xs
xsm
sm
md
lg

โรงงานยาสูบเล็งยกฐานะ ปลดแอกคลังเป็นนิติบุคคล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ผู้อำนวยการยาสูบ โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โรงงานยาสูบอยู่ระหว่างเตรียมการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาแนวทางการยกฐานะโรงงานยาสูบเป็นนิติบุคคลจากปัจจุบันที่เป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการคลังทำให้ไม่สะดวกในการดำเนินงาน โดยจะใช้เวลา 2-3 เดือนศึกษาเพื่อเสนอแนวทางการยกฐานะเป็นนิติบุคคลให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ
โดยเบื้องต้นที่เคยมีการศึกษาไว้จะมีอยู่ 3 แนวทางคือ 1.ออกเป็นพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) จัดตั้งรัฐวิสาหกิจโรงงานยาสูบ ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ระยะเวลาตามขั้นตอนของรัฐสภาประมาณ 2 ปี 2.ออกเป็นพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)จัดตั้งองค์การยาสูบวิธีนี้จะใช้เวลาไม่นานนัก และวิธีที่ 3.ดำเนินการตามพ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ ซึงเป็นวิธีที่จะทำให้การทำงานของโรงงานยาสูบอยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามกฎหมายของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ซึ่งจะมีความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาลมากที่สุด
" คิดว่า 2-3 เดือนจากนี้คงเลือกได้ว่าจะเลือกกฎหมายฉบับใดมาใช้ในการดำเนินงาน เท่าที่คุยกับพนักงานและสหภาพแล้วทุกคนยอมรับได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในองค์กรในทางที่ดีขึ้น แต่ในใจอยากให้ใช้พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจจะทำให้โรงงานยาสูบมีความเป็นมาตรฐานในการดำเนินงานมากกว่า โดยคาดว่าภายใน 1 ปีน่าจะเห็นอะไรเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น " นายต่อศักดิ์กล่าว
สำหรับแผนการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยานั้น ก็ยังคงเดินหน้าต่อไป และใกล้จะแล้วเสร็จบนเนื้อที่ประมาณ 200 กว่าไร่ แต่จากเหตุการณ์น้ำท่วมปลายปีที่ผ่านมาทำให้มีแนวคิดจะตั้งโรงงานเพิ่มในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ โดยจะตั้งโรงงานอีกแห่งบนพื้นที่ของโรงงานยาสูบที่มีอยู่แล้วอาจเป็นที่เชียงใหม่ หรือแพร่ ทั้งนี้เมื่อโรงงานทั้งสองแห่งเสร็จสมบูรณ์แล้วจะแบ่งกำลังการผลิตที่โรจนะ 60% และที่ภาคเหนือ 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมด
สำหรับผลการดำเนินงานของปี 54 ที่ผ่านมา โรงงานยาสูบมีรายได้รวมทั้งสิ้น 7 หมื่นล้านบาท หักภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและค่าใช้จ่ายอื่นๆ มีกำไรสุทธิ 5.8 พันล้านบาท โดยนำเงินส่งคลัง 60% ของกำไรสุทธิ
กำลังโหลดความคิดเห็น