หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่า “ไม่ใช่แฟนของบิตคอยน์และเงินดิจิทัล" เพราะไม่ใช่เงินตราที่แท้จริง ปรากฏว่าเงินคริปโตอย่าง Bitcoin ร่วงลงแม้จะคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากกว่า 160% ตั้งแต่ต้นปี โดยมูลค่า Bitcoin ลดลงอย่างรวดเร็วจนต่ำกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐเรียบร้อย
Bitcoin เป็นสกุลเงินเสมือนที่มีค่าที่สุดของโลก มูลค่า Bitcoin ลดลงประมาณ 10% จากระดับ 10,175 เหรียญ จนต่ำกว่า 9,872 เหรียญสหรัฐตามข้อมูลของ CoinDesk สาเหตุของมูลค่าที่ลดลงถูกมองว่าเป็นเพราะข้อความทวีตที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสะท้อนความคิดว่าผู้นำสหรัฐฯไม่เชื่อมั่นในเงินสกุล Cryptocurrencies และต้องการให้เงินคริปโตถูกควบคุมมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เอื้อต่อพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การค้ายาเสพติด และกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่น
มูลค่าของ Bitcoin ยังลดลงเพราะความเห็นของทรัมป์ที่ระบุว่าเฟซบุ๊ก (Facebook) ควรจะดำเนินการขอใบอนุญาตธนาคารเพื่อใช้ในการสร้าง cryptocurrency ของตัวเองอย่าง Libra ด้วย ความเห็นนี้ของทรัมป์แปลว่าตัวผู้นำสหรัฐฯยังไม่มีความรู้ด้านสกุลเงินดิจิทัลอย่างแท้จริง
ผลคือสังคมเงินคริปโตนั้นไม่ใส่ใจกับความคิดเห็นของทรัมป์ เบื้องต้นไบรอัน อาร์มสตรอง (Brian Armstrong) ซีอีโอของบริการคอยน์เบส (Coinbase) ชี้ว่าการที่ผู้นำสหรัฐฯเอ่ยถึงเงินสกุลเสมือนก็ถือว่าเงินคริปโตประสบความสำเร็จแล้ว เพราะมีความโดดเด่นเรื่องการตื่นตัว โดยเชื่อว่าหลังจากการเพิกเฉย และการไม่เห็นด้วย เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะเริ่มหามาตรการเพื่อรับรองเงินดิจิทัลซึ่งจะถูกใช้งานแพร่หลายในที่สุด
สำหรับ Bitcoin สถิติชี้ว่ายังคงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 160% ตั้งแต่ต้นปีแม้จะเริ่มลดลงเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของมูลค่าเงินดิจิทัลมีสาเหตุใหญ่เพราะข่าวของบริษัทใหญ่เช่น Facebook ที่เริ่มมีส่วนร่วมในตลาดนี้ อย่างไรก็ตาม เงินสกุลอื่นเช่น ether และ XRP ซึ่งเป็น cryptocurrencies ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 และ 3 ของโลก (ตามลำดับ) ก็มูลค่าลดลงด้วยเช่นกัน โดย ether ลดลงเกือบ 17% เป็น 221 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ XRP ลดลง 5% มาอยู่ที่ประมาณ 31 เซนต์
อีกข่าวแง่ลบในวงการเงิน crypto ด้านอื่น คือตำรวจจีนสามารถยึดคอมพิวเตอร์ประมาณ 4,000 เครื่องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเหมืองขุดเงิน Bitcoin ด้วยข้อหาขโมยไฟฟ้ามูลค่าเกือบ 3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การขุด Bitcoin นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าต้องใช้พลังงานมหาศาล โดยมีการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าการใช้พลังงานในเหมืองขุดเงินดิจิทัลนั้นสูงเท่ากับพลังงานที่ใช้ในสวิตเซอร์แลนด์ทั้งประเทศ.