ทีพี-ลิงค์ ประเมิน 4-5 ปีข้างหน้า อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายในบ้าน จะเข้าสู่ยุค Wi-Fi 6 แบบเต็มตัว จากที่ปัจจุบันอยู่ในยุคของ Wi-Fi 5 กันแล้ว โดยประเดิมเปิดอุปกรณ์กระจายสัญญาณรุ่นใหม่ที่รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 4 รุ่น จับกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป-เกมเมอร์
เดฟ เฉิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลถึงภาพรวมตลาดเราเตอร์ในประเทศไทยว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีแนวโน้มเติบโตขึ้น จากการที่ผู้ให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต เปลี่ยนเทคโนโลยีที่ใช้มาเป็นไฟเบอร์บรอดแบนด์ ทำให้ผู้บริโภคเริ่มหันมามองหาเราเตอร์คุณภาพสูงมากขึ้น
“ปัจจุบันนี้เราเตอร์บนมาตรฐาน Wi-Fi 5 หรือ 802.11ac กลายเป็นระดับมาตรฐานในท้องตลาดแล้ว และในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มเห็นเราเตอร์ที่รองรับ Wi-Fi 6 หรือ 802.11ax เข้าสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นกลุ่มเราเตอร์ที่ช่วงให้ทีพี-ลิงค์เติบโตต่อเนื่องในปีนี้”
ปีที่ผ่านมาทีพี-ลิงค์ ได้อานิสงส์จากการให้บริการไฟเบอร์บรอดแบนด์ทำให้สามารถเติบโตได้ถึง 30% และจากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาทีพี-ลิงค์เติบโตมากกว่า 20% แล้วทำให้เชื่อว่าจากอุปกรณ์เราเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยีใหม่อย่าง Wi-Fi 6 จะเข้ามาทำให้เติบโตได้เพิ่มขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้ การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ถือเป็นมาตรฐานใหม่ในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย ที่มีการเปลี่ยนชื่อให้เรียกได้ง่ายขึ้น โดยมีประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อเร็วกว่า Wi-Fi 5 ที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันประมาณ 5-10 เท่า
ขณะเดียวกัน ผู้บริหารทีพี-ลิงค์ ยังประเมินว่า อุปกรณ์เราเตอร์ Wi-Fi 6 จะเริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้นในช่วงปี 2020 เนื่องจากดีไวซ์ที่รองรับ Wi-Fi 6 ในปัจจุบันมีเฉพาะรุ่นในระดับไฮเอนด์ อย่าง Samsung Galaxy S10 / Note 10 และ iPhone 11 ที่เพิ่งเปิดตัวมาเท่านั้น
“เชื่อว่าในอีก 5-4 ปีข้างหน้า Wi-Fi 6 จะเข้ามาเป็นเราเตอร์ที่เป็นมาตรฐานสำหรับการใช้งานในครัวเรือน ซึ่งในเวลานั้นความเร็วในการให้บริการบรอดแบนด์ไฟเบอร์ก็จะสูงขึ้นจากปัจจุบันที่ 1 Gbps ไปแล้ว ซึ่งตัวอุปกรณ์ของทีพี-ลิงค์ในปัจจุบันสามารถรองรับการส่งต่อข้อมูลได้ระดับ 10 Gbps”
สำหรับอุปกรณ์เราเตอร์ที่ทีพี-ลิงค์ เริ่มนำออกสู่ตลาด และรองรับการทำงานบน Wi-Fi 6 ในช่วงแรกจะมีทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ครอบคลุมตั้งแต่การใช้งานทั่วๆไป จนถึงเราเตอร์สำหรับกลุ่มเกมเมอร์ที่ต้องการความเร็วในการเชื่อมต่อ และความเสถียรในการใช้งาน
โดยรุ่นที่ออกมาจับกลุ่มเกมเมอร์คือรุ่น Archer AX11000 ที่วางระดับราคาไว้ 15,900 บาท รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 โดยสามารถรองรับการเชื่อมต่อได้สายได้สูงสุดถึง 10 Gbps ด้วยการนำเทคโนโลยีแบบ Tri-Band มาใช้ ในการส่งข้อมูลบนคลื่น 2.4GHz ร่วมกับ 5 GHz และยังมาพร้อมพอร์ต LAN 2.5 Gbps ให้ใช้งานด้วย
ถัดมาคือ Archer AX6000 ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้งานทั่วไปที่มีการใช้งานหนักๆ อย่างการสตรีมมิ่งพร้อมกันบนอุปกรณ์หลายๆ เครื่อง ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ IoT โดยวางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท สามารถเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไร้สายได้ความเร็วสูงสุด 5 Gbps
นอกจากนี้ ยังมีรุ่นสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปคือ Archer AX50 และ AX10 ที่วางจำหน่ายในราคา 4,990 บาท และ 2,990 บาท เพื่อรองรับการใช้งานโดยรุ่น AX50 จะรองรับการเชื่อมต่อที่ความเร็ว 1 Gbps และรุ่น AX10 จะรองรับการใช้งานที่ความเร็วประมาณ 700 Mbps
ในส่วนของอุปกรณ์รับสัญญาณ ทีพี-ลิงค์ ได้เปิดตัว Archer TX3000E ที่รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และเป็นอุปกรณ์กระจายสัญญาณบลูทูธ 5.0 ในตัว เชื่อมต่อกับพอร์ต PCI-E บนเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปในราคา 2,590 บาทเสริมเข้ามา เพื่อให้ใช้งานคู่กับเราเตอร์รุ่นใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
“เชื่อว่ารุ่นที่จะได้รับการตอบรับจากตลาดได้มากที่สุดคือรุ่น AX10 เพราะจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้เน็ตบ้านทั่วไป สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนในกลุ่มของเกมเมอร์ ที่ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อ ก็จะตอบรับกับรุ่น AX11000 เช่นกัน”
