.
“เงิน-จ้างผีโม่แป้งได้”
นั่นเป็นสุภาษิตจีน ที่คนวงในรู้ว่า พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระเหเร่ร่อนไปอยู่ ณ เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ชอบพูดเป็นประจำ
ด้วยเงิน-เงินและเงิน ที่มีอย่างมากมายล้นเหลือของ ทักษิณ ณ ลอนดอน ที่ส่ง “ท่อน้ำเลี้ยง” มายังประเทศไทยอย่างไม่อั้น ส่งผลให้สถานการณ์ในเมืองไทย เกิดเหตุการณ์อันไม่ควรเกิด และไม่พึงประสงค์มากมายหลายเรื่อง
เกิดม็อบ นปก.ต่อต้านและขับไล่ คมช.อย่างต่อเนื่อง จนมีเรื่องที่ไม่เคยเกิดในประเทศไทย นั่นคือ มีการเดินขบวนไปตะโกนด่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ถึงหน้าบ้านสี่เสา กระทั่งกลายเป็นการจลาจลย่อย ตำรวจต้องเข้าสลายการชุมนุม จับกุมผู้นำ นปก.ไปหลายคน!
เกิดการถูกยุบพรรคของไทยรักไทย โดยตุลาการรัฐธรรมนูญในข้อหาร้ายแรง เป็นภัยต่อความมั่นคงของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น เป็นเรื่องประหลาดที่ไม่ได้ทำให้บรรดาสาวกน้อยใหญ่ ของอดีตพรรคไทยรักไทยตกใจหรือหวาดเกรงใดๆ เลย
กับคนเหล่านี้ จิตสำนึกถูก-ผิดที่มนุษย์ควรจะมีบ้างไม่มากก็น้อยนั้น ดูเหมือนจะตายด้านเอาดื้อๆ
ตรงนี้เลยเกิดเรื่องแปลกๆ และเหลือเชื่อหลายกรณี นั่นคือ เกิดการยึดพรรคพลังประชาชนอย่างหน้าตาเฉย
โดยเฉพาะเกิดการผสมพันธุ์ระหว่างนายสมัคร สุนทรเวช แกนนำการปลุกระดมมวลชน จนนำไปสู่การฆ่าหมู่ผู้คนอย่างหฤโหด ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
กับบรรดาอดีตผู้นำนักศึกษา ที่เคยถูกไล่ล่าฆ่าฟันจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ถึงขนาดต้องเข้าป่าจับปืนร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อย่างนายเลี๊ยบ-สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายมิ้ง-พรหมินท์ เลิศสุริย์เดช นายอ๋อย-จาตุรนต์ ฉายแสง นายสุธรรม แสงประทุม ฯลฯ
บรรดาอดีตผู้นำนักศึกษาผู้เคยมากอุดมการณ์ เคยเคียดแค้นจนถึงกับประกาศว่า จะล้างแค้นนายสมัคร สุนทรเวช ด้วยวิธี “ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน” และ “เลือดต้องล้างด้วยเลือด”
ทว่าวันนี้..นายสมัครกับอดีตฝ่ายซ้ายเหล่านี้ ได้สร้างปรากฏการณ์แปลกประหลาดต่อผู้คน เมื่อพวกเขาได้จูบปาก-กอดคอกันช่วยทักษิณอย่างเปิดเผย โดยไม่อายฟ้าอายดินแต่ประการใด
เกิดปรากฏการณ์ที่อดีต ส.ส.กว่า 200 คน ปักหลักอยู่กับพรรคการเมือง (พลังประชาชน) ของตระกูลชินวัตร ซึ่งเชื่อกันว่า..มีเงิน-เงินและเงินมากมายมหาศาลอยู่ในพรรคนี้ ดังนั้นแม้นฝ่ายไม่เอาทักษิณที่มีทั้งรัฐบาล คมช. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และประชาชนอีกมากมายในประเทศนี้ จะต่อต้าน-คัดค้าน-ทักท้วงนักการเมืองเหล่านี้สักปานใด
ไม่น่าเชื่อแต่ต้องเชื่อครับ อดีตนักการเมืองกว่า 200 คน กลับไม่ยี่หระ พวกเขายังคงจับกลุ่มการเมืองภายใต้ธง ทักษิณ ณ ลอนดอน เจ้าของตำรับ “เงิน-จ้างผีโม่แป้ง” ได้อย่างต่อเนื่อง...ตราบทุกวันนี้
แม้นทางฝ่ายนักการเมืองที่ดีดตัวเองออกมาจากร่มธงทักษิณ จะพยายามดึงคนในพรรคพลังประชาชนออกมา แต่ดูเหมือน..น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เงินน้อยย่อมแพ้เงินมาก นักการเมืองในพรรคพลังประชาชนก็ยังคงปักหลัก ยึดฐานที่มั่นในพรรคพลังประชาชนไว้อย่างเหนียวแน่น
การรวมตัวของอดีตบรรดา ส.ส.พลพรรคทักษิณครั้งนี้ เพียงเพื่อลงเลือกตั้งที่อาจจะเกิดขึ้นในราวปลายปีนี้ แน่นอน..ต้องชนะเท่านั้น เพื่อทักษิณจะได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาคดีความเรื่องคอร์รัปชัน และกลับมามีอำนาจบงการการเมืองอีกครั้งหนึ่ง
เห็นหรือยังว่า..เงิน-เงิน-เงินนั้น มันมีอิทธิพลยิ่งใหญ่ขนาดไหน?
