หากจำกันได้ ผมได้เคยเล่าว่าครั้งหนึ่งขับรถยนต์มาทำงาน ผมผ่านขบวนรถยนต์กระบะของพันธมิตรฯ ซึ่งยิ้มแย้มแจ่มใสและเราได้ทักทายและให้กำลังใจกัน
เมื่อเช้าวันที่ 2 กันยายนนี้ก็เช่นกัน ประมาณ 7 โมงเช้าเล็กน้อย หลังจากที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใน กทม.ไปแล้ว ผมก็ขับรถยนต์มาพบขบวนรถกระบะเรียงรายกันอยู่ประมาณ 10 กว่าคัน แต่ละคันก็ขนคนซึ่งล้วนเป็นชายฉกรรจ์ประมาณคันละร่วม 20 คนต่อคัน ดังนั้นทั้งขบวนที่ผมเห็นอยู่นั้น ก็ต้องมีคนรวมแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 200 เกือบ 300 คน
แต่ละคนโพกผ้าแดงไว้ที่หัวครับ บางคนใส่เสื้อยืดสีแดง เขียนข้อความสีขาวตัวโตว่า “ล้มรัฐธรรมนูญ”
ที่น่าสังเกตและสะกิดใจมากคือ ป้ายทะเบียนรถกระบะทุกคันบ่งบอกถึงที่มาครับ ทะเบียนมาจากบุรีรัมย์ทั้งสิ้น
เนื่องจากรถผมอยู่คนละเลน ผมจึงขับไปชิดรถคันหนึ่ง จนพอจะตะโกนถามเขาไปว่า “พวกไหน” ซึ่งผมอยากรู้จริงๆ ว่า เขาเป็น “พวกไหน” หมายความว่าเขาเป็น นปก.หรือ นปช. ใช่ตามที่ผมสงสัยหรือไม่ เนื่องจากผมดูทีวีในรถยนต์บอกว่าคนพวกนี้กำลังสลายตัวและขึ้นรถบ่ายหน้ามาที่สนามหลวง ผมก็บ่ายหน้ามาที่สี่แยกคอกวัว เพื่อมายังบางลำภู และตรงมายังที่ทำงานไงครับ
เมื่อผมถามว่า “พวกไหน” คนหน้าเหี้ยมผิวคล้ำ ก็ตอบกลับมาว่า “พวกสมัคร” ซึ่งไม่ใช่คำตอบที่ผมคิด
ผมถามอีกว่า “มาจากบุรีรัมย์ใช่ไหม?” เขาพยักหน้า
คราวนี้ผมเลยถามตรงประเด็นว่า“ได้เยอะไหม?” โดยไม่ต้องพูดถึงเงิน
คนเดิมที่ตอบผม ยกนิ้วขึ้นกางมือ 5 นิ้ว หมายถึง “500 บาท” แต่อีก 6-7 คน ยกนิ้วชูแค่ 3 นิ้ว หรือ “300 บาท” เท่านั้น ผมเลยเดาว่าสงสัยคนพามาได้ 500
เฉลี่ยแล้วคันละไม่ต่ำกว่า 6 พันบาท แถวรถมีไม่น้อยกว่า 20 คัน ก็แสนสองหมื่นบาทเข้าไปแล้ว
จากรายการของคุณสรยุทธ์ ที่ช่อง 3 ว่า พวก นปก.รวมตัวกัน 800 กว่าคน คิดดูว่ารวมค่าจ้าง 300-400 บาท ก็คงหลายแสนอยู่
ไม่นับค่าเหมารถบวกค่าน้ำมันอีกหลายสิบคัน
งบนี้ต้องใช้เงินเป็นล้านบาท
ผมลืมบอกไปว่า คำถามสุดท้ายที่ผมถามคนบนรถบุรีรัมย์ ป้ายทะเบียน 3854 ตัวเลขบางตัวอาจคลาดเคลื่อนนั้นก็คือ “ใครจ้างมาเนี่ยะ... เนวินหรือเปล่า”
เขาก็ตอบเสียงชัดเจน “เนวิน-เนวิน”
นี่แหละผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่ง นสพ.ผู้จัดการเราก็ลงพิมพ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ยี้เนวินนั้นไม่ธรรมดาครับ
ขณะรายงานข่าวคุณสรยุทธ์ ให้ตัวแทน นปก.ออกมาให้สัมภาษณ์ โดยมีไอ้เบื๊อกชื่ออะไรผมฟังไม่ทัน ไอ้เบื๊อกนี่ ก็พูดด่าพันธมิตรฯ ว่าผิดกฎหมาย คนเขาเบื่อทำความเดือดร้อนทั่วกรุง (หมายถึงรถติด ปิดโรงเรียนในกทม.) แต่ไหงไอ้หน้าเหี้ยมจากบุรีรัมย์ มันมากระทืบพันธมิตรฯ เกี่ยวได้อย่างไร?
