xs
xsm
sm
md
lg

เอ้ก ดิจิทัล เผยคนกดชิงโชคผ่านมือถือสูงสุด 23 ครั้งต่อวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอ้ก ดิจิทัล ชี้มือถือกลายเป็นเครื่องมือทำการตลาดมากขึ้น ชี้แบรนด์สินค้านิยมออกแคมเปญชิงโชคผ่านมือถือ อึ้งสถิติยอดคนส่งชิงโชคสูงถึง 23 ครั้งต่อวัน เร่งต่อยอดนวัตกรรมเปิด Ultra Code เป็น ฮีโร่ โปรดักส์ ทำโมบายล์ มาร์เกตติ้งครบวงจร

นายวรุตม์ ลีเรืองสกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า วงการอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหารมักใช้ USSD และ SMS เพื่อให้ลูกค้าส่งชิงโชคกันมากขึ้น โดยเน้นรางวัลที่มีมูลค่า และสามารถจำหน่ายต่อได้ไว เช่น ทอง ไอโฟน มอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ ทำให้ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เป็นลูกค้ากว่า 25 แคมเปญ มียอดผู้ใช้บริการ 80 ล้านเลขหมาย คิดเป็นจำนวนโค้ดในการส่งถึง 5,500 ล้านโค้ด โดยสถิติการส่งโค้ดชิงโชคสูงสุดอยู่ที่ 23 ครั้งต่อวัน หากคิดเป็นค่าเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 10 ครั้ง ซึ่งช่วงเวลาที่มีการส่งมากที่สุด คือ เวลา 12.00-13.00 น.

สถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า การส่งชิงโชคผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่มีผลต่อการทำการตลาดของแบรนด์สินค้าต่างๆ ในการกระตุ้นยอดขายเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียผ่านโทรศัพท์มือถือถึง 42 ล้านคน และคาดว่าการเติบโตจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง แบรนด์สินค้าต่างๆ จึงต้องมีแอปพลิเคชัน ตลอดจนโซเชียลมีเดียของตนเองในการโปรโมตสินค้า และรักษาฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้บริษัท ต้องพัฒนาโซลูชันโมบายมาร์เกตติ้ง ให้ครบวจรยิ่งขึ้นจากเดิมที่กลุ่มบริการนี้ บริษัทให้บริการ USSD ก็ต้องพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมเป็น Ultra Code เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การทำซีอาร์เอ็ม ได้หลากหลายทั้ง แคมเปญชิงโชค การมอบสิทธิประโยชน์ และการแลกคะแนนสะสม

“Ultra Code เป็นบริการที่ปฏิวัติรูปแบบการทำแคมเปญชิงโชค จากรูปแบบเดิมที่มีความยุ่งยาก ไม่ว่าจะเป็นการตัดชิ้นส่วนสินค้ามาส่งไปรษณีย์ การส่ง SMS ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และลูกค้ากดหมายเลขผิดบ่อยครั้ง จนมาถึงการใช้ USSD ที่เอ้ก ดิจิทัล นำมาต่อยอดสู่บริการ Ultra Code ที่ทำงานได้เร็วขึ้น และตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลายมากกว่า ในปีนี้ เอ้ก ดิจิทัล ต้องการที่จะใช้ Ultra Code เปลี่ยนแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดียไปสู่โซเชียลมาร์เกตติ้ง โดยนำร่องด้วย Line BC (Business Connect) ในการทำแคมเปญชิงโชค ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้แบรนด์สร้างแต้มต่อในการแข่งขัน เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น และยังช่วยขยายฐานลูกค้าอีกด้วย”

นายวรุตม์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่บริษัทเปิดตัวในแบรนด์ของตนเองมาได้ 3 ปี ก็ค้นพบว่า สิ่งที่บริษัทต้องการโฟกัสในการเป็นผู้นำในการทำการตลาดออนไลน์ ประกอบด้วย บริการ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.การซื้อสื่อในช่องทางสื่อที่มีคอนเทนต์เอ็กคลูซีฟ คิดเป็นสัดส่วน 30% 2.การทำซีอาร์เอ็ม แพลตฟอร์ม 20% และ 3.การทำโมบายมาร์เกตติ้ง 50% ซึ่งบริการ USSD อยู่ในกลุ่มนี้ และมีสัดส่วนอยู่ถึง 30% โดยที่ผ่านมา บริษัทมีกลุ่มบริการที่มากกว่านี้ และรับทำตามลักษณะเฉพาะที่ลูกค้าต้องการด้วย แต่กลับกลายเป็นว่า ภาพของบริษัทไม่ชัดเจน และไม่น่าจะสร้างรายได้ที่ยั่งยืนได้ จึงมีการปรับรูปแบบการให้บริการออกเป็น 3 กลุ่มดังกล่าว เพื่อตอกย้ำความเชี่ยวชาญในการเป็นผู้นำในตลาดนี้

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา บริษัทก็เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดอยู่แล้ว โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 55% เนื่องจากเป็นบริษัทในกลุ่มทรูฯ จึงมีความเข้าใจแวดวงโทรคมนาคม และเทคโนโลยี ไม่ได้ซื้อสื่อโฆษณาแบบเดิมๆ แต่บริษัทมีการทำงานคู่กับลูกค้าในการเป็นคู่คิดร่วมกัน และการมีโทเทิลโซลูชัน ก็จะทำให้สามารถเชื่อมต่อเป็นแพลตฟอร์มเดียวกัน และข้อมูลของลูกค้าไม่ผิดพลาด ขณะที่บริษัทอื่นไม่มีทีมทำเองโดยเฉพาะ แต่เน้นการใช้พาร์ตเนอร์ต่างๆ เชื่อมหากัน ความผิดพลาดของข้อมูลลูกค้าอาจจะมีมากกว่า ซึ่งในปีนี้บริษัทคาดว่า จะเติบโต 20%

“ในยุค My Mobile, My Everything ที่มือถือเป็นเสมือนอวัยวะที่ 33 ของผู้คนในปัจจุบัน เราเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลากหลายแคมเปญชิงโชคยักษ์ใหญ่ อาทิ อิชิตัน ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยง 60 วัน 60 ล้าน ซึ่งเป็นแคมเปญที่ใหญ่ที่สุด ด้วยจำนวนคนเล่นสูงถึง 40 ล้านเบอร์ หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนเบอร์มือถือในประเทศไทย และ เป๊ปซี่พา...ซ่า เชียร์ UEFA Champions League ถึงมิลาน ซึ่งเป็นแคมเปญที่ดันยอดขายเป๊ปซี่ ให้เพิ่มขึ้นถึง 30% เป็นต้น นอกจากนี้ เอ้ก ดิจิทัล ยังมีลูกค้าซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเบอร์ 1 ของแต่ละอุตสาหกรรมอีกมากมาย ทั้งเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และฟิตเนส”
กำลังโหลดความคิดเห็น