xs
xsm
sm
md
lg

ปรับครม.หลัง11ก.ค.นี้ทักษิณหวังเปิดทางส.ส.ย้ายพรรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความชัดเจนในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่มีอะไรตอนนี้ ยังมีเวลา ไม่รีบร้อน
“เอาอย่างนี้แล้วกัน มันจะมีอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ส.ส.ลาออกแล้วไม่ต้อง มีการเลือกตั้งซ่อม และเป็นช่วงที่ย้ายพรรคแล้วยังทันที่จะสมัครเข้าสังกัดพรรคใหม่ เพื่อการเลือกตั้งคราวหน้า คือช่วงตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.-5 ต.ค. ถ้าจะปรับก็อาจจะเป็นช่วงนั้นมากกว่า”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยพูดว่า รัฐบาลอาจจะเหลือเพียงพรรคเดียว ในการบริหารประเทศ ตรงนี้มีความเป็นไปได้หรือยัง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรในสมัยนี้ เมื่อถามว่า แสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่ ส.ส.เขต สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี หลักการเดิมยังอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าพรรคชาติไทยไม่มีสิทธิที่จะขยับส.ส.เขต ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีสิทธิ และ สมัยนี้ส.ส.เขตยังไม่มีสิทธิขึ้นเป็นรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคชาติพัฒนา เป็นการเข้าร่วมรัฐบาลในลักษณะพรรคร่วม แต่ยังไม่ใช่ยุบรวมพรรค ใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันลึกขนาดนั้น เอาไว้ให้เสร็จงานหลายๆ เรื่องก่อน เพราะช่วงนี้ งานแน่นมาก และต้องเดินทางไปต่างประเทศ กลางเดือนนี้ ต้องไปประเทศบราซิล กลับมาก็ต้องไปประเทศจีน จากนั้นต้องไปประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เสร็จแล้วก็มาประชุมเอดส์โลกที่บ้านเรา หลังจากนั้นถึงจะเริ่มว่ากันอีกที
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทย กล่าวถึงข่าวการปรับ ครม.ว่าขณะนี้พรรคชาติไทย ยังไม่ได้หารือกับสมาชิกพรรคแต่อย่างไร แต่ยืนยันว่า ครม.ในส่วน ของพรรคชาติไทย ยังเหมือนเดิม ทั้งในเรื่องของตัวบุคคลและโควตาของพรรค ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากยังทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีและมีส่วนได้ส่วนเสีย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากวันที่ 6 กรกฎาคม จำเป็นต้องดึงโควตารัฐมนตรีจาก กลุ่มชลบุรีและกลุ่มบุรีรัมย์กลับมาหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า มันเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น และยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดกัน
ส่วนกรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ลาออกจากตำแหน่งประธานศูนย์ อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์จะส่งผลต่อการเลือกตั้งโดยเฉพาะในบางพื้นที่ ของภาคกลางหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า พรรคชาติไทยทำได้เพียงแค่ตรึงกำลังในพื้นที่ภาคกลาง เฉพาะพื้นที่ของพรรคชาติไทย เพราะพรรคชาติไทย เป็นพรรค ขนาดกลาง ไม่ได้หวังถึง 100 เสียง จึงไม่จำเป็นต้องไปรุกพื้นที่อื่น
อย่างไรก็ตาม นอกจากการตรึงกำลังในพื้นที่ภาคกลางแล้ว เราจะสู้พื้นที่ภาค อีสานโดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยเป็นของพรรคชาติไทยมาก่อน เช่น ร้อยเอ็ดและชัยภูมิ
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปรับ ครม. เป็นสิทธิของรัฐบาลหรือนายกฯ แต่การปรับบ่อยครั้งไม่ใช่สิ่งดีและไม่ก่อประโยชน์ ยิ่งทำให้การบริหารงานยากขึ้น อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนติดตามดูว่า การปรับครม.หลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมามีวัตถุประสงค์อะไร ซึ่งในส่วนของฝ่ายค้าน คงไปชี้อะไรมากมายไม่ได้ เพราะเราทำได้แต่เพียงตรวจสอบรัฐบาลโดยดูว่า คนที่เข้ามาทำงานมีวัตถุประสงค์อะไรและทำงานได้ดีหรือไม่ในการเอาใครเข้ามาเป็น หน้าที่ของฝ่ายบริหาร
ส่วนมีข่าวว่าจะปรับให้กลุ่มทุนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีนั้น นายประดิษฐ์ กล่าวว่า “ทุนของรัฐบาลคงจะพอแล้วมั้ง ถ้าอย่างไรก็แบ่งให้พวกเราบ้างก็ได้”
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวการปรับ ครม.ของรัฐบาลว่า พรรคเห็นว่าการปรับครม.ที่จะมีขึ้นไม่ได้เป็นการปรับเพื่อประสิทธิภาพหรือเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน แต่การปรับด้วยเหตุผลหลัก 3 ประการคือ 1. เป็นการปรับเพื่อเอาชนะทางการเมือง เอาชนะทางการเลือกตั้ง โดยพยายามที่จะดูด ส.ส.จากพรรคอื่นทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้านเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของพรรคไทยรักไทย ซึ่งตรงกันข้ามกับป้ายหาเสียงที่ติดทั่วประเทศว่าจะไม่เอาชนะทางการเมือง 2. เป็นการปรับเพื่อเป้าหมาย 400 เสียง โดยมีจุดประสงค์ที่จะไม่ให้ฝ่ายค้าน สามารถเปิดอภิปรายรัฐมนตรีได้และทำให้ฝ่ายค้านสูญพันธุ์ตามความพยายามที่ นายกรัฐมนตรี มักกล่าวอยู่เสมอ ซึ่งทำทุกวิถีทางโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องทั้งการเซ้งพรรคการเมืองอื่นและการซื้อตัวส.ส.
และ3. เพื่อลดความขัดแย้งภายในพรรคไทยรักไทย เพราะในพรรคไทยรักไทย มีคนอยากเป็นรัฐมนตรีมากแต่มีเก้าอี้มีจำกัด ดังนั้นการปรับครม.ครั้งใหม่จึงไม่ก่อ ให้เกิดผลประโยชน์ใดๆ กับประเทศชาติและไม่ได้ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น