เอเอฟพี / รอยเตอร์ - รัฐมนตรีคลัง โยชิฮิโกะ โนดะ ได้รับการโหวตรับรองจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (30) ให้เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ ซึ่งถือเป็นคนที่ 6 แล้วในรอบ 5 ปี หลังจากที่ 1 วันก่อนหน้านั้น พรรคเดโมแครติก ปาร์ตี้ ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) พรรคแกนนำรัฐบาล ได้เลือกเขาเป็นหัวหน้าพรรค แทนที่นาโอโตะ คัง ซึ่งยื่นใบลาออกหลังบริหารประเทศได้เพียง 15 เดือน
โนดะ เจ้าของฉายา “เหยี่ยวงบประมาณ” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ถัดจากยูกิโอะ ฮาโตยามะ และนาโอโตะ คัง ที่มาจากพรรคดีพีเจ ซึ่งชนะการเลือกตั้งได้บริหารประเทศตั้งแต่ปี 2009 โดยก่อนหน้าที่สภาล่างจะลงมติรับรองโนดะเป็นนายกฯ คนใหม่ เมื่อวานนี้ (30) เขากล่าวย้ำในการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายในฐานะของรัฐมนตรีคลัง โดยให้คำมั่นว่าจะ “บริหารจัดการงบประมาณการคลังแบบมัธยัสถ์” อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังเผชิญกับความเสี่ยงในหลายๆ ด้าน
“ผมตระหนักถึงปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับค่าเงินเยนที่แข็งโป๊ก ตลอดจนภาวะเงินฝืด ทว่าในขณะเดียวกัน พวกเราก็จำเป็นจะต้องรักษาวินัยทางการคลังด้วย” โนดะ กล่าว
นายกฯ ใหม่ถอดด้ามรายนี้ ยังระบุด้วยว่า ต้องการหารือกับบรรดาพรรคฝ่ายค้านซึ่งเวลานี้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา เกี่ยวกับประเด็นการปรับขึ้นอัตราภาษีการขายจากปัจจุบัน 5 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มอีกเท่าตัวภายใน 5 ปีข้างหน้า ตลอดจนหารือเกี่ยวกับแนวทางระดมเงินทุนเพื่อนำไปฟื้นฟูบูรณะประเทศที่บอบช้ำจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่จังหวัดฟูกูชิมะ
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า ปัญหาหลักๆ ซึ่งรุมเร้ารัฐบาลพรรคดีพีเจจนส่งผลกระทบให้คะแนนนิยมรัฐบาลหล่นฮวบ น่าจะยังคงดำเนินต่อไป และจะทำให้รัฐบาลโนดะทำงานไม่ราบรื่น แม้จะมีการผลัดเปลี่ยนผู้นำคนใหม่แล้วก็ตาม
ศาสตราจารย์โคอิจิ นากาโนะ แห่งมหาวิทยาลัยโซเฟีย ให้ทัศนะว่า “ปัญหาอุปสรรคเชิงโครงสร้างยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะการที่ภายในพรรคแกนนำรัฐบาลมีการแบ่งขั้ว ประกอบกับพวกพรรคฝ่ายค้านซึ่งครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา” จะสร้างอุปสรรคใหญ่หลวงแก่ผู้ใดก็ตามที่ต้องการจะนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ ในด้านนโยบายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน นักวิเคราะห์ก็มองว่า อาจกลายเป็นงานหินสุดๆ สำหรับนายกฯ โนดะ เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ ในระหว่างพิธีรำลึกครบรอบวันที่กองทัพญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สองนั้น เขาได้จุดชนวนความโกรธแค้นระลอกใหม่ให้แก่เกาหลีใต้และจีน ด้วยการกล่าวว่า เหล่าผู้นำญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งถูกศาลอาชญากรสงครามของฝ่ายสัมพันธมิตรตัดสินลงโทษนั้น แท้จริงหากพิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมายญี่ปุ่นแล้ว พวกเขาไม่ใช่อาชญากรสงครามแต่อย่างใด
