวเอง ระวังจะเกิดการลุกฮือต้าน ด้านกกต.เปิดรับการการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาวันแรก 72 คน ไร้วี่แววตัวแทนพรรคการเมืองใหญ่ ป.ป.ช.ส่ง "วิชา-สรรเสริญ" ขณะที่สมาคมนักข่าวฯเสนอชื่อ "ประดิษฐ์-ดร.สุรศักดิ์" เข้าชิง

วานนี้ (14 ส.ค.) หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) แสดงความเป็นห่วงภาพลักษณ์ของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคสช. หลังจากมีการประกาศรายชื่อ คณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สปช.) โดยใช้หัวข้อว่า"หรือว่าประเทศไทยจักไร้คนเก่ง คนดี"

ทั้งนี้ หลวงปู่พุทธะอิสระ โพสต์ข้อความว่า " เห็นรายชื่อกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในแต่ละด้านของคสช.แล้ว ทำให้สังคมมีการวิตกวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าเป็นคนที่คสช.ไว้วางใจ บ้างก็ว่าเป็นพวกพ้องของสมาชิกคสช. บ้างก็ว่าป็นผู้ชำนาญการเฉพาะด้านที่เหมาะแก่หน้าที่ บ้างก็ว่าเป็นการให้ต่างตอบแทนผู้ที่สนับสนุนคสช. บ้างก็ว่าเป็นผู้อวยประโยชน์ รักษาประโยชน์ให้แก่คสช.

ไม่ว่าจะเป็นมุมใด มันก็ดูไม่ดีสำหรับภาพลักษณ์ของคสช.โดยรวม จะเป็นจุดอ่อน จุดบอดให้คนทั้งพวกรัฐบาลเก่า ทั้งฝ่ายการเมืองและภาคประชาชน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหายได้ โดยเฉพาะคณะกรรมการสรรหาด้านพลังงาน ซึ่งรายชื่อของ คณะกรรมการสรรหาแต่ละคนล้วนแต่มีปฏิสัมพันธ์อันดีกับ บริษัทพลังงานที่มีปัญหา ที่สังคมสงสัยว่าเอาเปรียบสังคมมาตลอดเวลา และด้วยรายชื่อของบุคคลที่สังคมสงสัยในด้านพลังงานนี้แหละ อาจจะทำให้กระแสการต่อต้านลุกโชนขึ้น

ทั้งที่ปัจจุบันนี้ มิใช่ว่าจะไม่มีการต่อต้าน มี แต่มุดอยู่ใต้ดิน แต่ถ้าคสช.ยังทำอะไรที่ย่ำยีหัวใจนักสู้ที่เสียสละเพื่อบ้านเมือง ยอมแม้กระทั่งให้ชีวิต ทั้งที่วันนี้ยังไม่มีการเยียวยาช่วยเหลือใดๆ จากคสช.เลย แต่กลับมาซ้ำเติมเขา ด้วยการตั้งคนที่เขาสงสัยว่าเคยมีส่วนได้ส่วนเสียเรื่องพลังงาน มาเป็นกรรมการเลือกสรร หรือ ว่าประเทศไทยจะไร้ซึ่งคนเก่ง คนดีเสียแล้ว

ฉันละห่วงคุณจริงๆ คุณประยุทธ์ ห่วงคณะคสช. ที่จะทำการไม่บรรลุวัตถุประสงค์ จะมีอุปสรรคเสียก่อน อย่าลืมว่าอุปสรรคทั้งหลาย มิใช่ประชาชนสร้างให้ ดูตัวอย่างรัฐบาลคุณปู ที่การบริหารบ้านเมืองเขามีอุปสรรค ไม่ใช่ประชาชนสร้างให้ แต่เป็นเพราะรัฐบาลคุณปู ไม่ฟังเสียงประชาชน ไม่รับรู้ถึงความทุกข์ยาก เดือดร้อนของประชาชน สุดท้ายรัฐบาลปูจึงอยู่ไม่ได้ ยังไงๆ ฉันยังหวังว่ารัฐบาลคสช.จะทำการปฏิรูปบ้านเมืองนี้ให้สำเร็จ สมกับที่ประชาชนคนทั้งชาติมุ่งหวังและเฝ้ารอคอย"

