.
ม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่อุตส่าห์รวมตัวกันจัดตั้งสถาปนาแกนนำ 7 คน ใครเป็นใครบ้างทุกท่านคงทราบดี ใครสนใจอยากรู้ประวัติขอเชิญอ่านรายละเอียดถอดเทป รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ที่ผ่านมา
กลุ่มคนที่เข้าร่วมม็อบครั้งนี้มีจำนวนไม่น้อยทีเดียว ส่วนใหญ่เป็นคนจากกลุ่มคนเคยรักทักษิณและปัจจุบันก็ยังรักและจงรักภักดีไม่เสื่อมคลาย
ความพยายามของแกนนำที่มาจากพรรคไทยรักไทยที่ต้องการปลุกระดม ให้เกิดความรุนแรงจนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะได้เข้าทาง
แต่น่าเสียดายม็อบครั้งนี้จุดไม่ติดออกอาการแป้ก เหมือนกับที่ผมเคยวิเคราะห์ไว้เมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อน
ที่เป็นอย่างนี้เป็นเพราะกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมขาดอุดมการณ์ร่วมกัน ธงในการนำ หรือเป้าหมายในการชุมนุมก็ไม่มีความชัดเจน
เงื่อนไขการชุมนุมก็ไม่ถูกต้อง เพราะไปยืนอยู่ในฝั่งที่ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และข้อเท็จจริง
ผลประโยชน์ของการต่อสู้เพื่อทักษิณ เพื่อกลุ่มพรรคพวกเป็นหลัก ไม่ใช่ผลประโยชน์เพื่อชาติและประชาชนส่วนรวม ปัญหาเพื่อใครเป็นปัญหาพื้นฐานและหลักการ
การที่ม็อบจุดไม่ติดก็เพราะเขาทำเพื่อทักษิณ ไม่ใช่ทำเพื่อชาติประชาชนและประชาธิปไตย เมื่อปัญหาเพื่อใครผิดความพ่ายแพ้ก็จะเกิดขึ้น
การจะอ้างแต่ต้องการประชาธิปไตยกลับคืนมา ขับไล่ คมช. คงจะไม่เพียงพอและเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เสียงตะโกนทักษิณสู้ๆ ดังกว่า เอาประชาธิปไตยคืนมาเสียอีก
จริงอยู่ ทหารเข้ามายึดอำนาจโดยวิถีทางนอกระบบที่ไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม แต่เมื่อเปรียบเทียบกับทักษิณแล้วถือได้ว่าดีกว่ามาก
ยิ่งตอนนี้มีการอายัดทรัพย์ คดีต่างๆ เริ่มงวดเข้ามา กลุ่มอำนาจเก่าดิ้นทุรนทุราย เพราะอาการใกล้คุกเฉียดกรายเข้ามาเรื่อยๆ แม้กระทั่งการตัดสินยุบพรรคที่ตอนแรกแกนนำพรรคบอกว่าจะเคารพการตัดสิน แต่พอมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคก็ออกอาการป่าช้าแตก ระดมพลทั้งไพร่ราบพลเลวเปิดเวทีถล่มผู้ที่เกี่ยวข้องกันอย่างเต็มที่
ลุกลามมาถึงการขู่จะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำลังมีการแปรญัตติกันอยู่ แล้วไหนที่ว่าต้องการประชาธิปไตย ต้องการให้เกิดการเลือกตั้ง รอเสียหน่อยเป็นไร เขาก็จะจัดให้อยู่แล้ว
อยากได้รัฐธรรมนูญอย่างไรก็ไม่เห็นบอกแจ้งให้ปรากฏชัดเจน มีแต่จะคว่ำอยู่ท่าเดียว ข้อเรียกร้องจึงขาดเหตุขาดผล
การกระทำทั้งหมด เป็นลักษณะของคนพาล ที่หาทางขัดขวางทุกอย่าง
ยุทธวิธีที่ใช้กดดันทั้งภายในและนอกประเทศ เช่น การให้บริษัทกฎหมายที่ทักษิณจ้างให้ทำงาน ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติบอยคอต หรือลงโทษประเทศไทยด้วยการปิดกั้นการลงทุน เพราะการอายัดทรัพย์ถือเป็นการแก้แค้นทางการเมืองต่อลูกค้าของบริษัท