ระหว่างนั้นมีภาพโทรทัศน์ออกมาได้จังหวะที่ไอ้เบื๊อก นปก.ที่ว่านั้น บอกว่า พวกพันธมิตรฯ มีการใช้อาวุธตลบหลังพวกมันด้วย
ชะรอย ธรรมะแสดงกรรมตามทัน เพราะเวลานั้นทีวีกำลังแสดงภาพสัตว์นรกจำนวนไม่น้อยกว่า 10 กำลังใช้อาวุธประเภทไม้หน้า 3 บ้างรุมกันตีคนสูงวัยซึ่งเป็นพันธมิตรฯ คนหนึ่งล้มลง พวกสัตว์เหล่านี้ได้กรูกันมาล้อมแล้วเตะบ้าง กระทืบบ้าง บางคนได้ฟาดไม้ลงบริเวณศีรษะแบบไม่ยั้งมือ 3-4 ครั้ง บางคนก็กระทุ้งไม้เข้าลำตัว แขนขาอยู่นานมากไม่ต่ำกว่า 10 นาที
แถมยังเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อยก็ 2 คนครับ ยืนดูเฉยๆ
ขอเทปรายการคุณสรยุทธ์มาดูได้เลยครับ
มันย้อนให้ผมนึกถึงภาพทารุณสมัย 6 ตุลาฯ ไม่มีผิด
เช่นเดียวกันการขึ้นเวที นปก. แล้วมีคนตะโกนบนเวทีอย่างเพชฌฆาต ให้ “ฆ่ามัน...ฆ่ามัน” ไม่ผิดเพี้ยนกับที่เคยได้ยินจากวิทยุยานเกราะอย่างไรอย่างนั้น
นี่หรือที่ไอ้เบื๊อกตัวแทน นปก. มันอ้างว่าพวกมันแค่ยกกำลังเพื่อมากดดันพันธมิตรฯ โดยไม่มีอาวุธ ไม่ต้องการทำร้ายใคร
โกหกแบบหน้าด้านเห็นได้ชัด
จะบอกให้ว่าสิ่งที่เดรัจฉานกระทำก็เพื่อให้มันรุนแรงเพียงพอกับการจัดฉากให้รัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก. ภาวะฉุกเฉินเท่านั้นแหละ รู้ไส้รู้พุงกันอยู่แล้ว
เพราะว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลกลัวจนขี้หดตดไม่ออก ก็เพราะ 40 กว่ารัฐวิสาหกิจ เขานัดกันหยุดงานไงล่ะ
ทั้งหมดนี้มันหมายความว่า รัฐบาลไม่สามารถปกครองประเทศชาตินี้ได้อีกต่อไปแล้ว และไร้ความชอบธรรม
หากจะให้ผมคาดการณ์ละก็ ผู้ที่จะหยุดงานโดยพฤตินัยเป็นลำดับต่อไป ก็จะเป็นข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยใช้ข้ออ้างว่า ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยให้เหตุผลว่าไปมาไม่สะดวก หรือไม่ก็โดยสาเหตุอื่น แต่ลึกๆ แล้ว ก็ไม่เห็นด้วยกับมาตรการอันไร้ความเป็นธรรมที่รัฐบาลใช้อยู่ในขณะนี้
เมื่อทุกอย่างหยุดหมด และรัฐบาลไม่หยุด
มันก็เหมือนคนบ้าบริหารประเทศ โดยไม่มีคนให้บริหารนั่นแหละครับ
ความดื้อด้านแบบนี้มีที่ประเทศไทยยามนี้เท่านั้นแหละครับ
ผมก็ไม่ทราบว่า ชะตากรรมของนายกฯ คนนี้จะลงเอยอย่างไร
แต่ถ้าจะให้มองไปสั้นๆ อีกไม่นาน ก็คงต้องขึ้นเครื่องบินไปอยู่กับคุณทักษิณกระมัง
เตลิดเปิดเปิงไปอยู่ลอนดอนน่าจะเป็นที่ซึ่งดีที่สุด
ดีกว่าต้องไปผุดไปเกิดในที่อัปมงคลอื่นๆ นะครับ
