xs
xsm
sm
md
lg

ตจว.เลือกตั้งเงียบเหงา ป่วนวางบึ้ม-ยิงขู่แกนนำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เลือกตั้งเหนือ-อีสาน-กลางเงียบเหงา ไม่มีเข้าคิวรอกาบัตร "ขวัญชัย"หอบสังขารเข้าคูหา อ้างรักษา ปชต.เพื่อลูกหลาน ส่วนภาคใต้เป็นไปตามคาด เมืองคอนลงคะแนนได้แค่ 4 เขต พัทลุงเปิดหีบ 2 อำเภอ 68 หน่วย "นราธิวาส-ปัตตานี" ฉลุย ส่วน "ยะลา" ปิด 16 หน่วย แถมหวิดมีปะทะ ด้านเหตุระทึกมีทั้งยิงบ้านแกนนำ กปปส.ตราด ถล่มขวนรถ กปปส.บ้านโป่ง วางระเบิดที่ชลบุรี ปาทีเอ็นทีหน้าโรงแรมแกนนำแดงเชียงใหม่

วานนี้ (2 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ท่ามกลางความขัดแย้งทางความคิด ระหว่างคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่ต้องการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง กับรัฐบาลและผู้สนับสนุน ที่ต้องการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปนั้น

เหนือ-อีสาน-กลางเงียบเหงาตามคาด

ปรากฎว่าบรรยากาศการเลือกตั้งในภาคเหนือ ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่มีการเข้าคิวรอตรวจสอบรายชื่อและรับบัตรเข้าคูหา ผิดกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาแทบทุกจังหวัด บางจังหวัดต้องแจกรางวัลล่อใจ เช่น จ.ลำพูน ที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงที่สุดของประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้รางวัลหมู่บ้านที่มีผู้ใช้สิทธิมากที่สุดในระดับอำเภอ 50,000 บาท ระดับตำบล 25,000 บาท และระดับหมู่บ้าน 10,000 บาท พร้อมโล่และเสื้อสามารถ

หรือที่ จ.แพร่ เขต 3 หน่วยเลือกตั้งที่ 15 ต.แม่พุง อ.วังชิ้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 504 คน มาใช้สิทธิเพียง 97 คน ซึ่งนายเกียรติ คำน้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 กล่าวว่า สื่อของรัฐพยายามปกปิดข้อมูล แต่ชาวบ้านรับได้จากสื่อทางเลือก และยังต้องเผชิญกับปัญหาโครงการของรัฐ เช่น จำนำข้าว และข้าวโพด ทำให้ผลไม่เป็นไปตามที่ไว้ ซึ่งหน่วยอื่นก็ใกล้เคียงกัน

จ.บุรีรัมย์ หน่วยเลือกตั้งที่ 5 เขต 1 ผู้มีสิทธิ 353 คน มาใช้สิทธิ 98 คน และส่วนใหญ่กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ส่วนที่จ.นครราชสีมา หน่วยเลือกตั้งที่ 127 เขต 1 ผู้มีสิทธิ 875 คน มาใช้สิทธิ 351 คน ทั้ง 2 หน่วยแทบไม่มีประชาชนมาดูการนับคะแนนเช่นกัน ซึ่งไม่ต่างจากหน่วยเลือกตั้งอื่นๆ

จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 628,139 คน มาใช้สิทธิ 319,569 คน หรือร้อยละ 50.88 จ.อ่างทอง ผู้มีสิทธิ 222,516 คน มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 129,688 คน หรือร้อยละ 58.28

"ขวัญชัย" หอบสังขารขึ้นรถ รพ.ใช้สิทธิ

ด้านนายขวัญชัย สาราคำ ประธานชมรมคนรักอุดร เดินทางมาด้วยรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกอุดร โดยมีตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยที่ เพื่อใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้ง 16 ศาลาประชาคมบ้านโนนสะอาด เขต 2 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยกล่าวว่า ในฐานะคนไทยต้องรักษาสิทธิของตนเอง เราทำตามระบอบประชาธิปไตย แต่ทำไมมีกลุ่มคนขัดขวาง อ้างแต่การปฏิรูปประเทศไทย ทุกอย่างต้องผ่าน 1 สิทธิ 1 เสียงของประชาชน จึงขอฝากประชาชนอย่าท้อกับระบอบประชาธิปไตย แม้จะได้มาด้วยความยากลำบาก แต่ต้องรักษาเอาไว้เพื่อลูกหลานในวันข้างหน้า