นี่ยังไม่รวมกับกระแสการเรียกร้องของอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาจัดการการเลือกตั้ง
ไหนใครเคยบอกว่า ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ แล้วครั้งนี้จะไปง้อเขาทำไม และในหลักตรรกะไม่ใช่เรื่องที่คนไทยจะชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านตนเอง
การที่คนคนเดียวหรือครอบครัวที่สูญเสียผลประโยชน์ออกมาทำร้ายบ้านเมืองและประเทศชาติ ท่านทั้งหลายคิดไม่ออกหรือว่าเขาทำอย่างนี้เพื่ออะไร
การยุบสภาเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 นั่นก็เป็นกรณีหนึ่งที่ทักษิณใช้อำนาจใช้เครื่องมือกลไกของรัฐทุกชนิดเพื่อปกป้องการกระทำความผิดของตนเองหลบหนีการอภิปรายตรวจสอบการขายหุ้นชินฯ ให้เทมาเส็ก การหนีภาษี การขายสมบัติชาติ รักษาผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัว
ลำพังแค่ทรัพย์สมบัติที่อยู่นอกประเทศ และที่ผ่องถ่ายไปส่วนหนึ่ง ยังใช้ไม่พออีกหรือ
เคยฉุกคิดหรือไม่ว่าเงิน สมบัติที่มีอยู่ ได้มาอย่างไร โกงเขามาหรือไม่ ไม่ต้องมีใครตอบ ทักษิณกับครอบครัวรู้ดีแก่ใจ ไม่เช่นนั้น กระเสือกกระสนทำไม ถ้าบริสุทธิ์จริง ทรัพย์ที่ถูกอายัดไป คตส. ก็เปิดโอกาสให้คุณชี้แจงได้ภายใน 60 วัน
อะไรที่เป็นของคุณ มันย่อมเป็นของคุณ อะไรที่ไม่ใช่ก็ต้องให้เขายึดไป
เรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมไม่เข้าใจ หรือใจคอจะเอาทุกบาททุกสตางค์เศษตังค์ก็ไม่ให้กระเด็น ผมอยากจะบอกว่า ถ้าโดนยึดทรัพย์ไปบ้างก็ถือว่าคุณทักษิณจ่ายค่าคอมมิชชันให้ประเทศไทย ยุติธรรมดี
ตอนนี้ ทักษิณเองใช้ยุทธวิธีปลดล็อกตัวเองด้วยกุญแจ 3 ดอก
กุญแจดอกที่ 1 ถอย เพื่อเข้าสู่หนทางลี้ภัยทางการเมือง การถอยหนีเป็นวิธีการที่ชาญฉลาดวิธีหนึ่งของการต่อสู้ สร้างความน่าสงสารบอกว่าขณะนี้ตนถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองถึงขั้นสั่งลอบฆ่า แอบปฏิวัติลับหลังตอนไม่อยู่ ถูก คตส. อายัดทรัพย์ ซึ่งเป็นเงินที่ทำธุรกิจมาตลอดชีวิต ถูกใส่ร้าย สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ลูกเมียถูกรังแกกลั่นแกล้ง
การกล่าวอย่างนี้เพื่อสร้างให้เห็นว่าเขามีความกลัวการถูกทำร้าย ไม่มีความปลอดภัยในชีวิต มีสิทธิที่จะแสวงหาและพักพิงในประเทศอื่นเพื่อลี้ภัยจากการกดขี่ข่มเหงโดยขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง
กุญแจดอกที่ 2 ตั้งรับ โดยข้อเสนอสมานฉันท์เจราจาต่อรอง บอกว่าพร้อมที่จะคุยกับ คมช. และรัฐบาล เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ควรเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง
กุญแจดอกที่ 3 รุก ต่อสู้เพื่อแย่งยึดอำนาจทางการเมืองทุกรูปแบบ รวมทั้งพร้อมต่อสู้คดีทุกรูปแบบ เพื่อเรียกร้องสิทธิและกอบกู้ศักดิ์ศรีของตนคืน แต่ไม่วายบอกว่าไม่มีความเชื่อมั่นและศรัทธากระบวนการยุติธรรมของไทยที่อยู่ภายใต้อำนาจของ คมช.