จึงไม่น่าแปลกใจที่วันนี้ ผู้คนทั้งในวงการเมืองและถนนแทบทุกสาย มุ่งหน้าไปมาหาสู่กับ “ท่อน้ำเลี้ยง” ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ชนิดหัวบันไดลอนดอนไม่แห้งเลยเชียวแหละ
หลายคนอดหดหู่ไม่ได้กับสังคมประเทศไทยวันนี้ ที่กำลังกลายเป็นสังคมธนาธิปไตยไปแทบทุกหย่อมหญ้า ในขณะที่คุณธรรมอันดีงามเหือดหายไปเรื่อยๆ ในสังคมนี้
คนเป็นนักการเมือง คนที่จะมาเป็นผู้นำและมาบริหารประเทศ กลายเป็นทาสน้ำเงิน..แล้วสังคมนี้จะก้าวหน้าได้อย่างไร?
น่าสงสารประเทศไทย ที่ต้องลงทุนอย่างสูงเพื่อโค่นล้มรัฐบาลฉ้อฉลของทักษิณ ด้วยการรัฐประหารโดยคมช. แต่คมช.ดันตั้งนายกรัฐมนตรีและครม.ที่ไร้ประสิทธิภาพ-ไร้ความรับผิดชอบ-ไร้จิตสำนึกเท่าที่ควร
ภารกิจต่อต้านการคอร์รัปชัน ที่ควรได้รับการวางรากฐานเพื่ออนาคต การปฏิรูปสื่อสารมวลชน การปฏิรูปการเมือง การปฏิรูประบบราชการ ฯลฯ กลายเป็นหมันอย่างเหลือเชื่อในรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร!
ที่สำคัญ คมช.และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ยังบริหารประเทศนี้หน่อมแหน้มจนน่าเกลียด จนขบวนการทักษิณนับวันยิ่งเติบใหญ่เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนมีแนวโน้มว่า..หากเกิดการเลือกตั้งตามที่รัฐบาลกำหนดในปลายปีนี้ ทักษิณและพลพรรคมีโอกาสสูงมากที่จะชนะการเลือกตั้ง เมื่อถึงวันนั้น..ประเทศและสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะตกอยู่ในสถานะอันตรายยิ่งนัก
สถานการณ์ดังกล่าว มิใช่ผู้นำรัฐบาลและคมช.จะไม่รู้ แต่เราก็ไม่เห็นมาตรการใดเลยที่บ่งบอกว่า คมช.และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร จะจัดการให้ทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอยสู่สภาพปกติเลย
ต้องยอมรับว่า การเข้ามาบริหารประเทศของคมช. และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารวันนี้ ได้ลดทอนความมั่นคงทั้งทางตรงและทางอ้อม ของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งผลได้เปรียบแทบทุกมิติ ให้กับระบอบธนาธิปไตย อันมีทักษิณเป็นประมุข
วันนี้หากปล่อยให้ธนาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ต้องถูกตำหนิอย่างรุนแรง กับการบริหารประเทศที่ไม่เอาไหน-ไม่รับผิดชอบ เพราะนั่นเท่ากับสังคมไทยถึงจุดพึ่งพาอะไรกันไม่ได้อีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังเชื่อว่า ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในคราครั้งหน้า ธนาธิปไตยจะมีอันต้องพ่ายแพ้อีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
ส่วนธนาธิปไตยจะแพ้ด้วยวิธีไหน? แบบไหน? ตอนไหน?
ผมบอกได้เพียงว่า..อย่ากะพริบตาเด็ดขาดนะครับ!!!