เขายังเขียนบทวิจารณ์ วิพากษ์กองทัพจีนกรณีที่เร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพอย่างกระวีกระวาด รวมทั้งเพิ่มกิจกรรมทางนาวีในทะลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ถี่ยิบขึ้นนั้น ว่า กำลังสร้างความวิตกกังวลอย่างใหญ่หลวงแก่ทั้งภูมิภาค
**ประวัติความเป็นมาของนายกฯโนดะ**
โนดะ เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 1957 ปัจจุบันอายุ 54 ปี บิดาเป็นอดีตทหารพลร่มแห่งกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น โนดะสมรสแล้วและมีบุตรสองคน
ด้านการศึกษา โนดะ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวาเซดะอันทรงเกียรติ จากนั้นเขาเข้าศึกษาต่อที่สถาบันมัตสึชิตะสาขารัฐบาลและการจัดการ ซึ่งจัดตั้งโดยโคโนซูเกะ มัตสึชิตะ ปรมาจารย์ด้านธุรกิจและผู้ก่อตั้งพานาโซนิก บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกยักษ์ใหญ่ของโลก และการที่โนดะได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ทำให้เขากลายเป็นศิษย์เก่าของสถาบันมัตสึชิตะคนแรกที่ได้เป็นผู้นำประเทศอีกด้วย
โนดะ เข้าสู่แวดวงการเมืองโดยได้รับเลือกตั้งเข้าสภาท้องถิ่นของจังหวัดชิบะในวัย 29 ปี จากนั้น เขาเดินสู่เวทีการเมืองระดับชาติเมื่ออายุย่างเข้า 35 ปี ด้วยการเข้าร่วมพรรคเจแปน นิว ปาร์ตี้ ของโมริฮีโร โฮโซกาวะ ผู้ซึ่งได้เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา
ในปี 1998 เขาเริ่มทำงานรับใช้พรรคดีพีเจ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยภายหลังจากที่พรรคดีพีเจ ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 2009 โนดะก็ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญอย่าง ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างๆ ของสภาล่าง, รองรัฐมนตรีคลังอาวุโส และสุดท้ายได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีคลังตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2010
โนดะ เจ้าของฉายา “เหยี่ยวงบประมาณ” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ถัดจากยูกิโอะ ฮาโตยามะ และนาโอโตะ คัง ที่มาจากพรรคดีพีเจ ซึ่งชนะการเลือกตั้งได้บริหารประเทศตั้งแต่ปี 2009 โดยก่อนหน้าที่สภาล่างจะลงมติรับรองโนดะเป็นนายกฯ คนใหม่ เมื่อวานนี้ (30) เขากล่าวย้ำในการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายในฐานะของรัฐมนตรีคลัง โดยให้คำมั่นว่าจะ “บริหารจัดการงบประมาณการคลังแบบมัธยัสถ์” อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังเผชิญกับความเสี่ยงในหลายๆ ด้าน
“ผมตระหนักถึงปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับค่าเงินเยนที่แข็งโป๊ก ตลอดจนภาวะเงินฝืด ทว่าในขณะเดียวกัน พวกเราก็จำเป็นจะต้องรักษาวินัยทางการคลังด้วย” โนดะ กล่าว
นายกฯ ใหม่ถอดด้ามรายนี้ ยังระบุด้วยว่า ต้องการหารือกับบรรดาพรรคฝ่ายค้านซึ่งเวลานี้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา เกี่ยวกับประเด็นการปรับขึ้นอัตราภาษีการขายจากปัจจุบัน 5 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มอีกเท่าตัวภายใน 5 ปีข้างหน้า ตลอดจนหารือเกี่ยวกับแนวทางระดมเงินทุนเพื่อนำไปฟื้นฟูบูรณะประเทศที่บอบช้ำจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่จังหวัดฟูกูชิมะ
