xs
xsm
sm
md
lg

ควบรวมองค์กรรัฐ-ของดีที่ถูกบิดเบือน

เผยแพร่:   โดย: “เชี่ยวชวนะ

สังคมไทย-มักมีเรื่องดี ที่กำลังถูกบิดบือนให้กลายเป็นเรื่องเลวเสมอ!

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2550 คณะกรรมการองค์กรบริหารและพัฒนาการเรียนรู้ (สบร.) ได้มีมติให้ควบรวมหน่วยงานในสังกัดจาก 4 หน่วยงาน ให้เหลือเพียง 2 หน่วยงาน

แต่ที่เป็นปัญหาถูกบิดเบือนใส่ร้ายเห็นจะเป็น การควบรวมของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ(TCDC) กับสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (MDMI) เข้าเป็นองค์กรใหม่ที่มีชื่อว่า สถาบันการเรียนรู้และสร้างสรรค์ (สรส.) หรือชื่อภาษาอังกฤษเต็มๆ ว่า Institue of Discovery & Creative Learning ในชื่อย่อว่า (IDCL)

ทั้งยังมีมติให้ย้ายหน่วยงานในสังกัดของ สบร. ซึ่งเช่าที่ทำการกระจัดกระจายอยู่ตามตึกต่างๆ ในราคาแพงหูฉี่ ให้มาอยู่รวมกันที่จัตุรัสจามจุรีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังสัญญาเช่าของหน่วยงานเหล่านั้นสิ้นสุดลง อันจะทำให้ประหยัดเงินภาษีของประชาชนอย่างมหาศาล

เท่านั้นแหละครับ กลุ่มผู้สูญเสียประโยชน์ในหน่วยงานเหล่านั้น ก็ปล่อยข่าวลงในหน้าหนังสือพิมพ์บางฉบับในเชิงลบทันที ข่าวที่ออกก็เป็นแบบแหล่งข่าว หาตัวตนหรือต้นตอข่าวไม่เจอ แถมบิดเบือนความจริงแบบนั่งเทียนคิดและเขียนในทำนอง จะไม่มีองค์กร TCDC อยู่ในประเทศนี้อีกแล้ว

มิหนำซ้ำนายจรัล ดิษฐาอภิชัย บุคคลผู้ใกล้ชิดเครือข่ายของทักษิณ ชินวัตร อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่นำนักป่วนเมืองไปตะโกนด่า “ป๋าเปรม” ถึงบ้านสี่เสาฯ จนถูกสมาชิกสภานิติบัญญัติปลดออกกลางสภา ได้ออกมาชื่นชมนายไชยยง รัตนอังกูร ผู้อำนวยการTCDC อย่างหน้าตาเฉยอีกด้วย

สำหรับเรื่องนี้ ผมต้องเริ่มต้นด้วยการชื่นชมความเด็ดขาดกล้าหาญของ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ และคณะกรรมการ สบร. ที่ได้ประกาศควบรวมองค์กรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน เพราะในเชิงการดำเนินงานแล้ว 2 หน่วยงานในสังกัดของ สบร.นี้ สามารถผสมผสานและทำงานไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี มิใช่ต่างคนต่างทำหรือแยกกันทำ แยกกันใช้จ่ายเงินหลวง ทำให้เสียเงินภาษีของประชาชนเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น

ที่ผ่านมารัฐบาลเก่าบริหารองค์กร สบร.และหน่วยงานในสังกัด โดยให้นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นผู้รับผิดชอบ ในฐานะที่ปรึกษาใหญ่ด้านเศรษฐกิจของนายพันศักดิ์ ต้องถือว่า..มีอำนาจล้นเหลือ จนข้าราชการไม่กล้าท้วงติงหรือคัดค้านพฤติกรรมการใช้เงินอย่างไม่โปร่งใสสะเปะสะปะและฟุ่มเฟือยเกินขนาด