ผู้สมัครภูเก็ตแจ้งจับ กกต.ละเว้นหน้าที่

ขณะที่ภาคใต้มีปัญหามวลชน กปปส.ปิดล้อมศูนย์ไปรษณีย์ 3 แห่ง จนไม่สามารถกระจายบัตรเลือกตั้งไปยังหน่วยเลือกตั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้ได้นั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จังหวัดชุมพร จึงประกาศงดการลงคะแนนทั้ง 3 เขต เช่นเดียวกับกกต.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศงดการเลือกตั้งทั้ง 6 เขต ตามมาด้วย กกต.จังหวัดภูเก็ต งดลงคะแนนทั้ง 2 เขต หลังจากบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ อยู่ที่ศูนย์ไปรษณีย์ชุมพร และบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบ่งเขต เขต 2 ถูก กปปส.ภูเก็ตปิดล้อม สภ.ถลาง สถานที่เก็บบัตร โดยกกต.ภูเก็ตได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานไว้แล้ว ซึ่งต้องรอกกต.กลาง ว่าจะให้ดำเนินคดีหรือไม่

ต่อมา นายทรงศิริ ไกรเลิศ ผู้สมัครเลือกตั้งบัญชีรายชื่อ หมายเลข 40 พรรคพัฒนาคุณภาพชีวิต เข้าแจ้งความที่สภ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีกับ กกต.ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 และดำเนินคดีกับกลุ่มกปปส.ภูเก็ต ข้อหาขัดขวางการเลือกตั้ง ตามกฎหมายมาตรา 112

ด้าน กกต.จังหวัดพังงา ประกาศงดการเลือกตั้งทั้ง 369 หน่วย เนื่องจากไม่มีบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ คณะอนุกรรมการ กกต.ระดับอำเภอได้รับบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและอุปกรณ์เพียงบางส่วน ส่วนจ.ระนอง ทุกหน่วยไม่มีเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์การเลือกตั้ง

เวลา 08.30 น. นายนพพร อุสิทธิ์ แกนนำกปปส.ชุมพร เป็นตัวแทนกปปส.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา และภูเก็ต มอบกุญแจห้องให้กับนายสมบัติ นุภักดิ์ หัวหน้าศูนย์ไปรษณีย์ชุมพร พร้อมประกาศชัยชนะที่ล้มการเลือกตั้ง 5 จังหวัดได้สำเร็จ

เมืองคอนเปิดได้ 4เขต-บัตรโผล่ทุ่งใหญ่

ส่วนที่ศูนย์ไปรษณีย์ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ที่กลุ่มกปปส.ยังปักหลักเฝ้าระวังบัตรเลือกตั้ง ทำให้จ.นครศรีธรรมราช เปิดลงคะแนนได้ 4 เขต คือ เขต 1 , 5 , 6 และ 9 ซึ่งเป็นการลงคะแนนแบบแบ่งเขต ปิดการลงคะแนน 5 เขต คือ เขต 2 , 3 , 4 , 7 และ 8 อย่างไรก็ตามเขต 6 ถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะมีนายอารีย์ ไกรนรา ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย โดยตั้งแต่ช่วงกลางคืนกปปส.ทุ่งใหญ่ ได้ปิดล้อมหน้าศาลาประชาคมอำเภอทุ่งใหญ่ ซึ่งเป็นที่เก็บหีบบัตรและบัตรเลือกตั้งอ.ทุ่งใหญ่ บางขัน ถ้ำพรรณรา นาบอน และฉวาง

แต่ช่วงเวลา 03.00 น.มีรถของตำรวจของสภ.ทุ่งใหญ่ ขนถุงพลาสติกใสหลายถุง ส่งให้ตามหน่วยเลือกตั้ง ต่อมาเวลา 08.00 น. เปิดหีบเลือกตั้งหน่วยที่ 1 ในโรงเรียนวัดท่ายาง และหน่วยที่ 2 ในศาลาการเปรียญวัดท่ายาง ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร มีประชาชนทยอยมาลงคะแนน ทำให้มีข้อสังเกตว่าเนำบัตรเลือกตั้งมาจากที่ใด

3จว.ชายแดนใต้ฉลุยเปิดได้เกือบครบ

ส่วนที่ศูนย์ไปรษณีย์หาดใหญ่ จ.สงขลา กปปส. 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปักหลักชุมนุมห้ามเคลื่อนย้ายบัตรเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อของจ.สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่งผลให้กกต.ทั้ง 8 เขตของจ.สงขลา ประกาศงดการลงคะแนน ขณะที่กกต.จังหวัดสตูล ประกาศงดการเลือกตั้งใน อ.เมือง อ.ละงู อ.มะนัง อ.ทุ่งหว้า และอ.ควนกาหลง เนื่องจากมวลชน กปปส.ปิดล้อมอำเภอ แต่ยังจัดการเลือกตั้งได้ในอ.ท่าแพ 35 หน่วย และอ.ควนโดน 33 หน่วย ซึ่งเลือกตั้งเฉพาะส.ส.แบ่งเขต