เมื่อเช้าวันที่ 2 กันยายนนี้ก็เช่นกัน ประมาณ 7 โมงเช้าเล็กน้อย หลังจากที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใน กทม.ไปแล้ว ผมก็ขับรถยนต์มาพบขบวนรถกระบะเรียงรายกันอยู่ประมาณ 10 กว่าคัน แต่ละคันก็ขนคนซึ่งล้วนเป็นชายฉกรรจ์ประมาณคันละร่วม 20 คนต่อคัน ดังนั้นทั้งขบวนที่ผมเห็นอยู่นั้น ก็ต้องมีคนรวมแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 200 เกือบ 300 คน
แต่ละคนโพกผ้าแดงไว้ที่หัวครับ บางคนใส่เสื้อยืดสีแดง เขียนข้อความสีขาวตัวโตว่า “ล้มรัฐธรรมนูญ”
ที่น่าสังเกตและสะกิดใจมากคือ ป้ายทะเบียนรถกระบะทุกคันบ่งบอกถึงที่มาครับ ทะเบียนมาจากบุรีรัมย์ทั้งสิ้น
เนื่องจากรถผมอยู่คนละเลน ผมจึงขับไปชิดรถคันหนึ่ง จนพอจะตะโกนถามเขาไปว่า “พวกไหน” ซึ่งผมอยากรู้จริงๆ ว่า เขาเป็น “พวกไหน” หมายความว่าเขาเป็น นปก.หรือ นปช. ใช่ตามที่ผมสงสัยหรือไม่ เนื่องจากผมดูทีวีในรถยนต์บอกว่าคนพวกนี้กำลังสลายตัวและขึ้นรถบ่ายหน้ามาที่สนามหลวง ผมก็บ่ายหน้ามาที่สี่แยกคอกวัว เพื่อมายังบางลำภู และตรงมายังที่ทำงานไงครับ
เมื่อผมถามว่า “พวกไหน” คนหน้าเหี้ยมผิวคล้ำ ก็ตอบกลับมาว่า “พวกสมัคร” ซึ่งไม่ใช่คำตอบที่ผมคิด
ผมถามอีกว่า “มาจากบุรีรัมย์ใช่ไหม?” เขาพยักหน้า
คราวนี้ผมเลยถามตรงประเด็นว่า“ได้เยอะไหม?” โดยไม่ต้องพูดถึงเงิน
คนเดิมที่ตอบผม ยกนิ้วขึ้นกางมือ 5 นิ้ว หมายถึง “500 บาท” แต่อีก 6-7 คน ยกนิ้วชูแค่ 3 นิ้ว หรือ “300 บาท” เท่านั้น ผมเลยเดาว่าสงสัยคนพามาได้ 500
เฉลี่ยแล้วคันละไม่ต่ำกว่า 6 พันบาท แถวรถมีไม่น้อยกว่า 20 คัน ก็แสนสองหมื่นบาทเข้าไปแล้ว
จากรายการของคุณสรยุทธ์ ที่ช่อง 3 ว่า พวก นปก.รวมตัวกัน 800 กว่าคน คิดดูว่ารวมค่าจ้าง 300-400 บาท ก็คงหลายแสนอยู่
ไม่นับค่าเหมารถบวกค่าน้ำมันอีกหลายสิบคัน
งบนี้ต้องใช้เงินเป็นล้านบาท
ผมลืมบอกไปว่า คำถามสุดท้ายที่ผมถามคนบนรถบุรีรัมย์ ป้ายทะเบียน 3854 ตัวเลขบางตัวอาจคลาดเคลื่อนนั้นก็คือ “ใครจ้างมาเนี่ยะ... เนวินหรือเปล่า”
เขาก็ตอบเสียงชัดเจน “เนวิน-เนวิน”
นี่แหละผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่ง นสพ.ผู้จัดการเราก็ลงพิมพ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ยี้เนวินนั้นไม่ธรรมดาครับ
ขณะรายงานข่าวคุณสรยุทธ์ ให้ตัวแทน นปก.ออกมาให้สัมภาษณ์ โดยมีไอ้เบื๊อกชื่ออะไรผมฟังไม่ทัน ไอ้เบื๊อกนี่ ก็พูดด่าพันธมิตรฯ ว่าผิดกฎหมาย คนเขาเบื่อทำความเดือดร้อนทั่วกรุง (หมายถึงรถติด ปิดโรงเรียนในกทม.) แต่ไหงไอ้หน้าเหี้ยมจากบุรีรัมย์ มันมากระทืบพันธมิตรฯ เกี่ยวได้อย่างไร?