ถึงขนาดนายพันศักดิ์ในฐานะประธาน สบร.และ TCDC ได้ดันนายไชยยง รัตนอังกูร ลูกน้องคนสนิทจากคนหิ้วกระเป๋า ที่เป็นอดีตนักข่าวเงินเดือนไม่กี่บาท ให้ก้าวขึ้นชั้นเป็นผู้อำนวยการในหน่วยงาน TCDC กินเงินเดือนและเงินอื่นๆ ถึงเดือนละ 375,000 บาท/เดือน อย่างหน้าตาเฉยเลย

การเช่าสถานที่ของหน่วยงานหลายแห่ง ที่นายพันศักดิ์และพวกบริหารนั้น ก็แพงหูฉี่และไม่คุ้มต่อการใช้งาน บางแห่งเช่าด้วยเวลา 3 ปี ใช้งบตกแต่งกว่า 60 ล้านบาท จนสัญญาเช่าสถานที่กำลังจะหมดอายุในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

แต่ทุกวันนี้การตกแต่งสถานที่เสร็จเฉพาะพื้นที่ส่วนสำนักงาน โดยพื้นที่ส่วนใหญ่สำหรับจัดนิทรรศการยังคาค้าง แต่องค์กรนี้กลับดันเข้าใช้สถานที่ ในส่วนสำนักงานแล้วกว่า 2 ปี โดยผู้รับเหมาไม่เคยได้รับเงินค่าจ้างเลย ทำให้ปัจจุบันองค์กรรัฐแห่งนี้ตกเป็นคู่ความกับผู้รับเหมา

การที่บริษัทรับเหมาตกแต่งยอมทำงานมูลค่ากว่า 60 ล้านบาทก่อน เพราะมีผู้ใหญ่ใกล้ชิดนายกฯ ทักษิณที่ทำเนียบฯ เป็นคนรับประกันทั้งงานและเงินด้วยปาก ทำให้บริษัทออกแบบและตกแต่งสถานที่องค์กรนี้เชื่อถือ จึงหลงทำงานให้ก่อน ทั้งๆ ที่ ไม่มีสัญญาการว่าจ้างอย่างเป็นทางการใดๆ ทั้งสิ้นเลย!

งานนี้คนของรัฐหลายคนผิด..กำลังถูกพิจารณาลงโทษ แต่นักการเมืองใหญ่ในทำเนียบรอดอีกตามเคย นับเป็นเรื่องน่าตกใจและเหลือเชื่อ..แต่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยแห่งนี้ครับ!

นั่นเป็นแค่หนึ่งในน้ำจิ้มความผิดและความฟุ่มเฟือย ที่มีการผลาญเงินภาษีของรัฐขององค์กรบางแห่งในสังกัด สบร.เท่านั้นนะครับ

กรรมาธิการงบประมาณของสภานิติบัญญัติ ได้เคยอภิปรายถึงความไม่ชอบมาพากล ของการของบและใช้งบประมาณแผ่นดิน ทั้งไม่เหมาะสมและไม่โปร่งใสในอดีตมากมาย อีกทั้ง สนช.หลายคนยังเคยยื่นข้อเสนอ ให้ดำเนินการควบรวมบางหน่วยงานในสังกัด สบร.อีกด้วย

โดยเฉพาะสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. ภายใต้การนำของ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ที่สังคมยอมรับว่าตรงไปตรงมานั้น ได้ตรวจพบความไม่โปร่งใสเหล่านี้ และได้แจ้งเรื่องทั้งหมดให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว

ประเด็นที่นายจรัลให้สัมภาษณ์ว่า TCDC เป็นองค์กรที่เป็นประโยชน์ไม่ควรยุบนั้น ตรงนี้ผมและรัฐก็เห็นด้วยกับคุณจรัล รัฐจึงดำเนินการควบรวมองค์กร มิใช่ยุบเลิกองค์กร TCDC ดังนั้น..คุณจรัลที่สมองแสนฉลาดน่าจะเข้าใจนะครับ ยกเว้นแกล้งโง่ทำเป็นไม่เข้าใจเท่านั้นเอง

