แคนนอนเสริมทัพกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ด้วย EOS R มิเรอร์เลสฟูลเฟรม ที่จะมาช่วยให้แคนนอนครองเบอร์ 1 ในตลาดกล้องได้มั่นคงมากยิ่งขึ้น เชื่อภายในปีหน้ามีส่วนแบ่งตลาดมิเรอร์เลสขึ้นเป็นอันดับ 1 จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งอยู่ราว 20%
นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันในกลุ่มของกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ (DSLR รวมกับมิเรอร์เลส) ในปัจจุบันว่ามีความคึกคักมากขึ้น จากการที่ทุกๆ แบรนด์หันมาจับตลาดมิเรอร์เลสเพิ่มเติม โดยที่ผ่านมา แคนนอนมีส่วนแบ่งทางการตลาดในเชิงมูลค่าเป็นเบอร์ 1 ในตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ติดต่อกัน 9 ปี จากการที่แคนนนอนมีผลิตภัณฑ์ตั้งแต่กลุ่มผู้ใช้ระดับเริ่มต้นไปจนถึงกลุ่มผู้ใช้งานมืออาชีพ
เมื่อมีกล้อง EOS R เสริมเข้ามาก็มีเป้าหมายหลักๆ คือ กลับมาเป็นผู้นำในตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้แบบแข็งแรง จากที่ปัจจุบัน แคนนอนแข็งแรงมากในตลาดกล้อง DSLR ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 50-60% แต่ในตลาดมิเรอร์เลสปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ราว 20% และคาดว่าจะเป็น 25% ภายในสิ้นปีนี้
“ในวันนี้ แคนนอนจะลากเส้นกราฟใหม่ ในการเริ่มต้นนำระบบเเลนส์ RF ที่มากับกล้องมิเรอร์เลสเทคโนโลยีใหม่บน EOS R ซึ่งมีความสามารถในการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกล้อง และเลนส์ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
โดยล่าสุด แคนนอนได้เปิดตัวกล้อง Canon EOS R ที่เป็นกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นแรก มาเพื่อจับตลาดกลุ่มช่างภาพมืออาชีพ ที่ต้องการกล้องที่มีขนาดเล็กลง พกพาง่าย ในประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น เทียบชั้นกล้อง DSLR ระดับโปร
“ช่วงแรกตั้งเป้าการจำหน่าย EOS R ไว้ที่เดือนละราว 1,000 เครื่องจนถึงสิ้นปีนี้ก่อน เนื่องจากมีข้อจำกัดในแง่ของสินค้ารุ่นใหม่ที่เพิ่งผลิตออกสู่ตลาด ทำให้อาจจะขาดตลาดได้ในบางช่วง แต่ในปีหน้า แคนนอนจะเดินเกมรุกอย่างเต็มรูปแบบ”
จุดเด่นของ EOS R คือ มากับเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 35 มม. ให้ความละเอียด 30.3 ล้านพิกเซล พร้อมเมาส์เลนส์ RF เส้นผ่านศูนย์กลาง 54 มม. ภายในใช้หน่วยประมวลผลภาพ DIGIC 8 พร้อมระบบ Dual Pixel CMOS AF ที่มาช่วยในการจับโฟกัสครอบคลุม 5,655 จุด หรือ 100% ในแนวตั้ง และ 88% ในแนวนอน รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K เฟรมเรท 30p/25p และช่องมองภาพ OLED
สำหรับแผนการทำตลาดในช่วงแรก จะเน้นการเปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้สัมผัสใช้งาน จึงเน้นกิจกรรมโรดโชว์ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงการใช้ช่างภาพชื่อดังมาช่วยแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้งานกล้อง EOS R พร้อมไปกับการแนะนำถึงจุดแตกต่างของกล้อง DSLR และมิเรอร์เลสให้แก่ผู้ใช้
เบื้องต้น EOS R จะวางจำหน่ายแบบบอดี้ อยู่ที่ 82,900 บาท พร้อมเลนส์ RF 24-105 ในราคา 122,900 บาท นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวเลนส์ และอุปกรณ์เสริมสำหรับกล้อง EOS R ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ 24-105 f/4L IS USM ในราคา 39,790 บาท ที่เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 12 ต.ค.
ส่วนเลนส์ 50 mm f/1.2L USM ราคา 85,290 บาท 28-70 f/2L USM ราคา 111,400 บาท 35mm f/1.8 IS STM ราคา 19,900 บาท รวมถึงอุปกรณ์เสริมอย่างอะแดปเตอร์แปลงเลนส์ EF (เลนส์ที่ใช้กับกล้องรุ่นเดิมของแคนนอน) มาใช้งานกับ EOS M ไฟแฟลช แบตเตอรีกริป ที่จะทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม