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า ปัญหาหลักๆ ซึ่งรุมเร้ารัฐบาลพรรคดีพีเจจนส่งผลกระทบให้คะแนนนิยมรัฐบาลหล่นฮวบ น่าจะยังคงดำเนินต่อไป และจะทำให้รัฐบาลโนดะทำงานไม่ราบรื่น แม้จะมีการผลัดเปลี่ยนผู้นำคนใหม่แล้วก็ตาม
ศาสตราจารย์โคอิจิ นากาโนะ แห่งมหาวิทยาลัยโซเฟีย ให้ทัศนะว่า “ปัญหาอุปสรรคเชิงโครงสร้างยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะการที่ภายในพรรคแกนนำรัฐบาลมีการแบ่งขั้ว ประกอบกับพวกพรรคฝ่ายค้านซึ่งครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา” จะสร้างอุปสรรคใหญ่หลวงแก่ผู้ใดก็ตามที่ต้องการจะนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ ในด้านนโยบายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน นักวิเคราะห์ก็มองว่า อาจกลายเป็นงานหินสุดๆ สำหรับนายกฯ โนดะ เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ ในระหว่างพิธีรำลึกครบรอบวันที่กองทัพญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สองนั้น เขาได้จุดชนวนความโกรธแค้นระลอกใหม่ให้แก่เกาหลีใต้และจีน ด้วยการกล่าวว่า เหล่าผู้นำญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งถูกศาลอาชญากรสงครามของฝ่ายสัมพันธมิตรตัดสินลงโทษนั้น แท้จริงหากพิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมายญี่ปุ่นแล้ว พวกเขาไม่ใช่อาชญากรสงครามแต่อย่างใด
เขายังเขียนบทวิจารณ์ วิพากษ์กองทัพจีนกรณีที่เร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพอย่างกระวีกระวาด รวมทั้งเพิ่มกิจกรรมทางนาวีในทะลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ถี่ยิบขึ้นนั้น ว่า กำลังสร้างความวิตกกังวลอย่างใหญ่หลวงแก่ทั้งภูมิภาค
**ประวัติความเป็นมาของนายกฯโนดะ**
โนดะ เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 1957 ปัจจุบันอายุ 54 ปี บิดาเป็นอดีตทหารพลร่มแห่งกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น โนดะสมรสแล้วและมีบุตรสองคน
ด้านการศึกษา โนดะ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวาเซดะอันทรงเกียรติ จากนั้นเขาเข้าศึกษาต่อที่สถาบันมัตสึชิตะสาขารัฐบาลและการจัดการ ซึ่งจัดตั้งโดยโคโนซูเกะ มัตสึชิตะ ปรมาจารย์ด้านธุรกิจและผู้ก่อตั้งพานาโซนิก บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกยักษ์ใหญ่ของโลก และการที่โนดะได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ทำให้เขากลายเป็นศิษย์เก่าของสถาบันมัตสึชิตะคนแรกที่ได้เป็นผู้นำประเทศอีกด้วย
โนดะ เข้าสู่แวดวงการเมืองโดยได้รับเลือกตั้งเข้าสภาท้องถิ่นของจังหวัดชิบะในวัย 29 ปี จากนั้น เขาเดินสู่เวทีการเมืองระดับชาติเมื่ออายุย่างเข้า 35 ปี ด้วยการเข้าร่วมพรรคเจแปน นิว ปาร์ตี้ ของโมริฮีโร โฮโซกาวะ ผู้ซึ่งได้เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา
ในปี 1998 เขาเริ่มทำงานรับใช้พรรคดีพีเจ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยภายหลังจากที่พรรคดีพีเจ ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 2009 โนดะก็ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญอย่าง ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างๆ ของสภาล่าง, รองรัฐมนตรีคลังอาวุโส และสุดท้ายได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีคลังตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2010