จาบร้า ชูโซลูชันการทำงานยุคไฮบริด เจาะตลาดสำนักงานยุคใหม่ที่ปรับพื้นที่สำหรับการทำงานให้รองรับการประชุมออนไลน์ ด้วยการนำความเชี่ยวชาญทั้งด้านผลิตภัณฑ์เสียง และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ชี้ตลาดยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องปีละมากกว่า 20%
โอรางเซบ คาน รองประธานอาวุโสของผลิตภัณฑ์แสดงผลภาพอัจฉริยะของจาบร้า กล่าวถึงการทำงานในยุคไฮบริดเวิร์กได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานห้องประชุมที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เนื่องจากองค์กรธุรกิจยุคใหม่จะเริ่มให้อิสระในการทำงานที่ไหนก็ได้แก่พนักงาน
“องค์กรต้องหาอุปกรณ์เพื่อรองรับการทำงานของพนักงาน ทำให้ตลาดโซลูชันสำหรับการประชุมออนไลน์ยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับหลายองค์กรเริ่มมีการปรับลดพื้นที่สำนักงาน ทำให้มีการมองหาโซลูชันที่จะเข้าไปตอบโจทย์การทำงานในยุคใหม่ด้วย”
จุดแข็งของจาบร้าในตลาดธุรกิจคือมีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับรูปแบบของการใช้งานที่หลากหลาย มีทั้งแบบห้องประชุมขนาดใหญ่ รองรับห้องแบบ 180 องศา หรือแม้แต่ห้องประชุมทั่วไป และการใช้งานเฉพาะบุคคล ด้วยการนำ AI มาช่วยในการตรวจจับการเคลื่อนไหว ทิศทางของเสียง เพื่อติดตามผู้พูด
นายสถาพร สัมภวะผล ผู้จัดการประจำประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน จาบร้า ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ปัจจุบันฐานลูกค้าหลักของจาบร้าจะอยู่ในกลุ่มธนาคาร โทรคมนาคม และเฮลท์แคร์ ซึ่งแต่เดิมจะแข็งแรงในกลุ่มหูฟังแบบเฮดเซ็ตที่ใช้ในสำนักงาน
ขณะที่การเปลี่ยนแปลงในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดที่ผ่านมา องค์กรธุรกิจเริ่มหาโซลูชันที่จะเข้าไปตอบสนองการประชุมออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ โซลูชันทางด้านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของจาบร้าจึงเข้ามาตอบโจทย์ในจุดนี้
ปัจจุบัน จาบร้ามีชุดผลิตภัณฑ์ที่สำหรับระบบห้องประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อย่าง PanaCast 50 ที่ทำงานร่วมกับชุด ThinkSmart Core Kit ของทางเลอโนโว ทำให้ยกระดับการประชุมให้สามารถทำงานร่วมกับ Microsoft Teams ในลักษณะของการจับภาพแบบ 180 องศา ความละเอียด 4K
นอกจากนี้ ยังมีการนำ AI มาช่วยในการประมวลผลเพิ่มเติม อย่างการใบจับหน้าผู้เข้าประชุม เพื่อแสดงผลใน Teams เหมือนนั่งประชุมอยู่ร่วมกัน หรือในกรณีที่เป็นห้องประชุมขนาดเล็กจะมีโซลูชันอย่าง PanaCast 30 ในระดับรองลงมา