คุณทักษิณคุณต้องไม่ลืมนะครับว่าคุณมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริต ร่ำรวยผิดปกติ ล้วนแล้วแต่เป็นความผิดอาญาแผ่นดินทั้งสิ้น
ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะขอลี้ภัยทางการเมือง สุดท้ายจะต้องนำตัวมาขึ้นศาลสถิตยุติธรรม หากอยู่ภายในประเทศถ้าไม่มาขึ้นศาลต้องทำการจับกุมขึ้นสู่ศาล หากอยู่ต่างประเทศ รัฐบาลไทยต้องขอให้ประเทศที่คุณทักษิณพำนักอยู่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
การสร้างม็อบขึ้นมาเพื่อสร้างสถานการณ์ สร้างเงื่อนไขให้ครบองค์ประกอบของการขอลี้ภัยทางการเมือง
พลพรรคที่ใช้เป็นเพียงทหารรับจ้าง ที่คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ค่าตอบแทนของตนเองเท่านั้น ผมอยากจะเรียกด้วยซ้ำว่าสมัยนี้เป็นม็อบรับจ้างรายวัน ทำการเคลื่อนไหวตามการสั่งจ่าย หรือตามแรงอัดฉีดของท่อน้ำเลี้ยง
ความอ่อนแอของม็อบรับจ้างมีเยอะ กองกำลังรับจ้างจะมีความอ่อนแอที่สุด เห็นไหมครับฝนตกนิดเดียวหายเกลี้ยง เป็นกลุ่มคนที่ไร้ระเบียบ ไร้วินัย ไร้การจัดตั้ง ไม่มีความเข้มแข็ง คนเหล่านี้ดีแต่ทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิงผลประโยชน์ว่าใครจะได้มากกว่ากัน เป็นม็อบที่ทำลายมากกว่าสร้างสรรค์
ไม่ทราบว่าผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการจะรู้สึกเสียดายเงินลงทุนครั้งนี้บ้างหรือไม่ แต่ถ้าถือว่าเป็นการกระจายรายได้ก็ไม่เป็นไร
แต่ คมช. ต้องระวังนะครับอย่าประมาท คนไปฟังม็อบสนามหลวงทุกวันอาจจะถูกสะกดจิตหมู่แบบ น.พ.ประกิตเผ่า ได้และไม่แน่ใจว่าโรงพยาบาลไหนจะรักษาอาการทักษิณลิสซึ่มได้
ทางแก้ต้องชำแหละทักษิณให้ประชาชนหูตาสว่างมากขึ้นกว่านี้
ผมพยายามเพียรบอกท่านตั้งแต่วันที่ทหารเข้ามายึดอำนาจ บอกว่าให้ลำเลียงข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบถึงความชั่วร้ายของทักษิณและบริวาร
ตอนนี้ท่านมีเครื่องมือที่ดีที่สุด คำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย ต้องนำออกอากาศให้ประชาชนเข้าใจ ไม่เช่นนั้นจะมีความคลุมเครือในสังคมซึ่งไม่เกิดผลดีกับรัฐบาลหรือ คมช.เลย
ยิ่งมีข่าวเรื่องการติดสินบนตุลาการรัฐธรรมนูญ แบบมีใบเสร็จออกมายืนยัน ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องสืบสวนเรื่องนี้ หาคนผิดมาลงโทษอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลในสังคม
อย่าให้เงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่างในสังคมไทยได้ แม้กระทั่งความถูกต้อง
ผมเห็นด้วยกับการที่คุณจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรมส่งเรื่องการติดสินบนให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา
มีการขยายผลว่า ผู้ที่พยายามให้สินบนตุลาการรัฐธรรมนูญเป็นข้าราชการซึ่งเคยมีพฤติกรรมทำเช่นนี้ในคดีอื่นมาแล้วจนเป็นที่รู้กันของคนที่อยู่ใกล้ชิด
เรื่องนี้ทำเอาผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาโวยวายกินปูนร้องท้องกันเป็นแถว
งานนี้ต้องเอาจริงเอาจังครับ อย่าให้แป้กเหมือนม็อบพีทีวีทักษิณสู้ๆ ที่สนามหลวงเลย
ม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่อุตส่าห์รวมตัวกันจัดตั้งสถาปนาแกนนำ 7 คน ใครเป็นใครบ้างทุกท่านคงทราบดี ใครสนใจอยากรู้ประวัติขอเชิญอ่านรายละเอียดถอดเทป รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ที่ผ่านมา
กลุ่มคนที่เข้าร่วมม็อบครั้งนี้มีจำนวนไม่น้อยทีเดียว ส่วนใหญ่เป็นคนจากกลุ่มคนเคยรักทักษิณและปัจจุบันก็ยังรักและจงรักภักดีไม่เสื่อมคลาย
ความพยายามของแกนนำที่มาจากพรรคไทยรักไทยที่ต้องการปลุกระดม ให้เกิดความรุนแรงจนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะได้เข้าทาง
แต่น่าเสียดายม็อบครั้งนี้จุดไม่ติดออกอาการแป้ก เหมือนกับที่ผมเคยวิเคราะห์ไว้เมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อน
ที่เป็นอย่างนี้เป็นเพราะกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมขาดอุดมการณ์ร่วมกัน ธงในการนำ หรือเป้าหมายในการชุมนุมก็ไม่มีความชัดเจน
เงื่อนไขการชุมนุมก็ไม่ถูกต้อง เพราะไปยืนอยู่ในฝั่งที่ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และข้อเท็จจริง
ผลประโยชน์ของการต่อสู้เพื่อทักษิณ เพื่อกลุ่มพรรคพวกเป็นหลัก ไม่ใช่ผลประโยชน์เพื่อชาติและประชาชนส่วนรวม ปัญหาเพื่อใครเป็นปัญหาพื้นฐานและหลักการ
การที่ม็อบจุดไม่ติดก็เพราะเขาทำเพื่อทักษิณ ไม่ใช่ทำเพื่อชาติประชาชนและประชาธิปไตย เมื่อปัญหาเพื่อใครผิดความพ่ายแพ้ก็จะเกิดขึ้น
การจะอ้างแต่ต้องการประชาธิปไตยกลับคืนมา ขับไล่ คมช. คงจะไม่เพียงพอและเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เสียงตะโกนทักษิณสู้ๆ ดังกว่า เอาประชาธิปไตยคืนมาเสียอีก
จริงอยู่ ทหารเข้ามายึดอำนาจโดยวิถีทางนอกระบบที่ไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม แต่เมื่อเปรียบเทียบกับทักษิณแล้วถือได้ว่าดีกว่ามาก
ยิ่งตอนนี้มีการอายัดทรัพย์ คดีต่างๆ เริ่มงวดเข้ามา กลุ่มอำนาจเก่าดิ้นทุรนทุราย เพราะอาการใกล้คุกเฉียดกรายเข้ามาเรื่อยๆ แม้กระทั่งการตัดสินยุบพรรคที่ตอนแรกแกนนำพรรคบอกว่าจะเคารพการตัดสิน แต่พอมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคก็ออกอาการป่าช้าแตก ระดมพลทั้งไพร่ราบพลเลวเปิดเวทีถล่มผู้ที่เกี่ยวข้องกันอย่างเต็มที่
ลุกลามมาถึงการขู่จะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำลังมีการแปรญัตติกันอยู่ แล้วไหนที่ว่าต้องการประชาธิปไตย ต้องการให้เกิดการเลือกตั้ง รอเสียหน่อยเป็นไร เขาก็จะจัดให้อยู่แล้ว
อยากได้รัฐธรรมนูญอย่างไรก็ไม่เห็นบอกแจ้งให้ปรากฏชัดเจน มีแต่จะคว่ำอยู่ท่าเดียว ข้อเรียกร้องจึงขาดเหตุขาดผล
การกระทำทั้งหมด เป็นลักษณะของคนพาล ที่หาทางขัดขวางทุกอย่าง
ยุทธวิธีที่ใช้กดดันทั้งภายในและนอกประเทศ เช่น การให้บริษัทกฎหมายที่ทักษิณจ้างให้ทำงาน ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติบอยคอต หรือลงโทษประเทศไทยด้วยการปิดกั้นการลงทุน เพราะการอายัดทรัพย์ถือเป็นการแก้แค้นทางการเมืองต่อลูกค้าของบริษัท
นี่ยังไม่รวมกับกระแสการเรียกร้องของอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาจัดการการเลือกตั้ง
ไหนใครเคยบอกว่า ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ แล้วครั้งนี้จะไปง้อเขาทำไม และในหลักตรรกะไม่ใช่เรื่องที่คนไทยจะชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านตนเอง
การที่คนคนเดียวหรือครอบครัวที่สูญเสียผลประโยชน์ออกมาทำร้ายบ้านเมืองและประเทศชาติ ท่านทั้งหลายคิดไม่ออกหรือว่าเขาทำอย่างนี้เพื่ออะไร
การยุบสภาเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 นั่นก็เป็นกรณีหนึ่งที่ทักษิณใช้อำนาจใช้เครื่องมือกลไกของรัฐทุกชนิดเพื่อปกป้องการกระทำความผิดของตนเองหลบหนีการอภิปรายตรวจสอบการขายหุ้นชินฯ ให้เทมาเส็ก การหนีภาษี การขายสมบัติชาติ รักษาผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัว
ลำพังแค่ทรัพย์สมบัติที่อยู่นอกประเทศ และที่ผ่องถ่ายไปส่วนหนึ่ง ยังใช้ไม่พออีกหรือ
เคยฉุกคิดหรือไม่ว่าเงิน สมบัติที่มีอยู่ ได้มาอย่างไร โกงเขามาหรือไม่ ไม่ต้องมีใครตอบ ทักษิณกับครอบครัวรู้ดีแก่ใจ ไม่เช่นนั้น กระเสือกกระสนทำไม ถ้าบริสุทธิ์จริง ทรัพย์ที่ถูกอายัดไป คตส. ก็เปิดโอกาสให้คุณชี้แจงได้ภายใน 60 วัน
อะไรที่เป็นของคุณ มันย่อมเป็นของคุณ อะไรที่ไม่ใช่ก็ต้องให้เขายึดไป
เรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมไม่เข้าใจ หรือใจคอจะเอาทุกบาททุกสตางค์เศษตังค์ก็ไม่ให้กระเด็น ผมอยากจะบอกว่า ถ้าโดนยึดทรัพย์ไปบ้างก็ถือว่าคุณทักษิณจ่ายค่าคอมมิชชันให้ประเทศไทย ยุติธรรมดี
ตอนนี้ ทักษิณเองใช้ยุทธวิธีปลดล็อกตัวเองด้วยกุญแจ 3 ดอก
กุญแจดอกที่ 1 ถอย เพื่อเข้าสู่หนทางลี้ภัยทางการเมือง การถอยหนีเป็นวิธีการที่ชาญฉลาดวิธีหนึ่งของการต่อสู้ สร้างความน่าสงสารบอกว่าขณะนี้ตนถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองถึงขั้นสั่งลอบฆ่า แอบปฏิวัติลับหลังตอนไม่อยู่ ถูก คตส. อายัดทรัพย์ ซึ่งเป็นเงินที่ทำธุรกิจมาตลอดชีวิต ถูกใส่ร้าย สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ลูกเมียถูกรังแกกลั่นแกล้ง
การกล่าวอย่างนี้เพื่อสร้างให้เห็นว่าเขามีความกลัวการถูกทำร้าย ไม่มีความปลอดภัยในชีวิต มีสิทธิที่จะแสวงหาและพักพิงในประเทศอื่นเพื่อลี้ภัยจากการกดขี่ข่มเหงโดยขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง
กุญแจดอกที่ 2 ตั้งรับ โดยข้อเสนอสมานฉันท์เจราจาต่อรอง บอกว่าพร้อมที่จะคุยกับ คมช. และรัฐบาล เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ควรเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง
กุญแจดอกที่ 3 รุก ต่อสู้เพื่อแย่งยึดอำนาจทางการเมืองทุกรูปแบบ รวมทั้งพร้อมต่อสู้คดีทุกรูปแบบ เพื่อเรียกร้องสิทธิและกอบกู้ศักดิ์ศรีของตนคืน แต่ไม่วายบอกว่าไม่มีความเชื่อมั่นและศรัทธากระบวนการยุติธรรมของไทยที่อยู่ภายใต้อำนาจของ คมช.
