เปิดประเด็นหัวข้อเรื่องวันนี้ คงทำให้หลายๆ คนนึกถึงภาพยนต์รักใสๆ ตามสไตล์วัยรุ่น แต่สำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจจะลงทุนใน Commodities อย่างพวกเรา เรื่องราวของ Seasons Changed ก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ
เมื่อพูดถึงการลงทุนในตลาดซื้อขายล่วงหน้านั้น ตัวเอกสำคัญของการทำกำไร ก็คือ “การคาดการณ์ราคาสินค้าล่วงหน้า” ซึ่งต่างกับ "การคาดเดาไปเองล่วงหน้า" โดยการคาดการณ์ราคาสินค้าในตลาดล่วงหน้านั้น ต้องอาศัยการวิเคราะห์ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค และหนึ่งในบรรดาเครื่องมือวิเศษที่นักลงทุนหลายคนนิยมใช้ ก็คือ ดัชนีราคาตามฤดูกาล หรือ Seasonal Index
ดัชนีราคาตามฤดูกาล หรือ Seasonal Index นั้น เป็นเทคนิคการคาดการณ์ราคาสินค้าในอนาคต ที่อาศัยข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าในอดีต ที่มักเกิดขึ้นซ้ำๆ ในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งของปี ซึ่งเทคนิคนี้ นักลงทุนสามารถใช้ได้ทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน อาทิ ตลาดหุ้น ก็มี " January Effect "เป็นเหตุการณ์ที่ราคาหุ้นมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่วนมากมักจะเกิดในช่วงปลายเดือนธันวาคม และต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนมกราคม เนื่องจาก พฤติกรรมการลงทุนของต่างชาติที่มักจะเข้ามาลงทุนในช่วงปลายปี และนักลงทุนแห่กันซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี สำหรับตลาด Commodities อาทิ ทองคำ น้ำมัน และสินค้าเกษตร นั้นก็มีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Seasonality เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรเป็นสินค้าที่มีฤดูกาลในการผลิตและความต้องการในแต่ละช่วงของปีที่แตกต่างกัน
จากทฤษฎี Seasonal Index ข้างต้น ทำให้เกิดกลยุทธ์การลงทุนตามฤดูกาล ซึ่งเป็นการพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบกับราคาสินค้าเกษตร ได้แก่ ฤดูกาลเพาะปลูกของสินค้าเกษตร วัฏจักรของสินค้าเกษตร และข่าวต่าง ๆ รวมไปถึงความผิดปกติที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เช่น น้ำท่วม หรือฝนแล้ง เป็นต้น
แม้ว่าดัชนีราคาตามฤดูกาล หรือ Seasonal Index นี้สามารถช่วยนักลงทุนในการคาดการณ์เพื่อหาจังหวะหรือโอกาสที่ดีของการลงทุน ในช่วงระยะเวลาหนึ่งของปี แต่ทฤษฎีการลงทุนนี้ ก็ไม่ได้เป็นจริงเสมอไป โดยเฉพาะการลงทุนในปีนี้และอาจต่อเนื่องจนถึงปีถัดๆ ไป ทั้งนี้เป็นเพราะปัจจัยที่กำหนดการลงทุนเปลี่ยนไป อาทิ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ส่งผลให้ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง และส่งผลให้เกิดความผิดปกติที่เกิดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น น้ำท่วม หรือสภาวะอากาศแห้งแล้งที่เราเห็นเมื่อกลางปี 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้กลยุทธ์การซื้อขายตาม Seasonal Index อาจใช้ไม่ได้ผล อย่างที่นักลงทุนหลายท่านได้คาดการณ์ไว้
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ การเคลื่อนไหวของราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เต็มไปด้วยข่าวแผ่นดินไหว พายุ ฝนตกหนัก และน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วโลก ซึ่งฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเหล่านี้ได้ทำลายพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญ อาทิ ข้าว ยางพารา ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดทั่วโลกมีแนวโน้มลดลง ราคาสินค้าเกษตรในอนาคตอันสั้นนี้จึงมีแนวโน้มสูงขึ้นได้ขณะที่หากเราย้อนกลับไปดูข้อมูลราคาย้อนหลังแล้ว คำตอบของ Seasonal Index จะเป็นตรงกันข้าม
ดังนั้น เมื่อเราไม่สามารถกำหนดปัจจัยการลงทุน เหมือนกับที่เราไม่สามารถกำหนด Seasons Changed ได้ เราก็ควรหันกลับมาปรับพฤติกรรมการลงทุนของเรา ให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการติดตามข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย ทั้งเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ นโยบายรัฐบาล ค่าเงิน และทำความเข้าใจกับพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนในตลาดที่มีลักษณะเก็งกำไรมากขึ้น ซึ่งความรู้เหล่านี้ จะช่วยให้ท่านผู้อ่าน ไปถึงเส้นชัยของอิสรภาพทางการเงินได้ไม่ยากค่ะ
