xs
xsm
sm
md
lg

สวรรค์ของคนช็อปแผ่น?

เผยแพร่:   โดย: ต่อพงษ์ เศวตามร์

เพื่อนหลายคนด่าผมเมื่อต้นเดือนที่แล้วว่า ทำเอ็งจะต้องเอาเงินมากมายที่สะสมมาได้ในรอบปีไปเที่ยวยุโรปกันฟะ แค่กินเหล้า อุดหนุนน้องๆ หรือเที่ยวในเมืองไทย ยังไงๆ ก็น่าจะเพียงพอ

ผมเองได้แต่หัวเราะแหะๆ เพราะ จริงๆ แล้วผมไม่ได้อยากไปกินเหล้า อุดหนุนแจกทุนน้องๆ นี่หว่า

แต่ผมอยากไปหาสุนทรีย์บางประการที่หาไม่ได้ในเมืองไทยนั่นเอง

( ความสุขบางประการแม้แต่ อันซีน ไทยแลนด์ ก็ให้ไม่ได้นะวุ้ย)

ผมบอกเพื่อนว่า ผมจะไปซื้อแผ่นซีดีคลาสสิก จะไปซื้อแผ่นเสียงคลาสสิก แล้วก็จะไปดูคอนเสิร์ตคลาสสิก ตามด้วยโอเปร่า และจุดมุ่งหมายหลักที่จะไปก็คือ เยอรมัน ผมจะกลับไปเยี่ยมเบโธเฟนอีกครั้งที่กรุงบอนน์...

ซึ่งทั้งหมดนี้ในเมืองไทยไม่มี ถึงมีก็ไม่ตรงกับความต้องการ..ถามว่าคุ้มไหมในความรู้สึกของคนอื่น อาจจะหาว่าบ้า แต่ไม่รู้สิ ผมว่ามันคุ้ม อย่างน้อยไปเปิดหูเปิดตาดู ได้เห็นอะไรต่อมิอะไรเอามาเล่าสู่กันฟังก็น่าจะดีไม่ใช่หรือ ที่สำคัญครั้งนี้ก็จะไปไม่เหมือนเดิม...เพราะแต่เดิมผมมักจะไปหน้าหนาว แต่คราวนี้หน้าร้อนครับ

ยุโรปหน้าร้อน...โอ้จอร์จ โอ้ แม่เจ้า...ผมว่ามันต้องสวยน่าดูชมเลยแหล่ะ!!

นั่นเป็นเหตุให้ผมต้องนั่ง คาเธย์ แปซิฟิค เหินฟ้าไปเยอรมันด้วยประการฉะนี้

****************

เขาว่าเวลานั่งเครื่องบินนั้นไอ้ที่ตื่นเต้นที่สุดจะมีสองเวลาคือตอนขึ้น - ตอนลง หลังจากนั่งเครื่องมานานอย่างสบายชนิดที่เรียกว่า หลับสบายจริงๆ อาหารการกินมีเสิร์ฟตลอดชนิดใบหน้าไม่มีหงิก...ขอนอกเรื่องถึงบริการของสายการบินนี้หน่อยว่า เขาบริการได้ทุกระดับประทับจิตจริงๆ

ผมนั้นก็บินมาเยอะนะครับ ก็ไม่เคยเห็นแอร์โฮสเตจของสายการบินไหนเคร่งครัดขนาดนี้ในการดูแลความปลอดภัยให้ผู้โดยสาร แค่สัญญาณรัดเข็มขัดขึ้นมา (หลังจากบินไปแล้วสี่ห้าชั่วโมง ไมใช่ตอนขึ้น-ลง)เท่านั้นแหล่ะ เธอจะรีบกุลีกุจอเจอมาจัดการรัดเข็มขัดให้เรารัดเสร็จก็ห่มผ้าให้เหมือนเดิม

(ขอชมว่าถึงจะอายุมากไปหน่อย แต่ก็น่ารักจังๆๆๆๆ)

เครื่องลงปุ๊ป แดดมาปั๊ป ดูเผินๆ แดดแจ๋เชียวครับ ซึ่งเป็นเรื่องแปลก เพราะ ผมไม่ค่อยเคยเห็นยุโรปแดดแจ๋ขนาดนี้ แต่ขอโทษครับ ตอนลงไปนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะร้อนเลย อุณหภูมิอยู่ที่ 11-13 องศาถือว่าสบายๆ มากสำหรับ คนบ้าแดดอย่างพวกเรา

ที่ชอบยุโรปอีกอย่างก็คือ ระบบการพิจารณาให้วีซ่าของประเทศในกลุ่ม อียู นี่เข้มแข็งตั้งแต่ต้นทาง เพราะก่อนมาสถานฑูตนั้นค่อนข้างเข้มอย่างหนัก โดยเฉพาะที่เป็นเชงเก้น วีซ่า เพราะฉะนั้นเมื่อมาตรวจที่สนามบิน มันก็เลยตรวจผ่านไปง่ายๆ ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 3 นาที...เท่านั้นเอง...จริงๆ