ส่วนกกต.จังหวัดนราธิวาส ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองดูแลหน่วยเลือกตั้ง 3 เขต รวม 915 หน่วย โดยมีทหารดูแลความปลอดภัยเส้นทาง หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดและซุ่มยิงคณะเจ้าหน้าที่ ที่บ้านปลักใหญ่ หมู่ 9 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้นายจักรตรา พรหมแก้ว ปลัดอำเภอโคกโพธิ์ พร้อมทหารอีก 3 นายเสียชีวิต

จ.ปัตตานี ผู้อำนวยการหน่วยเลือกตั้งที่ 3 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ ต้องงดการลงคะแนน เนื่องจาก มี กปปส.ประมาณ 200 คนมาปิดล้อม อีกทั้งยังมีเหตุเผายางรถยนต์ตามเส้นทาง ส่วนหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ต.โคกโพธิ์ ที่นายจักรตราเป็นผู้อำนวยการหน่วย แต่เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบได้แต่งตั้งคนทำหน้าที่แทน

"ยะลา"ยกเลิก16หน่วย-2ฝ่ายหวิดปะทะ

ด้าน กกต.จังหวัดยะลา ยกเลิกการลงคะแนน 16 หน่วย ประกอบด้วย อ.เมือง หน่วยที่ 1 , 2 , 7 , 8 ต.ยุโป หน่วยเลือกตั้งที่ 1 ต.ตาเซ๊ะ หน่วยเลือกตั้งที่ 1-7 ต.ลำพะยา อ.กาบัง 1 หน่วย คือ หน่วยเลือกตั้งที่ 5 ต.บาละ อ.ธารโต 3 หน่วย คือ หน่วยเลือกตั้งที่ 1 , 4 , 13 ต.แม่หวาด

อย่างไรก็ตาม แม้ตลอดวันจะไม่มีเหตุรุนแรงตามหน่วยเลือกตั้ง แต่เมื่อเวลา 14.00 น. ขณะมวลชนกปปส.ยะลา ใช้รถกระบะและรถจักรยานยนต์ รณรงค์คัดค้านการเลือกตั้ง มาถึงหน้าวิทยาลัยเทคนิคยะลา ต.สะเตง อ.เมือง กลุ่มผู้สนับสนุนการเลือกตั้งซึ่งเป็นทีมงานของผู้สมัครส.ส.ยะลา พรรคเพื่อไทย หลายสิบคนได้ขับรถยนต์ปาดหน้าขบวนกปปส.ยะลา จากนั้นชายฉกรรจ์หลายคนตรงมาที่ท้ายกระบะ พร้อมแย่งด้ามธงชาติมาฟาดที่ใบหน้านางกัลยา แซ่ด่าน จนมีแผลถลอกเลือดไหล

ซึ่งพ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.เมือง นำกำลังมาดูแล โดยให้แกนนำทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกัน และแยกย้ายกันไป แต่ฝ่ายผู้สนับสนุนการเลือกตั้งไม่ยอมสลายตัว โดยให้ฝ่ายกปปส.ยะลาถอนกำลังออกไป และอย่าปิดสถานที่เลือกตั้ง ขณะเดียวกันกลุ่มกปปส.ยะลา ชี้แจงให้ตำรวจฟังว่าไม่ได้ปิดกั้นการเลือกตั้ง และหน่วยเลือกตั้ง แต่รวมตัวกันรณรงค์คัดค้านการเลือกตั้ง

ข่าวแจ้งว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ยังไม่ยอมกัน ตำรวจจึงได้ตรึงกำลังคุมสถานการณ์ ซึ่งหลังหมดเวลาใช้สิทธิ ตำรวจได้ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายแยกย้ายกันไป แต่ยังมีการท้าทายกันจนหวิดปะทะกันอีกรอบ ต่อมามีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และขอความร่วมมือไม่ให้รุนแรงต่อกัน จากนั้นตำรวจแจ้งให้แก่ฝ่ายกปปส.ที่ถูกทำร้ายร่างกายแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป ทั้ง 2 ฝ่ายจึงได้แยกย้ายกันไป