ระหว่างนั้นมีภาพโทรทัศน์ออกมาได้จังหวะที่ไอ้เบื๊อก นปก.ที่ว่านั้น บอกว่า พวกพันธมิตรฯ มีการใช้อาวุธตลบหลังพวกมันด้วย
ชะรอย ธรรมะแสดงกรรมตามทัน เพราะเวลานั้นทีวีกำลังแสดงภาพสัตว์นรกจำนวนไม่น้อยกว่า 10 กำลังใช้อาวุธประเภทไม้หน้า 3 บ้างรุมกันตีคนสูงวัยซึ่งเป็นพันธมิตรฯ คนหนึ่งล้มลง พวกสัตว์เหล่านี้ได้กรูกันมาล้อมแล้วเตะบ้าง กระทืบบ้าง บางคนได้ฟาดไม้ลงบริเวณศีรษะแบบไม่ยั้งมือ 3-4 ครั้ง บางคนก็กระทุ้งไม้เข้าลำตัว แขนขาอยู่นานมากไม่ต่ำกว่า 10 นาที
แถมยังเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อยก็ 2 คนครับ ยืนดูเฉยๆ
ขอเทปรายการคุณสรยุทธ์มาดูได้เลยครับ
มันย้อนให้ผมนึกถึงภาพทารุณสมัย 6 ตุลาฯ ไม่มีผิด
เช่นเดียวกันการขึ้นเวที นปก. แล้วมีคนตะโกนบนเวทีอย่างเพชฌฆาต ให้ “ฆ่ามัน...ฆ่ามัน” ไม่ผิดเพี้ยนกับที่เคยได้ยินจากวิทยุยานเกราะอย่างไรอย่างนั้น
นี่หรือที่ไอ้เบื๊อกตัวแทน นปก. มันอ้างว่าพวกมันแค่ยกกำลังเพื่อมากดดันพันธมิตรฯ โดยไม่มีอาวุธ ไม่ต้องการทำร้ายใคร
โกหกแบบหน้าด้านเห็นได้ชัด
จะบอกให้ว่าสิ่งที่เดรัจฉานกระทำก็เพื่อให้มันรุนแรงเพียงพอกับการจัดฉากให้รัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก. ภาวะฉุกเฉินเท่านั้นแหละ รู้ไส้รู้พุงกันอยู่แล้ว
เพราะว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลกลัวจนขี้หดตดไม่ออก ก็เพราะ 40 กว่ารัฐวิสาหกิจ เขานัดกันหยุดงานไงล่ะ
ทั้งหมดนี้มันหมายความว่า รัฐบาลไม่สามารถปกครองประเทศชาตินี้ได้อีกต่อไปแล้ว และไร้ความชอบธรรม
หากจะให้ผมคาดการณ์ละก็ ผู้ที่จะหยุดงานโดยพฤตินัยเป็นลำดับต่อไป ก็จะเป็นข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยใช้ข้ออ้างว่า ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยให้เหตุผลว่าไปมาไม่สะดวก หรือไม่ก็โดยสาเหตุอื่น แต่ลึกๆ แล้ว ก็ไม่เห็นด้วยกับมาตรการอันไร้ความเป็นธรรมที่รัฐบาลใช้อยู่ในขณะนี้
เมื่อทุกอย่างหยุดหมด และรัฐบาลไม่หยุด
มันก็เหมือนคนบ้าบริหารประเทศ โดยไม่มีคนให้บริหารนั่นแหละครับ
ความดื้อด้านแบบนี้มีที่ประเทศไทยยามนี้เท่านั้นแหละครับ
ผมก็ไม่ทราบว่า ชะตากรรมของนายกฯ คนนี้จะลงเอยอย่างไร
แต่ถ้าจะให้มองไปสั้นๆ อีกไม่นาน ก็คงต้องขึ้นเครื่องบินไปอยู่กับคุณทักษิณกระมัง
เตลิดเปิดเปิงไปอยู่ลอนดอนน่าจะเป็นที่ซึ่งดีที่สุด
ดีกว่าต้องไปผุดไปเกิดในที่อัปมงคลอื่นๆ นะครับ
