ทีโอที คาดครึ่งปี 2562 กำไร 1,000 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปี กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,490 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 56,500 ล้านบาท มาจากรายได้ดำเนินงานโดยบริษัทเอง 25,300 ล้านบาท และรายได้ดำเนินงานของพันธมิตร 31,200 ล้านบาท
นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างองค์กร โดยผลักดันองค์กรให้ไปสู่ธุรกิจดิจิทัลมากขึ้น ตั้งแต่การปรับวัฒนธรรมองค์กร รวมทั้งพัฒนาและสรรหาบุคลากรรองรับยุคดิจิทัล
นอกจากนี้ ยังยกระดับต่อยอดธุรกิจเดิม โดยยกระดับบริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) เพื่อสนับสนุนภาครัฐและภาคธุรกิจ และพัฒนาการบริการดิจิทัล (Digital Service) ได้แก่ บริการ Cloud Services, Cyber Security และ Data Analytic รวมถึงการให้บริการ Digital Solution Platform โดยบริษัทได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.2562) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าทั้งปี 2562 กำไรสุทธิจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,170 ล้านบาท
“กำไรสุทธิและรายได้ น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายทั้งปีนี้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,490 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 56,500 ล้านบาท มาจากรายได้ดำเนินงานโดยบริษัทเอง 25,300 ล้านบาท และรายได้ดำเนินงานของพันธมิตร 31,200 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัททำแผนและงบประมาณ เตรียมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เนื่องจาก รมว.ดีอี จะต้องสรุปการใช้จ่ายของแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลฯ ให้กับสำนักงบประมาณต่อไป” นายมนต์ชัย กล่าว
สำหรับรายได้ดำเนินงานโดยบริษัทเอง จะมาจากรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์ประจำที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) และธุรกิจดิจิทัลและคลาวด์ โดยธุรกิจบรอดแบนด์ ยังเป็นรายได้หลักคิดเป็นประมาณ 30% ของรายได้รวม
อย่างไรก็ตามการขยายบรอดแบนด์ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าอยู่ที่ 1.4 ล้านราย มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 15-16% อยู่ในอันดับที่ 3 รองจากบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือ บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
นายมนต์ชัย กล่าวว่า เรื่องการขยายบรอดแบนด์ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจุบันลูกค้า 1.4 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้า ADSL ประมาณ 200,000 ราย และไฟเบอร์ออฟฟติกประมาณ 1.2 ล้านราย ดังนั้นบริษัทพยายามเปลี่ยนจาก ADSL เป็นไฟเบอร์ออฟฟติกให้เร็วที่สุด หลังจากได้ดำเนินการมาแล้ว 4-5 ปี ใช้งบประมาณ 7,000 - 8,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายเปลี่ยนเป็นไฟเบอร์ออฟฟติกให้หมดภายใน 2 ปี หรือปี 2564 ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบของบริษัทเอง เพื่อให้ธุรกิจบรอดแบนด์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่รายได้ดำเนินงานของพันธมิตร มาจากการรับรู้รายได้จากการเป็นพันธมิตรกับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บนคลื่น 2300 MHz และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ บนคลื่น 2100 MHz