“เงิน-จ้างผีโม่แป้งได้”
นั่นเป็นสุภาษิตจีน ที่คนวงในรู้ว่า พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระเหเร่ร่อนไปอยู่ ณ เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ชอบพูดเป็นประจำ
ด้วยเงิน-เงินและเงิน ที่มีอย่างมากมายล้นเหลือของ ทักษิณ ณ ลอนดอน ที่ส่ง “ท่อน้ำเลี้ยง” มายังประเทศไทยอย่างไม่อั้น ส่งผลให้สถานการณ์ในเมืองไทย เกิดเหตุการณ์อันไม่ควรเกิด และไม่พึงประสงค์มากมายหลายเรื่อง
เกิดม็อบ นปก.ต่อต้านและขับไล่ คมช.อย่างต่อเนื่อง จนมีเรื่องที่ไม่เคยเกิดในประเทศไทย นั่นคือ มีการเดินขบวนไปตะโกนด่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ถึงหน้าบ้านสี่เสา กระทั่งกลายเป็นการจลาจลย่อย ตำรวจต้องเข้าสลายการชุมนุม จับกุมผู้นำ นปก.ไปหลายคน!
เกิดการถูกยุบพรรคของไทยรักไทย โดยตุลาการรัฐธรรมนูญในข้อหาร้ายแรง เป็นภัยต่อความมั่นคงของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น เป็นเรื่องประหลาดที่ไม่ได้ทำให้บรรดาสาวกน้อยใหญ่ ของอดีตพรรคไทยรักไทยตกใจหรือหวาดเกรงใดๆ เลย
กับคนเหล่านี้ จิตสำนึกถูก-ผิดที่มนุษย์ควรจะมีบ้างไม่มากก็น้อยนั้น ดูเหมือนจะตายด้านเอาดื้อๆ
ตรงนี้เลยเกิดเรื่องแปลกๆ และเหลือเชื่อหลายกรณี นั่นคือ เกิดการยึดพรรคพลังประชาชนอย่างหน้าตาเฉย
โดยเฉพาะเกิดการผสมพันธุ์ระหว่างนายสมัคร สุนทรเวช แกนนำการปลุกระดมมวลชน จนนำไปสู่การฆ่าหมู่ผู้คนอย่างหฤโหด ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
กับบรรดาอดีตผู้นำนักศึกษา ที่เคยถูกไล่ล่าฆ่าฟันจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ถึงขนาดต้องเข้าป่าจับปืนร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อย่างนายเลี๊ยบ-สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายมิ้ง-พรหมินท์ เลิศสุริย์เดช นายอ๋อย-จาตุรนต์ ฉายแสง นายสุธรรม แสงประทุม ฯลฯ
บรรดาอดีตผู้นำนักศึกษาผู้เคยมากอุดมการณ์ เคยเคียดแค้นจนถึงกับประกาศว่า จะล้างแค้นนายสมัคร สุนทรเวช ด้วยวิธี “ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน” และ “เลือดต้องล้างด้วยเลือด”
ทว่าวันนี้..นายสมัครกับอดีตฝ่ายซ้ายเหล่านี้ ได้สร้างปรากฏการณ์แปลกประหลาดต่อผู้คน เมื่อพวกเขาได้จูบปาก-กอดคอกันช่วยทักษิณอย่างเปิดเผย โดยไม่อายฟ้าอายดินแต่ประการใด
เกิดปรากฏการณ์ที่อดีต ส.ส.กว่า 200 คน ปักหลักอยู่กับพรรคการเมือง (พลังประชาชน) ของตระกูลชินวัตร ซึ่งเชื่อกันว่า..มีเงิน-เงินและเงินมากมายมหาศาลอยู่ในพรรคนี้ ดังนั้นแม้นฝ่ายไม่เอาทักษิณที่มีทั้งรัฐบาล คมช. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และประชาชนอีกมากมายในประเทศนี้ จะต่อต้าน-คัดค้าน-ทักท้วงนักการเมืองเหล่านี้สักปานใด
ไม่น่าเชื่อแต่ต้องเชื่อครับ อดีตนักการเมืองกว่า 200 คน กลับไม่ยี่หระ พวกเขายังคงจับกลุ่มการเมืองภายใต้ธง ทักษิณ ณ ลอนดอน เจ้าของตำรับ “เงิน-จ้างผีโม่แป้ง” ได้อย่างต่อเนื่อง...ตราบทุกวันนี้
แม้นทางฝ่ายนักการเมืองที่ดีดตัวเองออกมาจากร่มธงทักษิณ จะพยายามดึงคนในพรรคพลังประชาชนออกมา แต่ดูเหมือน..น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เงินน้อยย่อมแพ้เงินมาก นักการเมืองในพรรคพลังประชาชนก็ยังคงปักหลัก ยึดฐานที่มั่นในพรรคพลังประชาชนไว้อย่างเหนียวแน่น
การรวมตัวของอดีตบรรดา ส.ส.พลพรรคทักษิณครั้งนี้ เพียงเพื่อลงเลือกตั้งที่อาจจะเกิดขึ้นในราวปลายปีนี้ แน่นอน..ต้องชนะเท่านั้น เพื่อทักษิณจะได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาคดีความเรื่องคอร์รัปชัน และกลับมามีอำนาจบงการการเมืองอีกครั้งหนึ่ง
เห็นหรือยังว่า..เงิน-เงิน-เงินนั้น มันมีอิทธิพลยิ่งใหญ่ขนาดไหน?
