เลขาธิการ กสทช. เผยผลประชุมไอทียู ครั้งล่าสุด สมาชิกเห็นพ้องนำคลื่นย่าน 27000-28000 MHz ที่ใช้ในกิจการดาวเทียมมาให้บริการ 5G คาดได้ข้อสรุป ส.ค.นี้ ย้ำการประกาศดังกล่าวไม่กระทบกิจการดาวเทียม เหตุคลื่นเหลือเฟือ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุม ITU-R ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ในหัวข้อ “รับผิดชอบการหาคลื่นความถี่เพิ่มเติม สำหรับร่างหลักเกณฑ์การจัดสรรคลื่นความถี่ในกิจการโทรคมนาคม (IMT) ในอนาคต” เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมมีมติให้ จัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 27000-28000 MHz สำหรับบริการ 5G เพื่อรองรับการใช้งานข้อมูลที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต คาดว่าจะได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการในเดือน ส.ค. 2561
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ประเทศไทยใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 27000-31000 MHz สำหรับกิจการดาวเทียม โดยการประกาศใช้งานคลื่นความถี่ 27000-28000 MHz สำหรับบริการ 5G ของไอทียู จะไม่กระทบต่อการใช้งานเดิม เนื่องจากเป็นการใช้งานจำนวนไม่มากในกิจการดาวเทียม และสามารถใช้งานคลื่นความถี่ซ้ำได้ ทำให้ประเทศสมาชิกไอทียู 80% เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รวมทั้งประเทศไทย
“คลื่นความถี่ย่านนี้ ส่วนใหญ่ใช้ในกิจการดาวเทียม จึงไม่มีปัญหาต่อการประกาศใช้สำหรับบริการ 5G เป็นคลื่นความถี่หลักเพิ่มเติม ส่งผลให้การใช้งาน 5G ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยพบว่า ทั่วโลกมีจำนวนแบนด์วิดธ์ ในคลื่นความถี่ย่านดังกล่าว 300 MHz เพียงพอต่อการใช้งาน”
นายฐากร กล่าวต่อว่า สำหรับคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz และ 1800 MHz ที่ไทยจัดสรรรองรับกิจการโทรคมนาคม ที่รวมถึงบริการ 5G ในอนาคต สามารถใช้งานควบคู่กับบริการ 5G บนคลื่นความถี่ย่าน 27000-28000 MHz ได้ เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้งานที่มากขึ้น ซึ่งการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 27000-28000 MHz สำหรับบริการ 5G เป็นประโยชน์โดยตรงต่อ IoT (อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์) ในด้านการใช้งานข้อมูล