อิสรภาพทางการเงินเกิดขึ้นได้ จากการคาดการณ์ที่ดี ซึ่งสามารถสร้างได้ด้วยความรู้ดี ๆ แตกต่างจากการคาดเดาดี ๆ ที่ต้องอาศัยเพียงดวงดี ๆ เท่านั้น...มากำหนดชะตาชีวิตลงทุน ด้วยตัวของเราเองกันค่ะ
เมื่อพูดถึงการลงทุนในตลาดซื้อขายล่วงหน้านั้น ตัวเอกสำคัญของการทำกำไร ก็คือ “การคาดการณ์ราคาสินค้าล่วงหน้า” ซึ่งต่างกับ "การคาดเดาไปเองล่วงหน้า" โดยการคาดการณ์ราคาสินค้าในตลาดล่วงหน้านั้น ต้องอาศัยการวิเคราะห์ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค และหนึ่งในบรรดาเครื่องมือวิเศษที่นักลงทุนหลายคนนิยมใช้ ก็คือ ดัชนีราคาตามฤดูกาล หรือ Seasonal Index
ดัชนีราคาตามฤดูกาล หรือ Seasonal Index นั้น เป็นเทคนิคการคาดการณ์ราคาสินค้าในอนาคต ที่อาศัยข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าในอดีต ที่มักเกิดขึ้นซ้ำๆ ในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งของปี ซึ่งเทคนิคนี้ นักลงทุนสามารถใช้ได้ทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน อาทิ ตลาดหุ้น ก็มี " January Effect "เป็นเหตุการณ์ที่ราคาหุ้นมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่วนมากมักจะเกิดในช่วงปลายเดือนธันวาคม และต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนมกราคม เนื่องจาก พฤติกรรมการลงทุนของต่างชาติที่มักจะเข้ามาลงทุนในช่วงปลายปี และนักลงทุนแห่กันซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี สำหรับตลาด Commodities อาทิ ทองคำ น้ำมัน และสินค้าเกษตร นั้นก็มีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Seasonality เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรเป็นสินค้าที่มีฤดูกาลในการผลิตและความต้องการในแต่ละช่วงของปีที่แตกต่างกัน
จากทฤษฎี Seasonal Index ข้างต้น ทำให้เกิดกลยุทธ์การลงทุนตามฤดูกาล ซึ่งเป็นการพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบกับราคาสินค้าเกษตร ได้แก่ ฤดูกาลเพาะปลูกของสินค้าเกษตร วัฏจักรของสินค้าเกษตร และข่าวต่าง ๆ รวมไปถึงความผิดปกติที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เช่น น้ำท่วม หรือฝนแล้ง เป็นต้น
แม้ว่าดัชนีราคาตามฤดูกาล หรือ Seasonal Index นี้สามารถช่วยนักลงทุนในการคาดการณ์เพื่อหาจังหวะหรือโอกาสที่ดีของการลงทุน ในช่วงระยะเวลาหนึ่งของปี แต่ทฤษฎีการลงทุนนี้ ก็ไม่ได้เป็นจริงเสมอไป โดยเฉพาะการลงทุนในปีนี้และอาจต่อเนื่องจนถึงปีถัดๆ ไป ทั้งนี้เป็นเพราะปัจจัยที่กำหนดการลงทุนเปลี่ยนไป อาทิ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ส่งผลให้ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง และส่งผลให้เกิดความผิดปกติที่เกิดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น น้ำท่วม หรือสภาวะอากาศแห้งแล้งที่เราเห็นเมื่อกลางปี 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้กลยุทธ์การซื้อขายตาม Seasonal Index อาจใช้ไม่ได้ผล อย่างที่นักลงทุนหลายท่านได้คาดการณ์ไว้
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ การเคลื่อนไหวของราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เต็มไปด้วยข่าวแผ่นดินไหว พายุ ฝนตกหนัก และน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วโลก ซึ่งฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเหล่านี้ได้ทำลายพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญ อาทิ ข้าว ยางพารา ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดทั่วโลกมีแนวโน้มลดลง ราคาสินค้าเกษตรในอนาคตอันสั้นนี้จึงมีแนวโน้มสูงขึ้นได้ขณะที่หากเราย้อนกลับไปดูข้อมูลราคาย้อนหลังแล้ว คำตอบของ Seasonal Index จะเป็นตรงกันข้าม
ดังนั้น เมื่อเราไม่สามารถกำหนดปัจจัยการลงทุน เหมือนกับที่เราไม่สามารถกำหนด Seasons Changed ได้ เราก็ควรหันกลับมาปรับพฤติกรรมการลงทุนของเรา ให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการติดตามข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย ทั้งเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ นโยบายรัฐบาล ค่าเงิน และทำความเข้าใจกับพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนในตลาดที่มีลักษณะเก็งกำไรมากขึ้น ซึ่งความรู้เหล่านี้ จะช่วยให้ท่านผู้อ่าน ไปถึงเส้นชัยของอิสรภาพทางการเงินได้ไม่ยากค่ะ
อิสรภาพทางการเงินเกิดขึ้นได้ จากการคาดการณ์ที่ดี ซึ่งสามารถสร้างได้ด้วยความรู้ดี ๆ แตกต่างจากการคาดเดาดี ๆ ที่ต้องอาศัยเพียงดวงดี ๆ เท่านั้น...มากำหนดชะตาชีวิตลงทุน ด้วยตัวของเราเองกันค่ะ