จึงไม่น่าแปลกใจที่วันนี้ ผู้คนทั้งในวงการเมืองและถนนแทบทุกสาย มุ่งหน้าไปมาหาสู่กับ “ท่อน้ำเลี้ยง” ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ชนิดหัวบันไดลอนดอนไม่แห้งเลยเชียวแหละ
หลายคนอดหดหู่ไม่ได้กับสังคมประเทศไทยวันนี้ ที่กำลังกลายเป็นสังคมธนาธิปไตยไปแทบทุกหย่อมหญ้า ในขณะที่คุณธรรมอันดีงามเหือดหายไปเรื่อยๆ ในสังคมนี้
คนเป็นนักการเมือง คนที่จะมาเป็นผู้นำและมาบริหารประเทศ กลายเป็นทาสน้ำเงิน..แล้วสังคมนี้จะก้าวหน้าได้อย่างไร?
น่าสงสารประเทศไทย ที่ต้องลงทุนอย่างสูงเพื่อโค่นล้มรัฐบาลฉ้อฉลของทักษิณ ด้วยการรัฐประหารโดยคมช. แต่คมช.ดันตั้งนายกรัฐมนตรีและครม.ที่ไร้ประสิทธิภาพ-ไร้ความรับผิดชอบ-ไร้จิตสำนึกเท่าที่ควร
ภารกิจต่อต้านการคอร์รัปชัน ที่ควรได้รับการวางรากฐานเพื่ออนาคต การปฏิรูปสื่อสารมวลชน การปฏิรูปการเมือง การปฏิรูประบบราชการ ฯลฯ กลายเป็นหมันอย่างเหลือเชื่อในรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร!
ที่สำคัญ คมช.และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ยังบริหารประเทศนี้หน่อมแหน้มจนน่าเกลียด จนขบวนการทักษิณนับวันยิ่งเติบใหญ่เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนมีแนวโน้มว่า..หากเกิดการเลือกตั้งตามที่รัฐบาลกำหนดในปลายปีนี้ ทักษิณและพลพรรคมีโอกาสสูงมากที่จะชนะการเลือกตั้ง เมื่อถึงวันนั้น..ประเทศและสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะตกอยู่ในสถานะอันตรายยิ่งนัก
สถานการณ์ดังกล่าว มิใช่ผู้นำรัฐบาลและคมช.จะไม่รู้ แต่เราก็ไม่เห็นมาตรการใดเลยที่บ่งบอกว่า คมช.และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร จะจัดการให้ทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอยสู่สภาพปกติเลย
ต้องยอมรับว่า การเข้ามาบริหารประเทศของคมช. และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารวันนี้ ได้ลดทอนความมั่นคงทั้งทางตรงและทางอ้อม ของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งผลได้เปรียบแทบทุกมิติ ให้กับระบอบธนาธิปไตย อันมีทักษิณเป็นประมุข
วันนี้หากปล่อยให้ธนาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ต้องถูกตำหนิอย่างรุนแรง กับการบริหารประเทศที่ไม่เอาไหน-ไม่รับผิดชอบ เพราะนั่นเท่ากับสังคมไทยถึงจุดพึ่งพาอะไรกันไม่ได้อีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังเชื่อว่า ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในคราครั้งหน้า ธนาธิปไตยจะมีอันต้องพ่ายแพ้อีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
ส่วนธนาธิปไตยจะแพ้ด้วยวิธีไหน? แบบไหน? ตอนไหน?
ผมบอกได้เพียงว่า..อย่ากะพริบตาเด็ดขาดนะครับ!!!