5 ประเด็นควรรู้ก่อนใช้ LINE Mobile

หลังจาก LINE Mobile เริ่มเปิดให้บริการทดสอบมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนล่าสุดเริ่มออกแคมเปญในการให้ผู้ที่ได้รับซิมทดสอบ เชิญชวนผู้ใช้ผ่านการ Invite รวมถึงการเปิดแฟนเพจในเฟซบุ๊ก LINEMobileTH (https://www.facebook.com/LINEMobileTH-442698786074439/) ออกมา เป็นอีกช่องทางในการแจกซิมให้ทดลองใช้งาน

โดยในช่วงแรกผู้ที่ได้รับ Invite ให้เข้าร่วมทดสอบจะได้รับสิทธิในการใช้งานราคาพิเศษลด 75% จากราคาปกติที่กำหนดไว้ในช่วงเวลานี้ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เริ่มตั้งแต่ 69 บาท ไปจนถึง 269 บาท ที่จะได้เน็ต 1.5 GB โทรฟรี 100 นาที ไปจนถึง เน็ต 40 GB โทรฟรี 600 นาทีให้เลือกใช้

จนล่าสุด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเชิญชวนผู้ใช้งานต่อเนื่อง LINE Mobile จึงได้ออกแคมเปญย้ำเข้ามาอีกรอบว่า จะให้ส่วนลด 20% ตลอดทั้งปี 2561 สำหรับผู้ทดลองใช้ที่เชิญชวนเพื่อนเข้ามาใช้งานมาครบ 5 คน ภายในวันที่ 15 กันยายน หรือในช่วงที่เปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ

คำถามที่เชื่อว่ายังอยู่ลึกๆในใจของผู้ที่จะทดลองใช้บริการ LINE Mobile เลยคือต่างสงสัยว่า LINE Mobile คือใคร ทำไมต้องเป็น LINE Mobile มีความเกี่ยวข้องกับ LINE อย่างไร ใช้งานได้สะดวกจริงหรือไม่ และเหมาะสมกับใคร

1.LINE Mobile ไม่ใช่ MVNO แต่เป็นบริการหนึ่งของดีแทค

ก่อนหน้านี้ LINE Moble มีการออกมาให้ข้อมูลในช่วงเปิดให้ใช้บริการอย่างไม่เป็นทางการ พร้อมระบุว่า LINE Mobile บริหารโดยทีมเฉพาะกิจของ DTN ที่ให้บริการตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า โดยบริการด้านเสียงและดาต้าจะดำเนินการบนเครือข่าย DTN

เมื่อเชื่อมโยงเข้าไปภายในดีแทค หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) จะมีกลุ่มธุรกิจดิจิทัล ที่ดูแลโดย แอนดรูว์ ควอลเสท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มดิจิทัล ดูแลอยู่โดยมีเป้าหมายหลักในการค้นหา และพัฒนาบริการดิจิตอลให้แก่ผู้ใช้งานดีแทค

โดยในทีมงานดังกล่าวจะประกอบไปด้วยอดีตผู้บริหารที่เคยทำงานร่วมกับทั้งวีแชท ในเครือเทนเซนต์ และแกร็บ ก่อนมาร่วมงานกับทางดีแทค โดยทีมดังกล่าวจะแยกส่วนในการบริหารออกมา ทำให้ที่ผ่านมาเมื่อสอบถามไปยังดีแทค จะได้คำตอบที่คลุมเคลือว่าสรุปแล้ว LINE Mobile คือใคร

ประกอบกับก่อนหน้านี้ ที่กสทช. ได้มีการเรียกทางดีแทคเข้าไปให้ข้อมูล ก็ระบุชัดเจนว่า LINE Mobile เป็นการให้บริการของบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (DTN) โดยซื้อสิทธิในการใช้ชื่อ LINE Mobile จากบริษัทฯ

2.ร่วมมือกับ LINE แค่ไหน

หนึ่งในจุดขายหลักของ LINE Mobile คือลูกค้าจะได้สิทธิพิเศษในการใช้งานบริการต่างๆของ LINE แบบไม่จำกัด และไม่ถูกคิดค่าดาต้าที่เชื่อมต่อเข้ากับบริการของ LINE ไม่ว่าจะเป็น LINE Messenger, Call, Video Call และ LINE TV

โดยในจุดนี้จริงๆแล้ว LINE Mobile ไม่ได้ต้องขอความร่วมมือกับ LINE ประเทศไทย ก็สามารถทำได้ เพราะปกติผู้ให้บริการเครือข่ายแต่ละรายสามารถเข้าไปกำหนดได้อยู่แล้วว่า แอปพลิเคชันเซอร์วิสใดที่เมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายจะไม่มีการคิดค่าบริการ

