รองผู้ว่าฯ "อดิศร" แก๊งทักษิณ คุยฟุ้งลอยลำขึ้นผู้ว่าการกฟภ.ที่บอร์ดจะตัดสินวันนี้ ลือสนั่นพ่อค้าจับมือนายพลหอบเงินจ่ายใต้โต๊ะ - วิ่งเต้นผู้ใหญ่เคลียร์ทางโล่ง เผยขบวนการดัน "อดิศร" ขึ้นเป็นใหญ่เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันระหว่างเงิน-ตำแหน่ง กับการเข้าไปเคลียร์ปัญหาโครงการซอฟท์แวร์คอมพ์ฉาวที่เครือเอ็มลิงค์ของ "เจ๊แดง" ต้องถูกปรับกว่า 500 ล้าน คาดค่าปรับไม่เสียแถมได้ต่อสัญญาอีกต่างหาก
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (19 ก.ค.) คณะกรรมการ กฟภ.หรือบอร์ด จะประชุมพิจารณาคัดเลือกผู้ที่ผ่านการสรรหาขึ้นเป็นผู้ว่าการ กฟภ. ซึ่งมีกระแสข่าวว่านายอดิศร เกียรติโชควิวัฒน์ รองผู้ว่าการอำนวยการ มีความมั่นใจอย่างมากและคุยฟุ้งว่าเคลียร์ทางสะดวกทั้งหมดแล้ว โดยมีพ่อค้าและนายพลที่ใกล้ชิดในระดับเครือญาติกับบิ๊กมหาดไทย เป็นผู้ประสานและจ่ายผลประโยชน์เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง และยังมีการต่อสายถึงทำเนียบรัฐบาลแล้วด้วย
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ขบวนการดันนายอดิศร ขึ้นตำแหน่งผู้ว่าการฯ ครั้งนี้มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนอยู่เบื้องหลัง กล่าวคือ 1) นายอดิศร อาจจะสามารถใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เข้ามากลบเกลื่อนหลักฐานและการกระทำ พฤติกรรม ที่อาจเข้าข่ายทุจริตในโครงการซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ลอกสเปกให้กับกลุ่มบริษัทพอร์ทัลเนท จำกัด ในเครือเอ็มลิงค์ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ "เจ๊แดง" ซึ่งโครงการนี้ นายอดิศร เป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเบื้องต้นและพิจารณาผลการประกวดราคา ขณะนี้โครงการดังกล่าว กำลังถูก สตง. เข้ามาตรวจสอบ และมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย
2) โครงการซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ดังกล่าว สิ้นสุดสัญญาส่งมอบงานตามสัญญาตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2550 ที่ผ่านมาแล้ว แต่กลุ่มบริษัทพอร์ทัลเนท ยังไม่สามารถส่งมอบงานได้ครบตามสัญญา โดยส่งมอบได้เพียง 5 ระบบ จาก 9 ระบบ ซึ่งสัญญาโครงการ ระบุว่า กรณีไม่สามารถส่งมอบงานให้ครบถ้วน บริษัทฯ ต้องถูกปรับวันละ 4 ล้านบาท หรือเดือนละ 120 ล้านบาท จนถึงขณะนี้ค่าปรับตกประมาณ 500 ล้านบาท และทาง กฟภ. ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาเรื่องค่าปรับรวมถึงการต่อสัญญา
"ตอนนี้คณะกรรมการฯ กำลังพิจารณากันว่า หากต่อสัญญาให้ บริษัทจะมีความสามารถทำงานให้ กฟภ.ได้สำเร็จหรือไม่ แต่ผลงานที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องของบริษัทในการทำระบบ จึงมีแนวโน้มที่จะไม่ต่อสัญญาและคิดค่าปรับ แต่ถ้าหากนายอดิศร เข้ามาเป็นผู้ว่าการฯ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะสั่งการให้ต่อสัญญาและไม่ต้องคิดค่าปรับจากบริษัทที่ตนเองมีส่วนคัดเลือกให้ชนะประมูล" แหล่งข่าว กล่าว
อนึ่ง ในเอกสารที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ระบุว่า นายอดิศร ซึ่งเป็นประธานพิจารณาคัดเลือกและพิจารณาผลการประกวดราคาโครงการข้างต้น เรียน วปรอ.รุ่น 4414 รุ่นเดียวกับนายพายัพ ชินวัตร อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย พี่ชายของนางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเพอร์ทัลเนท เครือเอ็มลิงค์ ที่ชนะประมูล และเป็นน้องของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก
ส่วนการดำเนินการในการประกวดราครที่ส่อว่ามีการทุจริต ฮั้วประมูลสมยอมกันระหว่างบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก คือ ในขั้นตอนประมูลจัดให้แยกซองราคาและซองเทคนิก โดยให้เปิดซองเทคนิกก่อน ซึ่งจากผู้ยื่นซองเทคนิก 6 ราย ปรากฏว่าผ่านเพียงรายเดียว คือกลุ่มบริษัทเพอร์ทัลเนท ส่วนอีก 5 บริษัทซึ่งเป็นบริษัทใหญ่มีประสบการณ์การทำงานไม่ผ่านเทคนิกเพราะมีเจตนาสมยอมกัน
กล่าวคือ กลุ่มบ.เอคเซนเชอร์ -ไอทีวัน-ยิบอินซอย ได้ถอด ยิบอินซอย ออกในการยื่นแบบประกวดราคาเพราะต้องการทำให้ผิดเงื่อนไข และไอทีวันซึ่งมีตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจถือหุ้นก็ถือหุ้นใหญ่ในเครือเอ็มลิงค์ด้วย ส่วนกลุ่มสามารถเทเลคอม มีผู้ถือหุ้นในตระกูลจุฬางกูร เครือญาติกับตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้นใหญ่ในสามารถเทเลคอมและเพอร์ทัลเนท ขณะที่กลุ่มบริษัทธุรกิจร่วมค้า สยามเทลเลคอมพิวเตอร์ฯ เป็นบริษัทในเครือจัสมินของนายอดิศัย โพธารามิก อดีตรมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลทักษิณ เป็นต้น
