Digital Thailand Big Bang ปีสองเริ่มแล้ว ภาครัฐตบเท้าร่วมงาน เน้นชูผลงานภายในกระทรวงดีอี พร้อมให้ความรู้นำบิ๊ก ดาต้า มาใช้งาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 ว่า โลกเรามีสองใบเสมอ มีความเหลื่อมล้ำของคนพื้นที่ชนบทห่างไกล กับสังคมเมือง ดิจิทัลเท่านั้นจะลดความเหลื่อมล้ำลง โดยให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร มีโอกาส มีช่องทางในการทำธุรกิจอย่างเท่าเทียมกัน ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วย คือ การเชื่อมดิจิทัลกับประเทศอื่นๆ
“วันนี้ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 39 จาก 63 ประเทศ จากการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ซึ่งแม้ว่าอันดับเราจะดีขึ้นจากปีที่แล้ว แต่เราต้องเติบโตไปพร้อมกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะเราต้องทำการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน แต่อาจะยังมีความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลกันอยู่ เราต้องช่วยเหลือกัน ต้องทำการค้าแบบพหุภาคี"
นายกรัฐมนตรีย้ำว่ากฎหมายกับสิทธิมนุษยชนต้องเดินไปบนเส้นทางเดียวกัน คนไทยต้องดูว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ละเมิดสิทธิกัน ทุกคนจะต้องเรียนรู้ร่วมกันว่าผิด คือ ผิด จะมาอ้างความไม่รู้ หรืออ้างสิทธิมนุษยชนไม่ได้ ต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ไม่เช่นนั้น โลกก็จะหาความสงบไม่ได้ และที่ผ่านมา รัฐบาลได้จับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้หลายราย และในโอกาสที่ประเทศไทยจะเป็นแชร์แมนด้านดิจิทัลของอาเซียนในปีหน้า ไทยต้องใช้โอกาสนี้ขับเคลื่อนในการพัฒนาดิจิทัลในภูมิภาคนี้ เพื่อให้เติบโตและเข้าแข็งไปด้วยกัน
“เราจะไม่เติบโตไปอย่างเดียวดาย เราต้องช่วยคนอื่นด้วย เพราะทุกคนอยู่ในโลกใบเดียวกัน เราอยู่ในอันดับที่ดี เราต้องดูความพร้อมของเพื่อนบ้านว่าเชื่อมโยงกันได้ไหน ต้องช่วยกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
“ดิจิทัลมีประโยชน์มากมายก็จริง แต่ต้องอย่างมีสติด้วย ดิจิทัลถูกพัฒนามาจากการใช้มันสมองของมนุษย์ เพื่อจัดระเบียบ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วขึ้น เราควรใช้ดิจิทัลอย่างรู้เท่าทัน อย่าให้มายึดครองโลกส่วนตัวเราไปทั้งหมด ต้องมีหลักคิดในการดำเนินชีวิต เพราะนอกเหนือจากการพัฒนาเมืองใหม่ การค้า การลงทุน การคมนาคม ฯลฯ แล้ว สิ่งที่ต้องดำเนินควบคู่กันไป คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ต้องสร้างคนให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงแบบรู้เท่าทัน”
“ผมอยากให้ทุกคนจับสาระให้ได้ว่า สิ่งที่รัฐบาลทำทุกวันนี้ คือ ต้องการให้ประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเป็นอย่างไร เพราะทุกคน คือ เพื่อนกัน เราทุกคนอยู่ในโลกใบเดียวกัน ไม่ใช่คู่แข่งขัน ทุกคน คือ มนุษยชาติ ที่ใช้อากาศเดียวกัน มีน้ำเชื่อมต่อกันด้วยทะเล มีดินเชื่อมต่อด้วยแผ่นดิน ทั้งหมด คือ โลกใบเดียวกัน ใครจะหวังเก่งคนเดียว จะเจริญคนเดียว มันจะก็จะเกิดความขัดแย้ง ดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาทลดความเหลื่อมล้ำได้ หากทุกคนซื่อสัตย์ จริงใจต่อกัน ปฏิบัติต่อกันเป็นเหมือนมนุษยชาติ เป็นโลก เป็นครอบครัวเดียวกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดีอี กล่าวว่า ในปี 2561 ทางกระทรวงฯ โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ดำเนินการจัดงาน Digital Thailand Big Bang 2018 ขึ้น 2 ส่วน คือ 1) ในส่วนภูมิภาค การจัดงาน Digital Thailand Big Bang Regional 4 ภูมิภาค ภายใต้แนวคิด Digital Transformation Thailand : โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน จัดใน 4 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่, ระยอง, และสงขลา โดยทั้ง 4 เมืองนี้ เป็นเมืองที่ได้รับการคัดเลือกว่าที่มีศักยภาพ และเป็นเมืองนำร่องของ Smart City ภายใต้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งงานในส่วนภูมิภาคประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 61,000 คน ประกอบด้วยกลุ่มผู้ประกอบการ นักพัฒนาดิจิทัลซอฟต์แวร์ โปรแกรมเมอร์ นักเรียน นักศึกษา ครู และผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการ และประชาชนทั่วไป และ
2) ในส่วนกลาง การจัดงาน Digital Thailand Big Bang 2018 ระหว่างวันที่ 19-23 กันยายน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค ทั้งหมดนี้แสดงว่า กระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับงานนี้มาก โดยเน้นให้มีความยิ่งใหญ่อลังการกว่าปีที่แล้ว มีการเพิ่มพื้นที่การจัดงานให้ใหญ่ขึ้นเป็น 60,000 ตารางเมตร เต็มพื้นที่ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เพื่อสามารถรองรับการแสดงเทคโนโลยีชั้นนำ และเพิ่มวันจัดงานเป็น 5 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาเรียนรู้และสนุกกับดิจิทัล มาเรียนรู้โลกแห่งดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน
*** สดช. เปลี่ยนแนวคิดดาวเทียมไทย
นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กล่าวว่า สดช. จัดงานภายใต้แนวคิด “Massage from the SKY” ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ส่วนที่ 1 Air Space เป็นการนำเสนอองค์ความรู้และเหตุการณ์สำคัญๆ ด้านอวกาศ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
และส่วนที่ 2 The Exploration เป็นการจัดแสดงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศแห่งอนาคต จากองค์กรชั้นนำด้านอวกาศทั้งในและต่างประเทศ โดยการจัดแสดงนิทรรศการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของกิจการอวกาศ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกิจการและเทคโนโลยีอวกาศ ส่งต่อแรงบันดาลใจให้แก่เด็กและเยาวชนได้ต่อยอดแสวงหาความรู้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์นวัตกรรมสุดล้ำสมัย เพื่อส่งเสริมและยกระดับกิจการและเทคโนโลยีอวกาศของไทยสู่มาตรฐานสากลในอนาคต
***กสทฯ ชูแนวคิด B2D
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คอนเซ็ปต์ B2D ของ กสทฯ จะแสดงให้เห็นถึงเทรนด์ทางธุรกิจใหม่ที่บริษัท กำลังจะก้าวไปและพร้อมที่จะสนับสนุนไทยแลนด์ 4.0 ประกอบด้วย Big Data, Digital Service และ Digital Park Thailand
ภายในงานจะแบ่งเป็น 3 โซน 1. โซน Big Data จำลองบรรยากาศคล้ายโรงภาพยนตร์ ซึ่งจะนำเสนอสื่อมัลติมีเดียในรูปแบบ วิดีโอ และอินโฟกราฟิก แสดงการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้ประโยชน์ Big Data ที่กำลังจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย
2. โซน Digital Service รวบรวมความก้าวหน้าของบริการด้าน IoT (Internet of Things) ที่บริษัททำอยู่ โดยเน้นความโดดเด่นของบริการ Security Service ที่มาพร้อมระบบ Video Analytics เทคโนโลยีวิเคราะห์ภาพและวิดีโอจากกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากกล้อง CCTV จำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเก็บข้อมูลภาพใบหน้าของผู้เข้าร่วมงาน เพื่อนำภาพมาวิเคราะห์ข้อมูลตามฟังก์ชั่นที่กำหนดได้ตั้งแต่การจดจำรายละเอียดใบหน้า และข้อมูลเบื้องต้นของบุคคล (Face recognition) การตรวจสอบเส้นทางการเคลื่อนที่ (Motion detection) รวมถึงการตรวจวัดความหนาแน่นของคนในพื้นที่ (Heat map) โดยระบบวิเคราะห์ภาพจากกล้อง CCTV ดังกล่าวจะสามารถใช้ร่วมกับกล้อง CCTV ได้หลากหลายมาตรฐาน โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซ้ำ และโซน Digital Service ยังจัดให้มีการแสดง Dashboard ของบริการที่ใช้เทคโนโลยี LoRa โดยแสดงข้อมูลการทำงานของอุปกรณ์นวัตกรรม IoT หลากหลายรูปแบบที่เชื่อมต่อผ่านโครงข่าย LoRaWAN ไม่ว่าจะเป็น Smart Meter, Smart Lighting, Smart Logistics, Smart Tourism ให้เห็นเป็นกราฟิกบนจอภาพอย่างชัดเจน
3. โซน Digital Park Thailand นำเสนอความลงตัวของพื้นที่โครงการ Digital Park Thailand เพื่อเป็นศูนย์กลางการลงทุนดิจิทัลขนาดใหญ่ในอนาคต โดยโครงการฯ ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนภาคเอกชนที่เข้าร่วมสัมมนา Market Sounding ที่ผ่านมา และล่าสุด อยู่ในขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เกี่ยวข้อง หลังจากนี้ คาดว่าจะได้จัดทำทีโออาร์สำหรับผู้ร่วมลงทุนตามกำหนดเวลา และน่าจะได้ผู้ร่วมลงทุนในโครงการฯ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
***ทีโอทีโชว์ศักยภาพเน็ตเวิร์ก
นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายในบูทของทีโอที ประกอบด้วย 2 ส่วนที่สำคัญ คือ ส่วนที่ 1โครงข่ายมีชีวิต โครงข่าย ทีโอที : TOT Lively Network เป็นการเชื่อมโยงในการให้บริการโทรคมนาคมผ่านโครงข่ายคุณภาพของทีโอที ที่นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ และสังคม ในการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับสังคม ชุมชน และครอบครัว คุณภาพทางการศึกษาที่ทุกคนสามารถหาความรู้ในโลกกว้างผ่านปลายนิ้วได้ด้วยตนเอง การสาธารณสุขที่เข้าถึงประชาชนในพื้นที่ห่างไกล และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการนำเสนอนิทรรศการในมุมมอง 5 ด้าน ดังนี้ การสร้างรายได้เพิ่ม (Lively Community) สาธารณสุข (Lively-Health) คุณภาพชีวิตที่ปลอดภัย (Lively-Security) ความบันเทิง (Lively life) และการศึกษา (Lively Learning)
ส่วนที่ 2. Hall of Fame เป็นการนำเสนอรางวัลที่ทีโอที ได้รับจากการดำเนินงานในการให้บริการโครงข่ายในด้านต่างๆ ประกอบด้วย รางวัลนวัตกรรมดีเด่นประจำปี 2561 ใบรับรองมาตรฐาน MEF2.0 Service Certification และรางวัล Best Community Telecom Project จากโครงการเน็ตประชารัฐ เป็นต้น
*** นั่ง GET เข้างานฟรี
เก็ท (GET) แอปพลิเคชันเพื่อให้บริการเรียกรถ และส่งของ ได้เข้าร่วมงานครั้งนี้ ด้วยการให้ผู้เข้าร่วมชมงาน Thailand Digital Big Bang 2018 สามารถใช้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะ เพื่อเข้าสู่งานได้ฟรี ซึ่งสนับสนุนโดยเก็ท
