xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองไทยยังต้องอยู่ในวงจรชั่วร้ายต่อไป (2)

เผยแพร่:   โดย: ยอดธง ทับทิวไม้

อาจจะแยกออกไปได้ว่า เนปจูนกับมฤตยู คือดาวผู้บุกเบิกการมาของพลูโตในฐานะที่เป็นดาวเคราะห์ดวงแรกที่อยู่ในกลุ่มของดาวเคราะห์ในกลุ่มดาวเสาร์ (trans-saturnian) มฤตยูได้ทำหน้าที่ในฐานะตัวพลังแห่งการปฏิวัติ (revolutizing force) ก็นำมาซึ่งการประดิษฐ์คิดสรรค์อันมีลักษณะการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงแล้ว ก็ดำรงตำแหน่งแห่งความเป็นเจ้าแห่งเทคนิคและวิชาการของตนไว้ ยิ่งกว่านั้นมฤตยูยังได้เป็นผู้นำเสนอความรู้ความเข้าใจเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับสสารวัตถุอันอยู่นอกเหนือความรู้ความเข้าใจของมนุษย์ เช่น การนำไฟฟ้า วิทยุ เครื่องยนต์กลไก เข้ามาใช้เป็นสะพานที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อวัตถุและวิญญาณ (Matter and Spiritual) อิทธิพลของพลูโตไม่เพียงแต่จะมีอิทธิพลต่อวิญญาณอย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องเท่านั้นก็หาไม่ แต่มีอิทธิพลมากมายเหนือวัตถุและวิญญาณรวมกันด้วย

ในขณะที่อิทธิพลของมฤตยูได้สำแดงออกมาอย่างไม่หยุดไม่หย่อน แต่ก็ทำหน้าที่ปลุกให้ยุคสมัยให้ตื่นขึ้นมาตามกำหนดเวลา เนปจูนก็เป็นตัวการที่ได้นำความระส่ำระสายของมนุษย์ขึ้นมาให้เห็นเป็นครั้งแรก เนื่องจากอิทธิพลของเนปจูน ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเข้าใจ แต่ต่อมาเมื่อมนุษย์ได้พยายามมากยิ่งขึ้นเพื่อจะซึมซับรับรู้อิทธิพลแห่งความสั่นสะเทือนอันงดงาม และลึกลับประหลาดล้ำของเนปจูนให้รู้กันให้ได้ ก็เป็นที่ทราบกันว่าเนปจูนป็นตัวนำมาซึ่งเรื่องของความลี้ลับอันนอนก้น และฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งของจิตใจและของวิญญาณของมนุษย์นั่นเอง

และบัดนี้ ภายใต้แรงสั่นสะเทือนเข้มข้น และหนักหน่วงอันเพิ่มพูนขึ้นมาของพลูโต ซึ่งติดตามกันมา อิทธิพลของพลูโตมิใช่จะมีผลกระทบแต่เพียงตัวคนหนึ่งคนใดก็หาไม่ แต่จะมีผลกระทบต่อเชื้อชาติมนุษย์ทั้งหมดทั้งปวง จะก่อให้เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะมาถึง บางสิ่งบางอย่างที่ว่านี้เป็นความใหม่ที่ทำให้ไม่รู้ได้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร หรือบางสิ่งบางอย่างไม่เคยมีใครเขียนเล่าบอกไว้ในหนังสือ บางสิ่งบางอย่างซึ่งส่วนหนึ่งมนุษย์ยังหวาดกลัว ในขณะเดียวกัน มนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งกำลังรอด้วยความคลั่งไคล้ต่อยุคใหม่ที่จะมาถึง

มนุษย์ทุกรูปทุกนามที่มีชีวิตกันอยู่ทุกวันนี้ จะเกิดความรู้สึกกันขึ้นมาว่าในตัวของเขาบรรจุอยู่ด้วยนั้น มิได้เพียงแต่ถูกยัดเยียดสิ่งอันเป็นโลกิยะก็หาไม่ แต่มันมีพรสวรรค์อันสูงส่งบรรจุอยู่ด้วย พลูโตเป็นดาวเคราะห์ที่เป็นตัวแตกทลายของจิตใจอันผูกมัดอยู่กับความหลงใหลในวัตถุ และความโลภโกรธหลงอันเป็นโลกิยะของยุคสมัยแล้ว

พลูโตเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างเหตุการณ์สองเหตุการณ์คือ (1) การล่มสลายของยุคเก่า (2) การเกิดขึ้นของยุคใหม่ เป็นตัวสร้างความปั่นป่วนที่ทำให้เกิดสถานการณ์แบบหน้ามือเป็นหลังมือในเหตุการณ์ของโลก

แต่เนื่องจากว่า พลูโตเป็นดาวเคราะห์ที่ไม่รู้จักคำว่า อภัย ไม่มีการบอกเตือนล่วงหน้า ไม่มีการรั้งรอให้เสียเวลาอันจะทำให้เกิดวิธีการที่สงบ อิทธิพลของพลูโตจึงสำแดงออกมาในลักษณะที่ไม่มีความอ่อนโยนนิ่มนวลนัก ตรงข้ามการแสดงของพลูโตจะเต็มไปด้วยความโหดร้ายรุนแรงสถานเดียว

ความมุ่งหมายของพลูโตก็คือ จะชำระล้างยุคเก่า เพื่อที่จะนำหน้าไปยืนในยุคใหม่ด้วยใบหน้าอันเปล่งปลั่ง ด้านที่สองของพระเจ้าเจนุสเพื่อทำหน้าที่ประกาศ และนำความสุขมาให้แก่มวลมนุษย์

ข้อความตอนนี้เป็นข้อความตอนหนึ่งในตำราโหราศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องของดาวดวงหนึ่งที่เรียกกันว่า พลูโต ที่เขียนขึ้นโดยนักโหราศาสตร์อินเดีย และนักโหราศาสตร์เยอรมันท่านหนึ่งชื่อนาย Fritz Brunhubner พิมพ์ใน National Astrological Library USA.หนังสือเล่มนี้ได้ถูกนำไปพิมพ์ในประเทศตะวันตกทั้งหมดทุกประเทศ มีสมาคมและวิทยาลัยโหราศาสตร์ตะวันตกทุกประเทศ จะมีตำราโหราศาสตร์เล่มนี้พิมพ์เผยแพร่ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา และอื่นๆ ซึ่งก็เป็นโหราศาสตร์ระบบเดียวกับโหราศาสตร์ไทย

ในระยะที่ผมมีเวลาเหลืออยู่บ้างในตอนนั้น ผมก็เอาตำราเล่มนี้มาแปลเป็นภาษาไทยขึ้นมาบ้างเพื่อช่วยเหลือผู้สนใจการศึกษาโหราศาสตร์สมัยใหม่ ซึ่งเท่าที่ผมได้เล่าเรียนศึกษามานานพอสมควร ผมก็ทราบเกี่ยวกับเรื่องดาวที่สำคัญในวิชาโหราศาสตร์นี้ก็มีส่วนอยู่มาก เฉพาะอย่างยิ่ง รายละเอียดของวิชาการ และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของชีวิตความเป็นอยู่ อีกทั้งสังคมของทุกคนที่รายละเอียดในวิชาโหราศาสตร์จะบอกไม่ได้เสมอไป ผมรู้สึกว่าตำรับตำราโหราศาสตร์ของเรา และระบบโหราศาสตร์ของเรานั้น ยังล้าหลังนักโหราศาสตร์ประเทศอื่นๆ มากมายนัก และยิ่งเมื่อหนังสือตำราโหราศาสตร์ของเรายังมีน้อย และอยู่ในวงจำกัดมาก ทำให้การศึกษาค้นคว้าของเราแทนที่จะก้าวไปข้างหน้าได้มากกว่าประเทศอื่นๆ

เฉพาะอย่างยิ่งดวงดาว 3 ดวง ที่นักโหราศาสตร์ประเทศอื่นๆ นำมาใช้ร่วมกัน คือมฤตยู เนปจูน พลูโต ของไทยมีใช้เพียงดวงเดียวเท่านั้นคือ มฤตยู เพราะฉะนั้น ผมจึงตัดสินใจแปลหนังสือเกี่ยวกับดาว 3 ดวงขึ้นเมื่อปี 2521 เป็นการพิมพ์ครั้งแรก และครั้งที่สองพิมพ์ขึ้นอีกในปี 2545 ในชื่อ “มฤตยู เนปจูน พลูโต เทพเจ้าแห่งความวิบัติ และการทำลายล้างในวิชาโหราศาสตร์ไทย”

ปรากฏว่ามีผู้สนใจไม่น้อย และในเวลาเดียวกัน ก็มีนักโหราศาสตร์ไทยบางท่านได้ทักท้วงมาว่ามันไม่มีใครใช้กัน อาจจะมีประโยชน์สำหรับวิชาโหราศาสตร์ไทย เพราะดูเหมือนว่าไม่มีโหรไทยคนใดเคยนำมาพูดถึงเลย น่าจะเป็นเรื่องของฝรั่งมากกว่า

นั่นเป็นจุดอ่อนจุดหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์ไทยของเราที่เอามาจากอินเดีย ซึ่งอาจจะเป็นเวลานานมาแล้วไม่น้อยกว่า 5,000 ถึง 6,000 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ท่านมหาฤาษีวราหมิหิรา เจ้าของตำราโหราศาสตร์อินเดียที่มีชื่อว่า “พฤหัสบดีสังหิตา” ท่านว่าดาวเหล่านี้ดือดาวมฤตยู พลูโต เนปจูนที่ว่านี้น่าจะได้นำมาใช้ในวิชาโหราศาสตร์ไทย แต่ความจริงนักโหราศาสตร์ไทยสมัยนั้นได้ใช้ดาวเหล่านี้กันมาแล้ว หรือรู้จักกันมานานแล้ว และได้ใช้กันมาตลอดเวลา เพียงแต่ขาดดาวเนปจูน และพลูโตสองดวงเท่านั้น และในอินเดียได้ใช้กันมานานอาจจะไม่น้อยกว่า 5,000 หรือ 6,000 ปีที่ว่านั้น พลูโต สมัยนั้นท่านเรียกว่า “อินทร” เนปจูนท่านเรียกว่า “วรุณ” มฤตยูท่านเรียกว่า “พระยม”

ท่านที่ไม่แน่ใจในคำบอกกล่าวนี้ โปรดอ่านรายละเอียดในนิตยสารโหราศาสตร์จากอินเดียชื่อ The Astrologocal Magazine ฉบับเดือนมกราคม 1966

มีเหตุผลและความเป็นมาของดาวเหล่านี้หลายประการที่คนจะรู้กัน เฉพาะในตอนหนึ่งมีคำอธิบายคร่าวๆไว้ว่า

“พลูโตกำลังจะเป็นผู้วางรูปโฉมหน้าใหม่ให้แก่พิภพ จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในด้านวัฒนธรรม (Culture) พลูโตจะเป็นผู้ลงมือช่วยมวลมนุษย์ในการต่อสู้รณรงค์กับอำนาจของธรรมชาติ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น มนุษย์ไม่เคยรู้เคยเห็น เพราะพลังงานอันถูกปิดงำด้วยการปิดงำล่ามล้อมเอาไว้ด้วยการเปิดโปงถึงสิ่งใหม่ที่ถูกปิดงำนั้นเปิดเผยออกมา

พลูโตจะเป็นความร้อนจากแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ จำนวนมาก จะนำมาซึ่งอำนาจอันเงียบงำจากพลังงานปรมาณู จะเป็นผู้นำมาซึ่งการรู้จักสะสมสำรองความร้อนของโลกที่มีอยู่ในพื้นภายในของโลกอันมหึมามหาศาลมาใช้ จะเป็นผู้นำพลังงานอันล้นหลามโดยการเคลื่อนไหวของน้ำในมหาสมุทร (กระแสน้ำขึ้นน้ำลง) พลังงานจากภูเขาไฟของโลกก็จะถูกนำเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ ทุกอย่างจะมีการปฏิบัติทดลองด้วยการเปลี่ยนสภาพที่ยิ่งกว่านั้น ความกล้าหาญเหิมเกริมและโครงการอันเป็นลักษณะการปฏิรูปปฏิวัติใดๆในยุคของเรา ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก สามารถจะถูกแยกออกมาได้จากอำนาจอิทธิพลของพลูโตที่หลั่งทะลักออกมาทั้งสิ้น พลังภูเขาไฟของโลกจะถูกนำมาให้เป็นประโยชน์ได้ ทุกอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยการเปลี่ยนสภาพ และยิ่งกว่านั้น ด้วยความกล้าหาญเหิมเกริมและโครงการอันเป็นไปในลักษณะการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยของเราไม่ว่าน้อยหรือมาก สามารถแยกแยะแจกแจงมาได้จากอำนาจอิทธิพลพลูโตที่จะหลั่งทะลักออกมาทั้งสิ้น ซึ่งไม่จำเป็นนักที่จะอธิบายรายละเอียดทั้งหมด เพราะเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าบรรดานายช่าง และนักประดิษฐ์ทั้งหลายแหล่ได้ลงมือทำตามโครงการมาเป็นจำนวนมากหลายสิบปีมาแล้ว บางประเทศได้ประสบความสำเร็จก่อนที่จะถึงเวลาเช่นนั้นด้วยซ้ำ ดังนั้น จึงหวังได้ว่าปัญหาต่างๆ อันมากมายหลายหลากจะสามารถแก้ได้ภายใต้อิทธิพลของพลูโตในเวลาอันไม่นานนัก

บรรดาโครงการอันสำคัญๆ และกว้างใหญ่ไพศาลเกี่ยวกับการเพาะปลูกในโลก พลูโตจะเป็นผู้บันดาลวิชาการและทฤษฎีใหม่ๆ ที่จะจัดการกับปัญหาการเพาะปลูก ก็จะถูกค้นพบขึ้น เฉพาะอย่างยิ่ง ในระยะเวลา 30 ถึง 50 ปีข้างหน้า การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงตามแนวนี้จะเกิดขึ้น พลูโตจะเป็นตัวนำมาซึ่งความใหม่นานาชนิดอันจะมีส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลอย่างใหญ่หลวงสำหรับการเพาะปลูก ตลอดระยะเวลาภายใต้อิทธิพลของพลูโตจะมีทางเป็นไปได้สำหรับการเพาะปลูกอย่างใหม่นานาชนิดเพื่อมีคุณภาพดี และอุดมสมบูรณ์กว่าเก่า สำหรับการเพาะปลูกใหม่ๆ นานาชนิดเพื่อให้มีคุณภาพดีกว่าเก่าและอุดมสมบูรณ์กว่าเก่า จะมีการค้นพบถึงวิธีการเพาะปลูกผลไม้ และทำให้ผลไม้ในแถบร้อนมีความเข้มแข็งขึ้นเหมาะสมกับอากาศในแถบของเรา และสามารถปลูกขึ้นได้แถบนี้ แม้ว่าทางเหนือที่ไกลไปกว่า กสิกรอเมริกันและรัสเซียได้ประสบความสำเร็จในการปลูกต้นไม้ชนิดมีผลมีดอก อันเป็นข้อพิสูจน์ถึงคำกล่าวนี้แล้ว ซึ่งหมายความว่าเท่าที่ข้าพเจ้าเขียนขึ้นมาทั้งหมด มิได้เขียนถึงเรื่องของยุคพระศรีอาริย์...”

ผลจากการลงมติที่ไม่มากมายอะไรนักในการที่จะปัดการมีอยู่ของดาวพลูโตจากการประชุมของนักดาราศาสตร์ของโลกไม่กี่วันมานี้ ดาวพลูโตได้ถูกปฏิเสธจากผู้รู้ยืนยันว่าไม่ใช่ดาว หรือไม่ได้จัดเป็นดาวที่ใช้ในวิชาโหราศาสตร์ ที่นักโหราศาสตร์ได้ใช้กันอยู่ หรือถ้าใครก็ตามที่ให้ความสนใจดาวดวงนี้ หรือนำมาใช้ในวิชาโหราศาสตร์ ก็จะต้องเลิกหรือตัดทิ้งออกไปเสีย

มีบางคนบ่นว่า พลูโตไม่ใช่ดาวหรือมีอิทธิพลอะไรในวิชาโหราศาสตร์ เฉพาะอย่างยิ่งในโหราศาสตร์หรือนักโหราศาสตร์ไทยซึ่งมีความเชื่อว่าโหราศาสตร์นั้นใช้แต่เพียงทักษาพยากรณ์และดาว 8 ดวง และราศีทั้ง 12 มาทำนายทายทักมันก็สบายมาก

เรื่องของพลูโตยังมีที่น่าสนใจอีกมาก คงจะต้องมีอีกต่อไปเล็กน้อย

มีอะไรที่จะต้องเกิดขึ้นอีกอย่างไม่คาดฝันในชีวิตคนใหญ่คนโตหลายคน พลูโตจะโคจรเป็นปกติในราศีธนู จะโคจรตามปกติในเช้าวันที่ 5 กันยายนนี้ ความฉิบหายอะไรต่ออะไรหลายอย่างที่แต่ละคนคิดที่ว่าตัวเองเกิดมาเป็นเทพเจ้า.
กำลังโหลดความคิดเห็น