** กกต.เปิดรับการเสนอชื่อวันแรก

เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้ (14ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งใช้เป็นสถานที่เปิดรับการเสนอชื่อสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ระหว่างวันที่ 14 ส.ค.-2 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ของทุกวัน โดยในวันแรกนี้ เจ้าหน้าที่กกต.ได้เดินทางมาเตรียมความพร้อมกันตั้งแต่เช้า แต่ไม่พบว่ามีบุคคลจากองค์กรนิติบุคคลใดมารอก่อนเวลา โดยนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม ซึ่งได้มาตรวจความพร้อมในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กล่าวว่า ทางสำนักงาน กกต. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของ คณะกรรมการสรรหาสปช. พร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้กระบวนการขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาทั้ง 11 ด้าน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสำนักงาน กกต.จะมีการหารือร่วมกันในวันที่ 20 ส.ค. เพื่อพิจารณาว่า จะเสนอกกต.คนใดเข้ารับการสรรหา เป็นสปช. ส่วนตัวมองว่า กกต.ทั้ง 5 คน มีคุณสมบัติเหมาะสมทุกคน หรืออาจเป็นอดีตกกต. ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะเห็นชอบบุคคลใด แต่เห็นว่ายังไม่ใช่เรื่องรีบร้อน ขอทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ ให้เต็มที่ก่อน

นายบุญเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การเปิดรับการเสนอชื่อนั้นนอกจากองค์กรนิติบุคคลจะเข้ามายื่นเรื่องต่อกกต.แล้ว ยังสามารถส่งเป็นไปรษณีย์ด่วน จ่าหน้าซองมายังสำนักงานกกต.ได้ แต่ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งสำนักงาน กกต.จะตรวจสอบจากวันที่ประทับตราหน้าซอง ซึ่งช่วงเวลาการสรรหานั้น จะแบ่งเป็นการเปิดรับเสนอรายชื่อ 20 วัน ตรวจสอบคุณสมบัติ 10 วัน และเมื่อตรวจสอบเสร็จสิ้นสำนักงาน กกต. ก็จะส่งรายชื่อให้คณะกรรมการสรรหา สปช. ที่ คสช. เพิ่งแต่งตั้งให้คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมอย่างน้อยด้านละ 50 คน เพื่อนำไปรวมกับการสรรหาในระดับจังหวัด จังหวัดละ 5 คน ใช้เวลา 10 วัน ซึ่งได้รับรายงานมาว่า บางจังหวัดได้เริ่มประชุมเพื่อสรรหาบุคคลที่เหมาะสมแล้ว

จากนั้นคสช.พิจารณาคัดเลือกสมาชิกทั้งหมดไม่เกิน 250 คน ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้ง ใช้เวลา 10 วัน โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการสรรหาทั้งหมด 50 วัน

**คนดังแห่เสนอตัวเข้ารับการสรรหา

ต่อมาเวลา 08.30 น. สำนักงานกกต.ได้เปิดให้องค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงกำไร เสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. โดย พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายื่นเอกสารเข้ารับการสรรหาเป็นคนแรก ซึ่ง พ.ต.อาณันย์ เป็นตัวแทนของมูลนิธิคนไทยรักษ์แผ่นดิน ที่เสนอชื่อเข้ามาในด้านการปกครองท้องถิ่น โดย พ.ต.อาณันย์ ระบุว่า มาในฐานะตัวแทนมูลนิธิคนไทยรักษ์แผ่นดิน ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ พรรคเพื่อไทย เพราะตนได้ลาออกจากพรรค เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุผลที่เข้ารับการสรรหาเป็นสปช. เพราะต้องการมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศ

ด้านนางลีน่า จังจรรจา หัวหน้าพรรคมหาประชาชน ได้เดินทางมาเสนอชื่อตนเองเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยนางลีน่า กล่าวว่า ต้องการเข้ามาเป็นสปช. เพราะตั้งแต่ที่มีการยึดอำนาจ และคสช.ปิดสถานีโทรทัศน์ของตน ทำให้ไม่มีรายได้ จึงเข้ามาเป็นสปช.เพื่อให้มีเงินเดือนไปใช้หนี้ และเชื่อว่าตนมีความรู้ความสามารถที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า โดยบรรยาาศในการเสนอชื่อ สปช.เป็นไปอย่างคึกคัก ต่างมีตัวแทนองค์กรนิติบุคคลทยอยเดินทางเข้ามาโดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียง อาทิ มูลนิธิเพื่อคุณธรรม เสนอชื่อนายบรรจง โซะมณี ในด้านการศึกษา มหาวิทยาลัยปทุมธานี เสนอชื่อนายศิวาวิทย์ สำเร็จผล อดีตที่ปรึกษากมธ.กิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ในด้านสังคม พรรคชาติประชาธิปไตยก้าวหน้า เสนอชื่อ นายวิชิต ดิษฐประสพ หัวหน้าพรรค ในด้านการเมือง และมูลนิธิเก่งกาจโหราศาสตร์ เสนอชื่อนายเก่งกาจ จงใจพระ นักโหราศาสตร์ชื่อดัง ในด้านสาธารณะสุขและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็มีองค์กรนิติบุคคลหลายแห่งที่เดินทางมาขอเอกสารไปพิจารณาด้วย

** ยื่นรับการสรรหาวันแรก 72 คน

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงผลการเปิดรับการเสนอชื่อเป็น สปช. ในวันแรกว่า ข้อมูลณ.เวลา 17.00 น. พบว่ามีองค์กรนิติบุคคล เสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ครบทั้ง 11 ด้าน รวมทั้งสิ้น 29 คน แบ่งเป็นด้านการเมือง 5 คน ด้านบริหารราชการแผ่นดิน 2 คน ด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม 2 คน ด้านการปกครองท้องถิ่น 2 คน ด้านการศึกษา 1คน ด้านเศรษฐกิจ 1 คน ด้านพลังงาน 1 คน ด้านสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม 1 คน ด้านสื่อสารมวลชน 2 คน ด้านสังคม 7 คน และด้านอื่น 5 คน

ส่วนในระดับจังหวัด มี 14 จังหวัด ที่คณะกรรมการสรรหาเปิดโอกาสให้บุคคลยื่นแสดงความจำนง เพื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหาเป็น สปช. และมีผู้เข้ายื่นเอกสารหลักฐานขอเข้ารับการสรรหา รวม 43 คน ประกอบด้วย กำแพงเพชร 3 คน จันทบุรี 2 คน ชัยนาท 2 คน ชัยภูมิ 1 คน เชียงราย 3 คน นครปฐม 2 คน นครสวรรค์ 7 คน พังงา 6 คน พิจิตร 1 คน เพชรบูรณ์ 1 คน มหาสารคาม 4 คน มุกดาหาร 2 คน ระนอง 2 คน สมุทรสงคราม 1 คน และหนองบัวลำภู 6 คน

ดังนั้นเมื่อรวมการยื่นแสดงความจำนงเข้ารับการสรรหาทั้งส่วนกลางและภูมิภาคมีทั้งสิ้น 72 คน ซึ่งหลังจากนี้ กกต.จะทยอยส่งรายชื่อไปยัง 15 หน่วยงาน ให้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติ และแจ้งไปยังคณะกรรมการสรรหาในแต่ละด้าน

