เฟซบุ๊ก (Facebook) ถูกศาลในเบลเยียมสั่งให้ยุติการสะกดรอยผู้คนโดยไม่ได้รับอนุญาต มิเช่นนั้น อาจถูกปรับเป็นเงิน 250,000 ยูโรต่อวัน (หรือประมาณ 9.7 ล้านบาท)
บริษัทเฟซบุ๊กถูกสั่งให้ลบข้อมูลทั้งหมดที่บริษัทเก็บมาได้จากคุ้กกี้ โปรแกรมขนาดเล็กที่ใช้ในการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ฝังไว้ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เป็น Third Party ของเฟซบุ๊กเอง ซึ่งการกระทำเช่นนั้น รายงานจากสำนักข่าวบีบีซี ระบุว่า ละเมิดกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวของเบลเยียม และอาจเสี่ยงต่อการถูกปรับเป็นเงิน 250,000 ยูโรต่อวัน
คำสั่งศาลระบุว่า เฟซบุ๊กต้องยุติการติดตาม และบันทึกข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตในเบลเยียม และต้องทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บไปแบบผิดกฎหมายเหล่านั้นทิ้งทั้งหมด ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานระหว่างคณะกรรมการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเบลเยียม (The Belgian Commission for the protection of privacy: CPP) กับเฟซบุ๊ก
สำหรับคดีความระหว่างสองฝ่ายนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2015 เมื่อ CPP ตำหนิว่า เฟซบุ๊กนั้นได้กระทำการสะกดรอยผู้คนเมื่อพวกเขาเข้ามาชมเพจ หรือคลิก Like และกดแชร์ แม้ว่าคนเหล่านั้นจะไม่ได้สมัครใช้งานเฟซบุ๊กเอาไว้ก็ตาม
เมื่อ CPP นำเรื่องนี้เข้าสู่ศาล และนำไปสู่การชนะคดีในที่สุดนี้ ส่งผลให้เฟซบุ๊กออกมาแสดงความผิดหวังในคำตัดสินของคณะลูกขุน โดยริชาร์ด อลัน (Richard Allan) รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะของเฟซบุ๊กในสหภาพยุโรป กล่าวว่า คุ้กกี้ที่ใช้นั้น เป็นคุ้กกี้ตามมาตรฐานทางเทคโนโลยี และมีส่วนช่วยสร้างการเติบโตของธุรกิจจำนวนมากให้เติบโต และเข้าถึงผู้บริโภคในสหภาพยุโรป