มือมืดยิงถล่มบ้าน กปปส.ตราด

ขณะเดียวกันก็เกิดเหตุการณ์ข่มขู่กันขึ้น โดยที่จ.ตราด พ.ต.อ.นิคม ขำชื่น ผกก.สภ.เมือง มาตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 349/7-9 ถนนสุขุมวิท หมู่ 2 ต.วังกระแจะ ของนายพิชิต บัณฑิตถิรนันท์ แกนนำกปปส.ตราด ซึ่งเปิดเป็นร้านค้า หลังนายพิชิตและนภรรยาเปิดร้านแล้วพบประตูเหล็กมีรอยทะลุ 5 รู มีเศษตะกั่ว 4-5 ชิ้นตกอยู่ ซึ่งร.ต.ท.ดวงรันต์ ทรัพย์วิลาวัลย์ นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์หลักฐาน บก.ภ.จว. พบว่ามีกระสุนติดอยู่กับโต๊ะไม้ประดู่ เมื่อเจาะออกมาพบเป็นลูกตะกั่วขนาดเบอร์ 9 จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.อ.นิคม กล่าวว่า สอบถามนายพิชิตพบว่าไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวรวมทั้งเรื่องธุรกิจ แต่น่าจะเป็นเรื่องการเมือง เนื่องจากนายพิชิตเป็นแกนนำของ กปปส.ตราด ที่เคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น แต่คนร้ายไม่มุ่งเอาชีวิต แค่ข่มขู่เท่านั้น ซึ่งกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง

นายพิชิต กล่าวว่า ก่อนเที่ยงคืนได้ยินเสียงดังที่หน้าร้าน จนเวลา 11.30 น.จะเดินทางไปทำธุระกับภรรยา จึงพบเศษตะกั่วและร่องรอยกระสุนปืน ซึ่งตนเองไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวหรือขัดแย้งกับใคร มีเพียงเรื่องป็นแกนนำกปปส.ตราดเท่านั้น

กปปส.บ้านโป่งถูกยิงถล่มขบวนคัดค้าน

จ.ราชบุรี พ.ต.ท.สงวน มีคติธรรม พนักงานสอบสวนสภ.บ้านโป่ง รับแจ้งเหตุชายฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มกปปส.บ้านโป่ง บนถนนโคกหม้อ-โรงงานมาม่า หมู่ 14 ต.ปากแรต ห่างจากหน่วยเลือกตั้งที่ 12 ต.ปากแรต 30 เมตร จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบนางอทิตยา แดนมะตาม แกนนำกปปส.บ้านโป่ง และมวลชนประมาณ 40 คน มีรถกระบะติดเครื่องขยายเสียงและรถจักรยายนต์อยู่ในที่เกิดเหตุ

สอบสวนทราบว่า ระหว่างออกรณรงค์ไม่ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง มาถึงที่เกิดเหตุมีชายฉกรรจ์ 3 คนใช้รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดทะเบียน คนนั่งในกระบะท้ายสวมชุดสีดำ หมวกไหมพรมคุมศีรษะ ใช้ปืนยิงใส่ 5 นัด โชคดีไม่ถูกใคร จากนั้นขับรถหนีไป ซึ่งตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

ส่วนที่เขต 7 จ.ชลบุรี โรงเรียนเนินพลับหวาน หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบระเบิดสังหารแบบน้อยหน่า ถูกวางไว้บริเวณลานจอดรถหน้าโรงเรียน โดยสลักถูกถอดแล้วแต่กลไกไม่ทำงาน ซึ่งพล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ. 2 กล่าวว่า เป็นลูกระเบิดซ้อม ไม่มีดินปืน ไม่มีกระเดื่อง วางห่างจากคูหาเลือกตั้งประมาณ 100 เมตร ซึ่งน่าจะเป็นการข่มขู่

ปา"ทีเอ็นที"หน้าโรงแรมแดงเชียงใหม่

ด้านตำรวจสภ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งพบวัตถุคล้ายระเบิด หน้าประตูทางเข้าโรงแรมวโรรส แกรนด์ พาเลซ ของนายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มเสื้อแดงรักเชียงใหม่ 51 จึงประสานชุดเก็บกู้ระเบิด ตชด.33 เข้าตรวจสอบ และใช้เครื่องยิงแรงดันน้ำทำลายวงจร เบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องทีเอ็นที

พล.ต.ต.กริช กิติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ประกอบด้วยทีเอ็นที 2 แท่ง หนักประมาณครึ่งปอนด์ แต่ขาดตัวจุดปะทุจึงไม่สามารถระเบิดได้ เบื้องต้นเชื่อว่าต้องการข่มขู่นายเพชรวรรต และไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะย่านนี้ไม่มีหน่วยเลือกตั้ง

นายเพชรวรรต กล่าวว่า เวลาประมาณ 01.00 น. ก็มีคนปาวัตถุระเบิดคล้ายประทัดยักษ์ใส่หน้าโรงแรม เชื่อว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะมีคนเตือนเหมือนกันว่าตกเป็นเป้าเหมือนนายขวัญชัย สาราคำ ประธานชมรมคนรักอุดร.
กำลังโหลดความคิดเห็น