“พุทธิพงษ์” ตีแผนยุทธศาสตร์ควบรวม ทีโอที – กสทฯ กลับไปคิดใหม่ให้เป็นรูปธรรม ไม่ทำให้องค์กรอยู่ในความเสี่ยง พร้อมเสนอให้มีแผนการประมูล 5G กับ กสทช. เร่งเสนอแผนใหม่ภายใน 30 ต.ค.นี้
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการควบรวมบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด ว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2562 มีการหารือร่วมกับ 4 ฝ่าย ได้แก่ คณะผู้บริหารของทีโอที, คณะผู้บริหารของกสทฯ, สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอที และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กสทฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากที่มอบหมายให้มีข้อสรุปร่วมกันใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.แผนบริหารจัดการบุคลากร 2.สินทรัพย์และหนี้สิน และ 3.สัญญา และสัมปทานต่างๆ เป็นต้น แต่ทั้ง 2 องค์กร ยังคงเสนอแผนเดิมๆที่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดให้ชัดแจนในโลกแห่งความเป็นจริงว่าเมื่อควบรวมกันแล้วจะไปรอดจริงๆ
เช่น กรอบการทำงานที่จะนำไปใช้ หลังควบรวมกิจการ, เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ ในการควบรวมว่าจะเป็นไปในทิศทางใด, แผนรองรับการสิ้นสุดสัมปทานถือครองคลื่นความถี่ในปี 2568 รวมถึงตัวเลขความคุ้มทุน หลังจากควบรวมกิจการ ที่ทั้ง 4 ฝ่ายระบุว่า เมื่อควบรวมกิจการแล้ว ใน 6-7 ปี จะสามารถลดเงินลงทุนไปได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทนั้น ตนมองว่า เป็นตัวเลขที่น้อยเกินไป
ดังนั้น หากควบรวมกิจการแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ได้นำจุดแข็งของตัวเองมารวมกันเพื่อให้การควบรวมกิจการเกิดประโยชน์ จะควบรวมกิจการเพื่ออะไร หากทั้ง 2 องค์กร ควบรวมอยู่บนความเสี่ยงโดยไม่รู้อนาคต เป้าหมายและยุทธศาสตร์ของการควบรวมจึงต้องชัดเจนกว่านี่
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนเองได้มอบหมายให้ทั้งสองฝ่ายจัดทำแผนในการเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่เพื่อรองรับ 5G ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เช่น แผนการเงิน, บริหารจัดการและยุทธศาสตร์ เป็นต้น เมื่อควบรวมกิจการแล้วต้องประมูลคลื่นความถี่เพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) รายอื่นๆ ได้ ซึ่งทั้ง 2 บริษัท จะต้องเสนอแผนใหม่อีกครั้งให้ตนเอง ภายในวันที่ 30 ต.ค. 2562