คุณทักษิณคุณต้องไม่ลืมนะครับว่าคุณมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริต ร่ำรวยผิดปกติ ล้วนแล้วแต่เป็นความผิดอาญาแผ่นดินทั้งสิ้น
ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะขอลี้ภัยทางการเมือง สุดท้ายจะต้องนำตัวมาขึ้นศาลสถิตยุติธรรม หากอยู่ภายในประเทศถ้าไม่มาขึ้นศาลต้องทำการจับกุมขึ้นสู่ศาล หากอยู่ต่างประเทศ รัฐบาลไทยต้องขอให้ประเทศที่คุณทักษิณพำนักอยู่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
การสร้างม็อบขึ้นมาเพื่อสร้างสถานการณ์ สร้างเงื่อนไขให้ครบองค์ประกอบของการขอลี้ภัยทางการเมือง
พลพรรคที่ใช้เป็นเพียงทหารรับจ้าง ที่คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ค่าตอบแทนของตนเองเท่านั้น ผมอยากจะเรียกด้วยซ้ำว่าสมัยนี้เป็นม็อบรับจ้างรายวัน ทำการเคลื่อนไหวตามการสั่งจ่าย หรือตามแรงอัดฉีดของท่อน้ำเลี้ยง
ความอ่อนแอของม็อบรับจ้างมีเยอะ กองกำลังรับจ้างจะมีความอ่อนแอที่สุด เห็นไหมครับฝนตกนิดเดียวหายเกลี้ยง เป็นกลุ่มคนที่ไร้ระเบียบ ไร้วินัย ไร้การจัดตั้ง ไม่มีความเข้มแข็ง คนเหล่านี้ดีแต่ทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิงผลประโยชน์ว่าใครจะได้มากกว่ากัน เป็นม็อบที่ทำลายมากกว่าสร้างสรรค์
ไม่ทราบว่าผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการจะรู้สึกเสียดายเงินลงทุนครั้งนี้บ้างหรือไม่ แต่ถ้าถือว่าเป็นการกระจายรายได้ก็ไม่เป็นไร
แต่ คมช. ต้องระวังนะครับอย่าประมาท คนไปฟังม็อบสนามหลวงทุกวันอาจจะถูกสะกดจิตหมู่แบบ น.พ.ประกิตเผ่า ได้และไม่แน่ใจว่าโรงพยาบาลไหนจะรักษาอาการทักษิณลิสซึ่มได้
ทางแก้ต้องชำแหละทักษิณให้ประชาชนหูตาสว่างมากขึ้นกว่านี้
ผมพยายามเพียรบอกท่านตั้งแต่วันที่ทหารเข้ามายึดอำนาจ บอกว่าให้ลำเลียงข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบถึงความชั่วร้ายของทักษิณและบริวาร
ตอนนี้ท่านมีเครื่องมือที่ดีที่สุด คำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย ต้องนำออกอากาศให้ประชาชนเข้าใจ ไม่เช่นนั้นจะมีความคลุมเครือในสังคมซึ่งไม่เกิดผลดีกับรัฐบาลหรือ คมช.เลย
ยิ่งมีข่าวเรื่องการติดสินบนตุลาการรัฐธรรมนูญ แบบมีใบเสร็จออกมายืนยัน ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องสืบสวนเรื่องนี้ หาคนผิดมาลงโทษอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลในสังคม
อย่าให้เงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่างในสังคมไทยได้ แม้กระทั่งความถูกต้อง
ผมเห็นด้วยกับการที่คุณจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรมส่งเรื่องการติดสินบนให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา
มีการขยายผลว่า ผู้ที่พยายามให้สินบนตุลาการรัฐธรรมนูญเป็นข้าราชการซึ่งเคยมีพฤติกรรมทำเช่นนี้ในคดีอื่นมาแล้วจนเป็นที่รู้กันของคนที่อยู่ใกล้ชิด
เรื่องนี้ทำเอาผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาโวยวายกินปูนร้องท้องกันเป็นแถว
งานนี้ต้องเอาจริงเอาจังครับ อย่าให้แป้กเหมือนม็อบพีทีวีทักษิณสู้ๆ ที่สนามหลวงเลย