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (19 ก.ค.) คณะกรรมการ กฟภ.หรือบอร์ด จะประชุมพิจารณาคัดเลือกผู้ที่ผ่านการสรรหาขึ้นเป็นผู้ว่าการ กฟภ. ซึ่งมีกระแสข่าวว่านายอดิศร เกียรติโชควิวัฒน์ รองผู้ว่าการอำนวยการ มีความมั่นใจอย่างมากและคุยฟุ้งว่าเคลียร์ทางสะดวกทั้งหมดแล้ว โดยมีพ่อค้าและนายพลที่ใกล้ชิดในระดับเครือญาติกับบิ๊กมหาดไทย เป็นผู้ประสานและจ่ายผลประโยชน์เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง และยังมีการต่อสายถึงทำเนียบรัฐบาลแล้วด้วย
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ขบวนการดันนายอดิศร ขึ้นตำแหน่งผู้ว่าการฯ ครั้งนี้มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนอยู่เบื้องหลัง กล่าวคือ 1) นายอดิศร อาจจะสามารถใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เข้ามากลบเกลื่อนหลักฐานและการกระทำ พฤติกรรม ที่อาจเข้าข่ายทุจริตในโครงการซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ลอกสเปกให้กับกลุ่มบริษัทพอร์ทัลเนท จำกัด ในเครือเอ็มลิงค์ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ "เจ๊แดง" ซึ่งโครงการนี้ นายอดิศร เป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเบื้องต้นและพิจารณาผลการประกวดราคา ขณะนี้โครงการดังกล่าว กำลังถูก สตง. เข้ามาตรวจสอบ และมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย
2) โครงการซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ดังกล่าว สิ้นสุดสัญญาส่งมอบงานตามสัญญาตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2550 ที่ผ่านมาแล้ว แต่กลุ่มบริษัทพอร์ทัลเนท ยังไม่สามารถส่งมอบงานได้ครบตามสัญญา โดยส่งมอบได้เพียง 5 ระบบ จาก 9 ระบบ ซึ่งสัญญาโครงการ ระบุว่า กรณีไม่สามารถส่งมอบงานให้ครบถ้วน บริษัทฯ ต้องถูกปรับวันละ 4 ล้านบาท หรือเดือนละ 120 ล้านบาท จนถึงขณะนี้ค่าปรับตกประมาณ 500 ล้านบาท และทาง กฟภ. ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาเรื่องค่าปรับรวมถึงการต่อสัญญา
"ตอนนี้คณะกรรมการฯ กำลังพิจารณากันว่า หากต่อสัญญาให้ บริษัทจะมีความสามารถทำงานให้ กฟภ.ได้สำเร็จหรือไม่ แต่ผลงานที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องของบริษัทในการทำระบบ จึงมีแนวโน้มที่จะไม่ต่อสัญญาและคิดค่าปรับ แต่ถ้าหากนายอดิศร เข้ามาเป็นผู้ว่าการฯ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะสั่งการให้ต่อสัญญาและไม่ต้องคิดค่าปรับจากบริษัทที่ตนเองมีส่วนคัดเลือกให้ชนะประมูล" แหล่งข่าว กล่าว
อนึ่ง ในเอกสารที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ระบุว่า นายอดิศร ซึ่งเป็นประธานพิจารณาคัดเลือกและพิจารณาผลการประกวดราคาโครงการข้างต้น เรียน วปรอ.รุ่น 4414 รุ่นเดียวกับนายพายัพ ชินวัตร อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย พี่ชายของนางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเพอร์ทัลเนท เครือเอ็มลิงค์ ที่ชนะประมูล และเป็นน้องของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก
ส่วนการดำเนินการในการประกวดราครที่ส่อว่ามีการทุจริต ฮั้วประมูลสมยอมกันระหว่างบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก คือ ในขั้นตอนประมูลจัดให้แยกซองราคาและซองเทคนิก โดยให้เปิดซองเทคนิกก่อน ซึ่งจากผู้ยื่นซองเทคนิก 6 ราย ปรากฏว่าผ่านเพียงรายเดียว คือกลุ่มบริษัทเพอร์ทัลเนท ส่วนอีก 5 บริษัทซึ่งเป็นบริษัทใหญ่มีประสบการณ์การทำงานไม่ผ่านเทคนิกเพราะมีเจตนาสมยอมกัน
กล่าวคือ กลุ่มบ.เอคเซนเชอร์ -ไอทีวัน-ยิบอินซอย ได้ถอด ยิบอินซอย ออกในการยื่นแบบประกวดราคาเพราะต้องการทำให้ผิดเงื่อนไข และไอทีวันซึ่งมีตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจถือหุ้นก็ถือหุ้นใหญ่ในเครือเอ็มลิงค์ด้วย ส่วนกลุ่มสามารถเทเลคอม มีผู้ถือหุ้นในตระกูลจุฬางกูร เครือญาติกับตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้นใหญ่ในสามารถเทเลคอมและเพอร์ทัลเนท ขณะที่กลุ่มบริษัทธุรกิจร่วมค้า สยามเทลเลคอมพิวเตอร์ฯ เป็นบริษัทในเครือจัสมินของนายอดิศัย โพธารามิก อดีตรมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลทักษิณ เป็นต้น