นายภุชงค์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการคัดเลือกบุคคลเป็นสปช. ของคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดนั้น กฎหมายเปิดกว้างให้คณะกรรมการสรรหา สามารถใช้วิธีการได้หลายวิธี เพื่อให้ได้บุคคลที่มีความเหมาะสมทั้งการเปิดรับการเสนอชื่อ และการทาบทาม โดยแต่ละจังหวัดเป็นอิสระต่อกัน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาคัดเลือก คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ก็อาจจะเลือกบุคคลที่ไปแจ้งความจำนง หรือบุคคลที่คณะกรรมการสรรหาไปทาบทามมาเองก็ได้ เพราะไม่ได้มีการกำหนดวิธีการสรรหาระดับจังหวัดไว้เป็นรูปแบบตายตัว แต่ทั้งหมดคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดต้องคัดเลือกมา 5 คน เพื่อเสนอให้ คสช. พิจารณาคัดเลือกให้เหลือ1 คน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดได้มีการปรชุมพิจารณาคัดเลือกกรรมการคนหนึ่ง ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการสรรหาแล้ว 46 จังหวัดใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น 40 จังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน อีก 3 จังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเป็นประธาน และอีก 3 จังหวัด ให้ประธาน กกต.จังหวัด เป็นประธาน ส่วนอีก 31 จังหวัด คาดว่าจะมีการประชุมเพื่อคัดเลือกประธานคณะกรรมการสรรหาในเร็ว ๆ นี้

สำหรับคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน จากการที่เลขานุการคณะกรรมการสรรหาได้มีการประสานไปทั้งหมดแล้ว ส่วนใหญ่ คณะกรรมการสรรหา แต่ละชุดขอหารือกันเป็นการภายในก่อน แล้วจึงจะแจ้งฝ่ายเลขานุการให้ทราบว่า จะมีการนัดประชุมเป็นทางการเมื่อใด คาดว่าจะไม่เกินภายใน 1-2 วันนี้

**ไร้เงาตัวแทนพรรคการเมืองใหญ่

นายภุชงค์ ยังกล่าวด้วยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ว่าจะเสนอบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. ซึ่งก็คิดว่าเมื่อคสช.เปิดกว้างให้พรรคการเมืองทุกพรรคได้มีส่วนเข้ามาช่วยปฏิรูปแล้ว แต่หากพรรคการเมืองไม่ประสงค์ ก็ไม่เป็นไร ถือเป็นดุลยพินิจการตัดสินใจของพรรคการเมืองนั้นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีพรรคการเมืองขนาดเล็กและขนาดกลาง ให้ความสนใจเข้าร่วมเสนอบุคคลเข้ารับการสรรหาแล้วจำนวน 5 พรรคการเมือง

"ผลการเปิดรับการเสนอชื่อวันนื้ถือว่าน่าพอใจ เพราะเดิมคิดว่าจะมีแค่มาขอเอกสารไปดู หรือมีผู้ยื่นความจำนงไม่เกิน 20 ราย แต่นี่ทั้งประเทศมีถึง 72 ราย ปัญหาอุปสรรคก็ยังไม่พบ แต่ผมยังคิดว่าช่วง 5 วันสุดท้าย ก่อนปิดรับการเสนอชื่อ จะมีผู้ให้ความสนใจมาก"

**เปิดรายชื่อผู้รับการสรรหาวันแรก

สำหรับรายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. วันแรก 11 คณะ มีดังนี้

1. ด้านการเมือง นายวิชิต ดิษฐประสพ พรรคชาติประชาธิปไตยก้าวหน้า นายนราวิชญ์ ชะยะ พรรคไทยรักธรรม
นายทวีศักดิ์ อิ่มจิตต์ สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ครูจังหวัดปราจีนบุรี นายสุรทิน พิจารณ์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ นายพูลเดช กรรณิการ์ พรรคเพื่ออนาคต

2. ด้านบริหารราชการแผ่นดิน นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ มูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามเพื่อการศึกษาและพัฒนา
นายประมวล รุจนเสรี มูลนิธิพ่อค้าไทย

3. ด้านกฎหมาย และกระบวนกายยุติธรรม นางลีนา จังจรรจา พรรคมหาประชาชน นายวัส ติงสมิตร สมาคมสถาบันคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค

4. ด้านการปกครองท้องถิ่น พ.ต.อาณันย์ วัชรโรทัย มูลนิธิไทยรักแผ่นดิน นายสรณะ เทพเนาว์ สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย

5. ด้านการศึกษา นายบรรจง โซ๊ะมณี มูลนิธิเพื่อคุณธรรม

6. ด้านเศรษฐกิจ นายปรีดา เตียสุวรรณ์ มูลนิธิเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

7. ด้านพลังงาน นายวชิระ เปล่งปลั่ง มูลนิธิสถาบันโลจิสติกส์แห่งเอเชีย

8. ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม นายเก่งกาจ จงใจพระ มูลนิธิเก่งกาจโหราศาสตร์

9.ด้านสื่อมวลชน นายคิด จันภากุล สมาคมสื่อสารมวลชนจังหวัดยโสธร นางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด มูลนิธิสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชาย และการพัฒนา

10. ด้านสังคม นายชัญปรวิชญ์ อิ่มใจ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า นางสุภาวดี บางใหญ่เทะมะ สมาคมพลังแผ่นดินต้านภัย
นางพิมพ์ษิริ ดุรงศ์ฤทธิ์ชัย มูลนิธิสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านสระบุรี นายวิสิทธิ์ ช่วยดู องค์การบริหารส่วนตำบลโนนดินแดง นายณัฐกฤตย์ แก้วโสวัฒนะ พรรคเพื่ออนาคต นายพิมาน บินตำมะหงง มูลนิธิอิสลามศาสนูปถัมภ์ นายเสกสรร ประเสริฐ มูลนิธิเบาะแส

11. ด้านอื่นๆ นายยงยุทธ หมอยาดี วัดร้อยไร่ นายสนธยา กาวิใจ พรรคไทยรักธรรม นายนิรันดร์ นันทรกิจ มูลินิธิมัจลิซุดีนี ว่าที่ พ.ต.อาชร์ โครงกาพย์ สมาคมสถาบันคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค นายสมมาต ขุนเศษฐ สมาคมนายจ้างประกอบการเครื่องนุ่งห่มแห่งประเทศไทย

**ป.ป.ช.มีมติส่ง"วิชา-สรรเสริญ"

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะนิติบุคคลที่ไม่ได้แสวงหากำไร ได้พิจารณารายชื่อบุคคลที่เหมาะสมที่จะเสนอเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิก สปช. จำนวน 2 คน ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติให้เสนอชื่อ นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิก สปช. ในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และ เสนอชื่อ นายสรรเสริญ พลเจียก เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสปช. ในด้านการเมือง

** ส.นักข่าวฯส่ง"ประดิษฐ์-ดร.สุรศักดิ์"

วานนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีมติส่ง นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ผู้สื่อข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และ ดร.สุรศักดิ์ จิรวัสตร์มงคล อุปนายกฝ่ายวิชาการ บรรณาธิการข่าวการค้า-อุตสาหกรรม หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน เข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ในนามสมาคมฯ และส่ง นายสมหมาย ปาริจฉัตต์ อดีตนายกสมาคมฯ ซึ่งเป็นรองประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และ นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เข้ารับการสรรหาเป็นสปช. ในนามมูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ นายมานิจ สุขสมจิตร อดีตนายกสมาคมนักข่าวฯ ที่ก่อนหน้านี้ มีชื่อเป็นตัวแทนเข้ารับการสรรหาในนามสมาคมนักข่าวฯ แต่ได้รับการเสนอชื่อจาก สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้ว จึงถอนตัวจากการเสนอชื่อในนามสมาคมนักข่าวฯ