เหมือนที่ดีแทค ร่วมมือกับ ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Apple Music AtimeOnline BECTero Radio CAT Radio Coolism Deezer Fungjai Joox และ Tidal ให้ลูกค้ารายเดือนฟังเพลงได้แบบไม่เสียค่าเน็ต ผ่านโครงการ dtac music infinite

ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่า LINE Mobile แค่ไปซื้อชื่อลิขสิทธิ์ และเครื่องหมายการค้าจาก LINE ประเทศไทย มาให้บริการเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากข้อมูลที่ว่า LINE ประเทศญี่ปุ่น ยังไม่มีแผนขยายการทำตลาด LINE Mobile ในต่างประเทศ

3.จุดขายหลักคือง่าย ไม่ต้องพึงพาศูนย์บริการ

LINE Mobile ให้ข้อมูลไว้ว่า ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นบริการโทรศัพท์มือถือใหม่ในรูปแบบดิจิตอล โดยมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในยุคดิจิตอล และแก้ไขความคับข้องใจด้านบริการมือถือที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ไม่ว่าจะเป็น การรอคิวนานหน้าเคาท์เตอร์เพื่อลงทะเบียนหรือชำระค่าบริการ รูปแบบแพกเกจที่ซับซ้อน (มีเงื่อนไขแอบแฝง) ความเร็วอินเทอร์เน็ตลดลงขณะดูวิดีโอรายการโปรด การคิดค่าบริการเกินจริงจากบริการโรมมิ่ง และความยุ่งยากอื่นๆ ทำให้เกิด LINE Mobile ออกมาให้บริการ

4.ค่าบริการในช่วงทดลองใช้

เรื่องของค่าบริการที่ออกมาในปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในช่วงทดลองใช้งาน คือลด 75% จากราคาปกติ 299 - 1,099 บาท เหลือ 69 - 269 บาท ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ส่วนผู้ที่เข้าร่วมโครงการและเชิญเพื่อนครบ 5 คน จะได้รับสิทธิลด 20% ตลอดการใช้งานในปี 2561

เพียงแต่ว่าก็ยังไม่ทราบว่า เมื่อเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการระดับราคาในการให้บริการจะออกมาในรูปแบบใด เพียงแต่ผู้ใช้ก็จะได้ความสะดวกในการใช้งานจากการมีแอปพลิเคชัน ที่สามารถปรับแพกเกจ เลือกความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตั้งควบคุมค่าใช้จ่ายได้

5.เครือข่ายครอบคลุมหรือไม่ ความเร็วสูงสุดได้เท่าไหร่

ในแง่ของพื้นที่ครอบคลุมในการให้บริการ LINE Mobile จะใช้สัญญาณจาก DTN หรือก็คือโครงข่ายของดีแทคในการให้บริการ ดังนั้น พื้นที่ครอบคลุมมากแค่ไหน ถ้าสังเกตง่ายๆก็คือ ถ้าดีแทคใช้งานได้ LINE Mobile ก็สามารถใช้งานได้นั่นเอง

ส่วนความเร็วสูงสุดในการให้บริการ ถ้าย้อนไปดูกับปริมาณคลื่นความถี่ของดีแทค ที่เปิดให้บริการ 4G บนคลื่น 1800 MHz แบนด์วิดท์ 20 MHz ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่จะได้จากการใช้งานจะอยู่ที่ 150 Mbps แต่แน่นอนว่าเมื่อมีจำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายปริมาณมากความเร็วที่ได้ก็จะลดน้อยลง

เมื่อทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้แล้ว ถ้ายังสนใจใช้งาน ต้องการบริการมือถือที่ผู้ใช้งานสามารถควบคุมรูปแบบการใช้งานต่างๆได้ด้วยตัวเอง มีความเป็นดิจิตอลในตัว พร้อมเรียนรู้การใช้งานมือถือในระบบดิจิตอล ก็น่าจะเป็นผู้ใช้งาน LINE Mobile ได้ไม่ยาก

แต่ถ้าเป็นคนที่เวลาใช้งานโทรศัพท์มือถือ มีพฤติกรรมในการพึ่งพา Call Center เป็นหลัก เวลาชำระค่าบริการต้องเข้าไปจ่ายที่ศูนย์บริการ ไม่นิยมใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ต ก็ให้มองผ่าน LINE Mobile ไปก่อนดีกว่า

สำหรับฟังก์ชันในการใช้งานต่างๆของ LINE Mobile สามารถเข้าไปอ่านย้อนหลังได้ที่ http://www.cyberbiz.in.th/line-mobile-beta-in-thailand/