เดี๋ยวนี้ตม.ของเยอรมันไม่ได้ถามละเอียดเท่าไหร่นะครับ อย่างถามผมว่ามาทำไม ผมก็ตอบไปเฉยๆ ว่ามาดูคอนเสิร์ตที่บอนน์ แถมโอเปร่าที่เป็นโอเปร่ากลางแจ้งอีกเรื่องหนึ่งคือ แมจิค ฟลุ๊ต ของโมตซาร์ต เธอก็ยิ้ม บอกเหรอ โชคดีจังนะ แล้วก็ประทับเปรี้ยง !! จบเลย

ออกมาปุ๊ป เอาตั๋ว DB หรือ รถไฟที่ซื้อมาในราคาสี่สิบกว่าออยโร เดินหน้าขึ้นชานชาลา ลากกระเป๋าใช้เวลาประมาณ 50 นาทีก็ไปถึงจุดหมาย เดี๋ยวนี้เดินทางในยุโรปนั้นไม่ยากเย็นเลยครับ เส้นทางทั้งหลายเชื่อมกันเกือบทั้งหมด ขอเพียงแค่มีเงินก็พอใช้ได้แล้ว

(แต่จริงๆ มีเงินก็ไปที่ไหนก็ได้นี่หว่า ?)

ผมไปถึงที่หมายใกล้ๆ กับห้างเปิด ประเด็นแรกที่ต้องทำวันนี้ นอกจากจะกระหนุงกระหนิงกับหวานใจที่โน่นแล้วก็คือ การเดินหน้าซื้อซีดีเสียเลย เพราะเวลาดังกล่าวก็ใกล้กับที่ห้างจะเปิดเต็มที่แล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อไปถึงห้างเดิมที่คุ้นเคยอย่าง Saturn และ Media Markt เดินอยู่สองรอบ ก็รู้สึกว่างานนี้เสียเที่ยวแหงๆ...หน้าตาผมคงจะผิดหวังมากขนาดหวานใจต้องถามว่า เป็นอะไร...ผมก็เลยต้องชี้ให้เธอเห็นราคา คือเยอรมันตอนนี้ไม่ถือว่าเป็นสวรรค์ของนักช็อปแผ่นซีดีอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าซีดีนั้นจะเป็นประเภทคลาสสิกหรืออะไรก็ตามแต่

เมื่อเกือบ 3 ปีมาแล้วผมเคยบอกท่านผู้อ่านว่า เยอรมันนั้นเหมาะมากสำหรับการไปซื้อแผ่นซีดีเพลงคลาสสิก

อย่างไรก็ตามตอนนี้มันไม่ใช่แล้วละครับ ย้ำนะครับ

จะเป็นเพราะว่า วิกฤติค่าเงินยูโรมันกำลังทับถมประเทศในอียู หรือไงก็ไม่ทราบ (ตอนนี้ 50 บาทนิดๆ ต่อ 1 ออยโร) แต่บัดนี้...ย้ำอีกครั้งว่า ถ้าเผื่อใครไปยุโรป ก็กรุณาอย่าได้ฝากเขาซื้อแผ่นหรือซื้อของอะไรต่างๆกลับมานะครับ เพราะจะเป็นการทำบาปทำกรรมกับเขาอย่างหนัก

ลองคิดดูนะครับว่า ราคาของเพลงคลาสสิกตอนนี้ที่เยอรมันนั้น คิดเป็นเงินไทยก็กระโดดขึ้นไปที่ 600 กว่าบาทแล้ว ซึ่งอาจจะเท่ากับที่ขายอยู่ในเมืองไทย หรือไม่ก็แพงกว่าเกือบทั้งนั้น

อย่าไปพูดถึงซีดีเพลงป็อปเลย ราคาจะโหดว่านี้อีก

เพราะฉะนั้นถ้ารักกันอย่าฝากซื้อของจากยุโรปเด็ดขาด ขอให้ซื้อกันที่เมืองไทยนี่แหล่ะครับจะดีเอามากๆ แล้ว

อย่างไรก็ตามถึงจะไม่ใช่สวรรค์สำหรับนักช็อปซีดี แต่มันก็ยังมีอย่างอื่นที่น่าตื่นเต้นกว่านั้น สัปดาห์หน้าจะมาเล่าให้ฟังว่า ยังไงๆ การเดินทางครั้งนี้ก็ไม่เสียเที่ยวหรอกครับ

แค่มาเจอหน้าคนรักของเราก็คุ้มแล้วครับ (อิอิอิอิ)
กำลังโหลดความคิดเห็น