ส่วนที่ผมเห็นต่างกับคุณจรัล ก็ตรงผลงานของTCDC เพราะที่ผ่านมาTCDC เป็นองค์กรที่ให้ความรู้กับบรรดาธุรกิจระดับสูงเป็นหลัก จนคนธรรมดาสามัญส่วนใหญ่เห็นว่า TCDC เป็นองค์กรพวกหอคอยงาช้าง-ไม่ติดดิน เพราะมิได้มีผลงานที่ชัดแจ้งลงไปรองรับ หรือช่วยเหลือธุรกิจของคนระดับกลางและล่างเลย

นั่นถือเป็นการใช้เงินของประชาชนโดยไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร หรือโดยไม่คุ้มค่าครับ!

ผมทราบมาว่า เป้าหมายการควบรวมสององค์กรนี้ นอกจากการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นแล้ว ยังเพื่อทำให้ TCDC ก้าวลงจากหอคอยงาช้างเสียที TCDC จะต้องลงไปรับใช้ภาคประชาชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในแทบทุกระดับ ตรงนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องดี..และต้องกระทำให้ได้ หรือคุณจรัลว่าไม่ดีล่ะ?

ที่สำคัญผมเชื่อว่า คนอย่าง ศ.ชัยอนันต์ สมุทวณิช ศ.สุรพล วิรุฬรักษ์ อ.ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ศ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา และอีกหลายคนในคณะกรรมการ สบร. ซึ่งมีผลงานที่ดีและมีความโปร่งใสมาตลอด จะต้องไม่นำองค์กรที่ควบรวมของรัฐในสังกัดของ สบร. ไปปู้ยี่ปู้ยำหรือลงเหวอย่างแน่นอน

แต่คนที่เคยรับใช้ทักษิณแบบสุดลิ่มทิ่มประตู อย่างนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ และ นายไชยยง รัตนอังกูร อ้อ..รวมทั้งนายจรัล ดิษฐาอภิชัย ด้วย บอกตรงๆ ผมไม่เคยไว้ใจในพฤติกรรมเลยครับ

อย่างไรก็ตาม..ต้องยอมรับว่า นายพันศักดิ์และนายไชยยง เคยเป็นอดีตนักเขียนและนักข่าวมาก่อน ย่อมมีเพื่อนฝูงในวงการสื่อมวลชนไม่น้อย แต่ยังโชคดีที่ประเทศนี้มีสื่อมวลชนดีๆ อยู่มากมาย ดังนั้นการเสนอข่าวควบรวมองค์กรในสังกัด สบร.โดยภาพรวม สื่อส่วนใหญ่ได้เสนอในด้านที่ดีและถูกต้องเป็นหลัก นับเป็นการให้ความยุติธรรมต่อ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ และคณะกรรมการ สบร. ที่มี ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ เป็นประธาน พอสมควร

ส่วนการใช้คำว่า “แหล่งข่าว” ของพวก“อีแอบ” เที่ยวให้ร้ายป้ายสีคนดีตามหน้าหนังสือพิมพ์บางฉบับนั้น ในทางข่าวถือว่า..ไร้น้ำหนักและจะเสนอข่าวได้ไม่นาน เพราะจะนำมาซึ่งความเสียหายและลดความน่าเชื่อถือต่อหนังสือพิมพ์ฉบับที่ลงข่าวบิดเบือนหรือลงข่าวเท็จนั้นๆ ด้วย

ความถูกต้อง-ความดี-ความโปร่งใสในการทำงาน และสุดท้ายต้องได้ประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมต่างหาก ที่จะตัดสินผลงานของคนทำงาน มิใช่การเอาชนะกันตรงใช้หน้าหนังสือพิมพ์มาโจมตีกันครับ

เดินหน้าต่อ..อย่าลังเลหรือพะวักพะวงเลยครับ การควบรวมองค์กรรัฐครั้งนี้เป็นเรื่องดี ทว่า..กำลังถูกคนชั่วบิดเบือนต่างๆ นานาสารพัด แต่ผมเชื่อครับว่า..สุดท้าย..ธรรมะย่อมชนะอธรรม!
กำลังโหลดความคิดเห็น